12 สไตล์กับ คำพูดให้กำลังใจลูก
- “เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” หากคุณพ่อคุณแม่เห็นว่า ลูกรักของเรากำลังจมอยู่กับความเศร้าโศกเสียใจไม่ว่าจะเป็นสาเหตุอันเกิดจาก ผลการสอบ การเรียน หรือแม้แต่กำลังผิดหวังละก็ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่แสดงความเข้าใจให้ลูกเห็นก่อนค่ะว่า คุณเข้าใจว่าลูกรู้สึกอย่างไร เสียใจมากขนาดไหน หลังจากนั้นค่อย ๆ พูดกับลูกว่า สิ่งที่ลูกทำนั้นดีและถูกต้องแล้ว ไม่มีอะไรจะต้องกังวล อาจจะมีผิดหวังไปบ้าง แต่อย่างน้อยลูกก็ไม่ได้อยู่คนเดียว เราจะผ่านความรู้สึกนี้ไปด้วยกันนะลูกรัก
- “ลูกเก่งมากจ้ะ” ไม่ว่าลูกจะได้เกรดน้อย สอบไม่ผ่าน หรือว่าไม่ได้ที่หนึ่ง นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตทั้งชีวิตของลูกจะต้องจบอยู่แค่นี้ใช่ไหมละคะ แล้วทำไม เราถึงจะต้องไปต่อว่าลูกกันด้วย เพราะในสมัยก่อนเราอาจจะทำไม่ได้เท่าลูกเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น แทนที่จะตอกย้ำความผิดหวังกับลูก ทำไมไม่เปลี่ยนมาชื่นชมลูกแทนกันละคะ
- “ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แล้วสิ่งดี ๆ จะมาเอง” หากลูกท้อแท้ และรู้สึกว่าคนอื่นทำได้ดีกว่าตัวเอง แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะตอกย้ำลูกด้วยการเอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่นนั้น ให้ลองเปลี่ยนมาพูดกับลูกในแง่มุมที่ว่า คนทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัว ลูกไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ หากเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดแล้ว เมื่อนั้นสิ่งดี ๆ ที่เราต้องการและรอคอยก็จะมาหาเราเองจ้ะ
- “จงภูมิใจในตัวเองเยอะ ๆ” สอนลูกค่ะ บอกพวกเขาให้เข้าใจว่า คนเราทุกคนนั้น กว่าที่จะต้องเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างนั้น จะต้องชนะความกลัวในใจของตัวเองให้ได้ก่อน ดังนั้น สิ่งที่ลูกทำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าวันนี้จะยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องดูถูกตัวเราเอง เพราะคนที่ชนะใจตัวเองได้นั้น คือคนที่เก่งที่สุดแล้วละจ้ะ
- “อย่าพูดไม่ได้ หากยังไม่คิดเริ่มที่จะทำ” เด็ก ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีคำพูดติดปากว่า “หนูทำไม่ได้” ซึ่งคำพูดเหล่านี้หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกพูดไปเรื่อย ก็เหมือนกับเป็นการปลูกฝังความคิดของลูกว่า พวกเขาทำไม่ได้ และมันก็จะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ดังนั้น คำพูดให้กำลังใจลูก ในสถานการณ์นี้ก็คือ “ลูกจ้ะ อย่าพูดว่าเราทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอกจ้ะ ทุกอย่างอยู่ที่การเริ่มต้นและการฝึกฝนด้วยกันทั้งสิ้น”
- “แม่เชื่อว่าลูกทำได้” เมื่อไรก็ตามที่ลูกรู้สึกไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะทำได้ การที่คุณพ่อคุณแม่มีความคิดว่า หากเรายิ่งดูถูกลูก ตอกย้ำลูก ๆ ก็อาจจะมีแรงฮึดจนสามารถทำได้แน่นอนนั้น อาจจะไม่ใช่ความคิดที่เหมาะสมสำหรับเด็กทุกคนจริงไหมละคะ ดังนั้น แทนที่เราจะทำเช่นนั้น ทำไมเราไม่ลองเปลี่ยนมาเป็น การแสดงความเชื่อมั่นใจตัวลูกแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แค่คำพูดสั้น ๆ ว่า “แม่เชื่อ…ว่าลูกทำได้” สั้น ๆ แค่นี้ลูกก็จะมีพลังที่จะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคตรงหน้าไปได้แล้วละค่ะ
- “กล่าวขอบคุณลูก” ในบางครั้งลูกอาจจะรู้สึกอยากที่จะช่วยอะไรคุณพ่อคุณแม่บ้าง แต่ด้วยความเป็นเด็ก เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน และก็มักน้อยใจในตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรพูดและทำก็คือ การเริ่มต้นให้ลูกได้ช่วยเหลืองานบ้านสักชิ้นนึง ยกตัวอย่างเช่น การหยิบจาน และเมื่อพบว่าลูกสามารถทำได้สำเร็จนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรกล่าวขอบคุณลูก พร้อมกับชื่นชมว่า “นี่ถ้าไม่ได้ลูก คุณพ่อคุณแม่ก็คงไม่สามารถทำได้สำเร็จแน่นอนเลยละจ้ะ ขอบคุณมาก ๆ นะจ้ะ”
- ยกตัวอย่างสถานการณ์ให้กับลูกได้เห็นภาพที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ลูกกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวในห้องมืด ๆ แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะพูดว่า กลัวอะไร!?! เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังกลัว แล้วโตขึ้นจะไปทำอะไรกิน … หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังพูดประโยชน์ในแนวที่ว่า ลูกเห็นเส้นหรือประตูนั้นไหมจ้ะ ลูกรู้หรือไม่ว่ามีอะไรอยู่ข้างหลัง ถ้าไม่รู้ ไม่เคยเห็นแล้วทำไมเราจะต้องกลัวด้วยละจ้ะ เพราะถ้าหากลูกยังเกิดความรู้สึกกลัวอยู่แบบนี้ ลูกก็จะต้องอยู่แต่ตรงนี้อยู่ในพื้นที่เดิม ๆ ลูกจะไม่มีโอกาสที่จะรู้หรือได้เห็นแสงสว่างที่อยู่หลังประตูบานนั้นเลย ดังนั้น ถ้าหากลูกอยากเห็นละก็ ลูกจะต้องก้าวข้าวผ่านความกลัวนี้ไปให้จงได้
- “ลูกกำลังคิดอะไรอยู่” หากลูกกำลังซึมเศร้า นั่งน้ำตาคลออยู่เพียงลำพังละก็ ถ้าคุณเห็นว่าเป็นเช่นนั้น ขออย่าได้เดินหนีลูกไปโดยเด็ดขาดนะคะ ให้คุณพ่อคุณแม่แสดงออกด้วยการเข้าไปพูดคุย และค่อย ๆ ถามหาความจริงจากลูกว่า พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ ใช่กลัวหรือไม่ ถ้าใช่ละก็ ให้คุณพ่อคุณแม่ค่อย ๆ ตะล่อมถามลูกดูค่ะพร้อมกับลองทำตามข้อคำแนะนำตามข้อต่าง ๆ ของบทความนี้ดู บางทีอาจจะพบข้อที่ตรงใจและสามารถใช้เป็น คำพูดให้กำลังใจลูก ได้ก็เป็นได้นะคะ
- “ไปหาอะไรเล่นหรือไปอ่านนิทานกันดีไหมจ้ะ” การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ก็อาจจะส่งผลให้ความเครียดและความกังวลใจของลูกเริ่มมีมากขึ้น การกล่าวเชิญชวนให้ลูกไปร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือแม้แต่การพาลูกออกมาจุด ๆ นั้นก็สามารถช่วยทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้นได้ไม่ยากเลยนะคะ
- “ไม่มีใครไม่เคยล้ม” ลูกกำลังผิดหวังเสียใจกับสิ่งที่พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่สำเร็จอยู่ก็เป็นได้ นอกเหนือจากการปลอบใจลูกแล้ว อยากให้คุณแม่ลองบอกกับลูกดูว่า “ลูกจ๋า … คนที่ลูกเห็นว่าพวกเขามี พวกเขาประสบความสำเร็จนั้น ลูกหรือไม่ว่า เขาจะต้องพบกับความผิดหวังมากมายขนาดไหนกว่าที่จะมาถึงจุดนี้ได้ ดังนั้น หากเราอยากประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะล้มลุกคลุกคลานกี่ครั้ง หากเรามีความมุ่งมั่น ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อมแล้วละจ้ะ”
- “ผิดเป็นครู” อธิบายให้ลูกได้เข้าใจว่า ความผิดหวังถือเป็นคุณครูที่จะมาช่วยสอนให้เราได้รู้จักกับชีวิตมากขึ้น ไม่มีอะไรที่จะสุขสมหวังไปได้เสียทุกอย่าง ดังนั้น จงดีใจที่วันนี้เรามีโอกาสได้รู้จักกับมัน แทนที่เราจะไปกล่าวโทษ คิดมาก น้อยใจ และจมอยู่กับสิ่งนั้น ทำไมลูกไม่เอาสิ่งนั้นมาเป็นครู เพื่อที่เราจะได้ไม่ทำผิดซ้ำอีกละจ้ะ
หากคุณพ่อคุณแม่สามารถนำ 12 สไตล์ คำพูดให้กำลังใจลูก ที่กล่าวไปในข้างต้นนี้ไปประยุกต์ใช้ละก็ ลูกก็จะไม่รู้สึกกลัว หรือกังวลใจอีกต่อไปแล้วละค่ะ
อ้างอิง: Motherly
อ่านต่อบทความอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่