8. อย่าพูดถึงอีกฝ่ายในทางที่ไม่ดี
อาจมีหลายๆ ครั้งที่การโต้แย้งระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ยังสรุปไม่ได้ จึงมีอารมณ์ที่ยังคงโกรธเคืองกันอยู่ ซึ่งเวลาพูดคุยกับลูกถึงอีกฝ่าย ก็จะพูดถึงในทางไม่ดี เช่น พ่อแกหนะ ห่วย !!! , แม่แกหนะ โง่! , พ่อแกนี่ นิสัยต่ำทรามที่สุด! , แม่แกนี่ งี่เง่ามากเลย! เป็นต้น การพูดกับลูกแบบนี้ไม่ว่าฝ่ายไหนจะถูก หรือ ฝ่ายไหนจะผิด เมื่อลูกได้ยินได้ฟังคนที่ตนเองรักสองคน ว่ากล่าวหรือพูดถึงอีกฝ่ายในทางไม่ดี มันก็เหมือนทำร้ายจิตใจลูกตรงๆ ได้อีกเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังปลูกฝังให้ลูกจดจำภาพของอีกฝ่ายว่าเป็นคนไม่ดีอย่างที่ตนได้รับฟังมา
9. อย่าเผลอแสดงบทรักบนเตียงให้ลูกเห็น
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เด็กๆไม่ควรเห็นอยู่แล้ว หลายๆ ครอบครัวนอนรวมกัน ลูกอาจสะดุ้งตื่นมาเห็น ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่คิดจะมีบทรักกันละก็ ไม่ควรมีบริเวณใกล้ๆ ลูก หรือบนเตียงเดียวกันกับที่ลูกนอน ถึงแม้ว่าลูกจะหลับแล้วก็ตาม ให้เลี่ยงไปห้องอื่นแทนจะดีกว่าค่ะ
10. การทำตัวนิ่งเฉยเมื่อลูกผิด
การที่ลูกแกล้งไปผลักคนอื่นล้ม, งอแง เกเรอย่างไม่มีเหตุผล, ทิ้งขยะไม่เป็นที่ หรือเดินเตะของล้มแล้วไม่ขอโทษ พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้่พ่อแม่บางท่านอาจมองดูจะเป็นสิ่งเล็กน้อยสำหรับเด็ก แต่เมื่อปล่อยไปหลายๆ ครั้ง หรือทำจนเป็นนิสัยจะส่งผลกับพฤติกรรมระยะยาวของเด็กๆ ได้
11. อย่าแสดงอาการเหวี่ยงวีน
การที่คุณพ่อคุณแม่มีพฤติกรรมรุนแรงหรืออารมณ์แปรปรวน ย่อมส่งผลร้ายโดยตรงกับลูก เมื่อพ่อแม่ควบคุมสติและอารมณ์ตนเองไม่ได้ ย่อมทำให้ลูกควบคุมสติและอารมณ์ของตนเองไม่ได้เช่นเดียวกัน
อาการเหวี่ยงวีน โมโห เกรี้ยวกราด ตะคอกลูกเป็นประจำ จะทำให้ลูกซึมซับพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว