ประสบการณ์ตั้งครรภ์แฝด !! จากผลของการทำ ICSI ที่คุณหมอ เลี้ยงตัวอ่อนให้รอดอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเหลือเพียงแค่ 2 ตัว ทางแม่กร และพ่อเป้ จึงได้ตัดสินใจ ใส่ตัว 2 ตัวเลย เผื่อหลุด 1 ตัว ก็ยังเหลืออีก 1 ตัว หลังจากนั้นทั้ง 2 ก็หันพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มูกันทุกที่ที่เค้าว่าได้ผลค่ะ และผลปรากฎว่า…
“คุณกรได้แฝดแท้รกเดียวกันถุงเดียวกันนะครับ เป็นแฝดประเภทที่มีความเสี่ยงเยอะที่สุด จะต้องดูแลใกล้ชิดหน่อย”
สิ้นเสียงคุณหมอ กรรู้สึกทั้งดีใจ กังวล และมีคำถามเต็มหัวไปหมด เพราะกรไม่มีความรู้เกี่ยวกับการท้องแฝดเลยค่ะ
กรค่อยๆ ถามคุณหมอทีละข้อ อันดับแรก คือ
- แฝดแท้ประเภทรกเดียวกันถุงเดียวกัน เปรียบเสมือนคน 2 คนอยู่บ้านเดียวกัน ได้อาหารจากที่เดียวกัน เพราะฉะนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแย่งอาหารและถ่ายเลือดกัน ซึ่งภาวะนี้เป็นภาวะที่ป้องกันหรือควบคุมไม่ได้ค่ะ
- หากเกิดภาวะนี้อาจจะทำให้ทารกที่โดนแย่งอาหารหรือถ่ายเลือดไปเสียชีวิตในครรภ์ได้ จึงจะต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด
หากคุณหมอตรวจเจอ จะสามารถรักษาได้ด้วยวิธีเลเซอร์ค่ะ
- ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์แฝด ในช่วงไตรมาสแรก คุณหมอแนะนำให้กรเดินน้อยๆ นอนให้มาก อย่ายกของหนักหรือขึ้นลงบันไดวันละหลายๆรอบ
- และถ้าอยากจะออกกำลังกายให้ปรึกษาคุณหมอหลังพ้นไตรมาสแรกไปแล้วอีกทีว่าสามารถออกกำลังกายประเภทไหนได้บ้าง หนักเบาได้มากแค่ไหน
แม่กรเล่า ประสบการณ์ตั้งครรภ์แฝด วิธีดูแลแม่ตั้งครรภ์ลูกแฝด
กรปฏิบัติตัวตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ ทุกอย่างดูเหมือนจะดีตามคาด จนสัปดาห์ที่14 กรไปหาคุณหมอตามนัดเพื่ออัลตราซาวด์ดูการเจริญเติบโตของเจ้าแฝด และเตรียมตัวไปปรึกษาคุณหมอเรื่องการออกกำลังกายค่ะ
ผลออกมาคือเจ้าแฝดโตดีมากก แข็งแรงดิ้นกันดุ้กดิ้กๆ แต่คุณหมอตรวจเจอภาวะปากมดลูกสั้นค่ะ คุณหมอบอกว่าเราเจอภาวะนี้ไวมาก อายุครรภ์ยังน้อยปากมดลูกไม่ควรสั้นขนาดนี้ และที่สำคัญคือ ไม่มีอาการอะไรบ่งชี้เลยค่ะ
ทำให้การออกกำลังกายที่กรตั้งใจจะมาปรึกษาคุณหมอต้องพับเก็บไว้ยาวๆเลย คุณหมอสั่งให้กร bed rest เองที่บ้าน เดินให้น้อยที่สุด อนุญาตให้ขึ้นลงบันไดได้วันละ 1 รอบ และถ้าจะออกข้างนอกให้กรนั่งวีลแชร์เท่านั้น ก่อนกลับบ้านโดนฉีดยากันแท้งต่อ ทั้งที่วางแผนกันว่าจะหยุดฉีดแล้ว พร้อมกับได้รับยาคลายมดลูกกับยาที่ช่วยเรื่องปากมดลูกสั้นด้วยค่ะ
พอกลับมาถึงบ้านพี่เป้ตัดสินใจว่าเราจะนอนข้างล่างกันแบบ 100% ใช้เป็น sofa bed เลย กรจะได้ไม่ต้องขึ้นบันได ปลอดภัยที่สุด แต่!!!ข้างล่างไม่มีที่อาบน้ำค่ะ ห้องน้ำข้างล่างเป็นแบบ Powder room คือจะไม่มีที่อาบน้ำ กรเลยต้องมาอาบน้ำหน้าบ้านแทน นึกภาพตามว่ากรนั่งเก้าอี้ผู้สูงอายุ หลบอยู่หลังรถแล้วใช้สายยางหน้าบ้านอาบน้ำค่ะ มีพี่เป้เป็นผู้ช่วยถือสายยางให้ กรจะอาบน้ำประมาณตี 1 กว่า เพราะบ้านอื่นหลับแล้ว มีบางครั้ง Rider ขับมาส่งอาหารบ้านแถวนั้นก็จะตกใจนิดหน่อยค่ะ55555
แต่ถึงจะทำขนาดนี้แล้วก็ยังไม่สามารถทำให้ภาวะปากมดลูกสั้นหายไปได้ค่ะ มีแต่คงที่กับสั้นลง ไม่มีสัปดาห์ไหนที่ตรวจแล้วคุณหมอแจ้งว่าวีคนี้ปากมดลูกยาวขึ้นเลย และการนอน bed rest แบบนี้ก็ส่งผลให้ร่างกายกรไม่แข็งแรง เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งาน แขนขาลีบ เหนื่อยง่ายมากๆ บวกกับแพ้ท้องหนักตั้งแต่วีคที่ 6 มายันคลอดเลยค่ะ
ประสบการณ์ตั้งครรภ์แฝด กับ ภาวะปากมดลูกสั้น
เดินทางมาถึงวีคที่ 19 ท่าทางแนวโน้มปากมดลูกดูไม่ค่อยดีเลยค่ะ ทั้งสั้นและไม่ stable คือเดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด เรียกได้ว่ามีโอกาสจะคลอดได้ทุกเมื่อ แถมกรยังมีอาการท้องแข็งอีกด้วย ทั้งๆ ที่อายุครรภ์ยังไม่ถึง 5 เดือนดีเลย คุณหมอบอกกรว่าถ้าคลอดตอนอายุครรภ์ไม่ถึง 24 สัปดาห์ โอกาสที่ทารกจะรอดชีวิตมีน้อยมาก เราอาจจะเรียกว่าภาวะแท้งได้เลย เราต้องทำยังไงก็ได้ให้ยื้อกันจนถึง 24 สัปดาห์
ใช่ค่ะ ณ วันนั้นเราหวังแค่ให้ถึงวีคที่ 24 เท่านั้น แปลว่ายังไงกรก็คลอดก่อนกำหนดแน่นอน อยู่ที่ว่าจะคลอดเมื่อไหร่ เรานับถอยหลังกันทุกสัปดาห์ที่มาเจอคุณหมอว่าอีกฮึบเดียวนะ ภาวนาให้พ้น 24 วีค อย่างน้อยลูกยังมีโอกาสที่จะรอดชีวิต… จนวีคที่ 23 คุณหมอตัดสินใจฉีดยากระตุ้นปอดให้ค่ะ เผื่อว่ากรจะต้องคลอดเร็วๆนี้ ตัวยานี้จะช่วยให้ปอดเเจ้าแฝดทำงานได้ดีขึ้น แต่ละวีคผ่านไปด้วยความงงปนดีใจค่ะ ยิ่งยื้อให้อายุครรภ์เยอะมากแค่ไหน ลูกก็จะออกมาแข็งแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ แม้แต่ 1 วัน ก็ถือเป็นกำไร
เข้าสัปดาห์ที่ 28 ของการตั้งครรภ์แฝด คุณหมอขอฉีดยากระตุ้นปอดอีกโดสเพื่อความชัวร์ค่ะ หลังจากนั้นก็ให้กรตรวจเบาหวานด้วยการกลืนน้ำตาล ณ ตอนนั้นกรมั่นใจมากว่ายังไงก็ผ่าน เพราะกรแทบจะทานอะไรไม่ได้เลย อาเจียนหมด แพ้ท้องขนาดนี้จะไปเป็นเบาหวานได้ยังไง!! แต่แล้วผลก็ออกมาว่า ไม่ผ่านค่ะ
แถมเจอ ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ อีก!!
กรเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอโมนของครรภ์แฝดค่ะ คราวนี้โดนคุณหมอสั่งคุมอาหารอีก จากที่ทานไม่ค่อยได้ก็ยังจะโดนจำกัดเรื่องอาหารเพิ่ม กรเครียดจนร้องไห้หลายรอบเลยค่ะ รู้สึกว่าการตั้งครรภ์นี้มันทรมานเหลือเกิน ทุกๆ วันผ่านไปด้วยความยากลำบาก 1 วันของกรมันนานมากๆ แถมยังต้องมากังวลอีกว่าลูกจะปลอดภัยไหม วันๆ เอาแต่นั่งฟังเสียงหัวใจลูก ยิ่งช่วงไหนลูกดิ้นน้อยยิ่งฟังถี่เลยค่ะ ส่วนเรื่องยาคลายมดลูก ตัวยานี้จะส่งผลให้ใจสั่นมาก เหนื่อย นอนไม่หลับ แต่ก็ต้องทานเพื่อให้ลูกอยู่ในท้องให้นานที่สุดค่ะ
วีคที่ 30 กรเริ่มมีอาการขาบวมมากๆ กดแล้วบุ๋มไปเลยค่ะ บวมแบบใส่รองเท้าตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่ต้นขาลงไปถึงเท้าบวมจนตึงไปหมดแต่วัดความดันแล้วไม่สูงเลยตัดเรื่องครรภ์เป็นพิษออกไปค่ะ มาถึงวีคที่ 31 เวลาประมาณตี 1 ครึ่ง กรรู้สึกว่าท้องแข็งถี่กว่าปกติและมีอาการปวดท้องเหมือนอยากจะถ่ายค่ะ
กรปวดร้าวลงก้น ไปเข้าห้องน้ำก็ไม่มีอะไร แล้วท้องก็แข็งถี่ขึ้นเรื่อยๆ กรเริ่มไม่สบายใจเลยโทรเข้าโรงพยาบาลเล่าอาการให้พยาบาลแผนกห้องคลอดฟัง พยาบาลแจ้งว่าให้กรรีบมาที่โรงพยาบาลก่อนค่ะ อาการคล้ายคนใกล้คลอด พอไปถึงก็โดนแอดมิดที่ห้องรอคลอดเลยค่ะ เช็คด้วยเครื่องวัดท้องแข็งก็เจอว่าท้องแข็งถี่จริง เลยเริ่มให้ยาระงับคลอดทางสายน้ำเกลือ กรโดนเจาะเลือดไปตรวจด้วย เจอว่ามีโปรตีนรั่ว โพแทสเซียมและเกลือแร่ต่ำ ค่าเบาหวานสูง และมีภาวะซีด
กรโดนเจาะปลายนิ้วก่อน-หลังอาหารทุกมื้อ รวมไปถึงโดนฉีดอินซูลิน เพราะต้องรีบคุมค่าน้ำตาลให้ปกติก่อนจะคลอด ไม่งั้นจะอันตรายค่ะ มียาให้ทานที่ช่วยเรื่องโพแทสเซียม เป็นยาน้ำขวดเล็กๆ รสชาติแย่มากกกก ทานยากมากกกกก ทานไปน้ำตาก็จะไหล
มีแต่คำถามว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย คุณหมอสั่งเพิ่มปริมาณยาระงับคลอดขึ้นทุกครั้งที่เครื่องวัดท้องแข็งแจ้งผลว่าท้องแข็งรุนแรงและถี่ขึ้น ส่งผลหัวใจกรเต้นเร็วกว่า 120 ตลอดเวลา กรเหนื่อยมากทั้งๆที่นอนนิ่งๆ บางทีต้องให้ออกซิเจนช่วยในช่วงที่เหนื่อยมากเกินไป เนื้อตัวเจ็บไปหมดเลยค่ะ แค่กระพริบตาก็เจ็บไปทั้งหน้า ไม่อยากจะขยับตัวอะไรทั้งนั้น
แอดมิดในห้องรอคลอดไป 3 วัน คุณหมอขอดูน้ำหนักของกร เลยให้พี่พยาบาลยกเครื่องชั่งน้ำหนักมาให้ชั่งข้างเตียง นับว่าเป็นครั้งแรกที่กรได้ลุกขึ้นจากเตียงตั้งแต่แอดมิดมา ก่อนหน้านี้คือทำทุกอย่างบนเตียงหมดเลยค่ะ ผลปรากฏว่าน้ำหนักกรขึ้นมา 7 กิโลภายใน 3 วัน!!
น้ำเกลือที่ให้ไป น้ำที่ดื่มไปกรแทบไม่ได้ปัสสาวะออกมาเลย พยาบาลเลยมาเปิดเสื้อผ้าดู ปรากฏว่าหลังกรบวมขึ้นมาเหมือนเต่า ในนั้นมีแต่น้ำเยอะมากๆ ขาก็บวมกว่าก่อนหน้านี้เยอะเลยค่ะ เป็นผลมาจากโพแทสเซียมต่ำและโปรตีนรั่ว หลังจากนั้นกรโดนบังคับทานไข่ต้ม (แค่ไข่ขาว) วันละ 9 ฟอง แบบไม่ให้ใส่เกลือและซีอิ๊วเพราะกลัวร่างกายจะบวมมากไปกว่านี้ แต่พอตรวจเลือดออกมาผลก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรดีขึ้น
จนถึงวันที่คุณหมอไม่สามารถเพิ่มปริมาณยาระงับคลอดได้แล้ว ร่างกายกรรับไม่ไหวแล้วค่ะ น่วมไปทั้งตัว เจ็บไปหมด กรแทบจะไม่มีแรงพูดแล้วด้วยซ้ำ สุดท้ายคุณหมอและพี่เป้ตัดสินใจร่วมกันว่าจะให้กรคลอดในเช้าวันรุ่งขึ้นคืออายุครรภ์ครบ32 วีคพอดีค่ะ เรายื้อกันได้แค่นี้จริงๆ คุณหมอเลยขอฉีดยากระตุ้นปอดอีก 1 โดสก่อนคลอด และคุณหมอจองห้อง ICU กับเตรียมเลือดเอาไว้ให้ค่ะ เพราะกรมีภาวะซีด บวกกับยาระงับคลอดมีโอกาสทำให้กรตกเลือดได้ คุณหมอเลยเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมก่อนเพื่อให้กรและเจ้าแฝดความปลอดภัยที่สุดค่ะ
ประสบการณ์ตั้งครรภ์แฝด เตรียมคลอดลูกแฝดแล้วววว
เช้าวันคลอดทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก กรถูกเข็นไปที่ห้องคลอดโดยที่ทุกคนต้องรออยู่ข้างนอกเนื่องจากสถานการณ์โควิดค่ะ กรทั้งกังวล เครียดและตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน ตอนบล้อกหลังไม่ทันได้รู้สึกเจ็บก็ชาซะแล้ว ผ่านไปไม่ถึง10นาทีก็ได้ยินเสียงกรี๊ดเหมือนนก พี่มิวสิคออกมาแล้วค่ะ!! ผ่านไปอีกไม่กี่10วินาทีก็ได้ยินเสียงกรี๊ดอีกครั้ง พี่ลีริคส์มาแล้วค่าา เร็วมากกกก
ตอนนั้นกรคิดในใจว่าลูกต้องตัวเล็กจิ๋วเดียวแน่เลยหมอถึงทำคลอดได้ง่ายและเร็วขนาดนี้ ใจแป้วสุดๆ กรไม่มีฟีลที่คลอดแล้วคุณหมออุ้มน้องมาถ่ายรูป น้ำตาไหล ซึ้งใจอะไรใดๆ เหมือนคนอื่นเลยค่ะ สิ่งที่กรเห็นคือเด็กตัวแดงๆ ถูกยกแล้ววิ่งผ่านตากรไปแบบไวมาก มองอะไรไม่ทันเลยค่ะ แต่คำแรกที่คุณหมอพูดคือ อยู่ไปได้ยังไงเนี่ย!? น้องตัวยาวมากครับคุณแม่!! แล้วคุณหมอวิสัญญีที่จับมือให้กำลังกรไว้ก็มากระซิบว่าน้องกรี๊ดเสียงดีทั้งคู่แบบนี้โอกาสที่ปอดจะทำงานได้เองสูงเลยนะคะ เผลอๆอาจจะหายใจเองได้ด้วย ตอนนั้นกรเผลอยิ้มและถอนหายใจออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ อย่างน้อยแนวโน้มก็มาดีเนอะ หลังจากนนั้นกรก็หลับไปเพราะกรเริ่มหายใจไม่ออก แน่นหน้าอกและเสียเลือดเยอะคุณหมอเลยให้ยาให้หลับก่อนค่ะ
กรขอเป็นกำลังใจให้แม่ตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อนเยอะหรือมีภาวะคลอดก่อนกำหนดนะคะ เราจะผ่านไปด้วยกัน ความแกร่งของเราจะส่งต่อไปที่ลูกผู้เป็นนักสู้ตู้อบค่ะ✌❤
2 ขีดจางๆ ท้องมั๊ย? กว่าจะเป็น “แม่” … ไม่ง่ายกว่าที่คิด!!! [แม่กร – ษิภูตา เดชสังวรณ์]
แม่กรเล่าละเอียดยิบ “ขั้นตอน ทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI)” ทั้งการแพทย์ทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาครบ!