ระวัง! "ลูกกระดูกหัก" ไม่รู้ตัว สังเกตสัญญาณ ขาโก่ง-บวม-ไม่ขยับ
ลูกกระดูกหัก กระดูกหักในเด็ก ขาบวม

ระวัง! “ลูกกระดูกหัก” ไม่รู้ตัว สังเกตสัญญาณ ขาโก่ง-บวม-ไม่ขยับ

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกกระดูกหัก กระดูกหักในเด็ก ขาบวม
ลูกกระดูกหัก กระดูกหักในเด็ก ขาบวม

2. กระดูกยังคงมีการเจริญเติบโต

การที่กระดูกเด็กยังคงมีการเจริญเติบโตได้ คือ ศูนย์การเจริญเติบโตของกระดูก (physeal plate) ยังไม่ปิด ซึ่งส่งผลอย่างมากที่ทำให้การรักษากระดูกหักในเด็กมีความต่างจากผู้ใหญ่ เพราะศูนย์การเจริญเติบโตของกระดูกมีลักษณะเป็นกระดูกอ่อนที่จะให้การเจริญเติบโตเพื่อเพิ่มความยาวของกระดูกตามร่างกายที่เติบโตขึ้น ส่วนนี้ของกระดูกยังไม่มีการสะสมของแคลเซียมทำให้เป็นส่วนที่อ่อน ง่ายต่อการบาดเจ็บ แต่กลับไม่สามารถมองเห็นได้จากการ X-Ray ทำให้การวินิจฉัยทำได้ยาก และในการรักษาก็ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บต่อส่วนนี้ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดกระดูกที่ปกติใช้ในผู้ใหญ่ก็อาจใช้ไม่ได้ในเด็กเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บของศูนย์การเจริญเติบโต ซึ่งจะนำมาสู่การหยุดการเติบโตของกระดูกและทำให้เกิดผลตามมาที่ร้ายแรงเช่น กระดูกผิดรูปบิดเบี้ยว หรือทำให้แขนขาสั้นยาวไม่เท่ากันได้

ลูกกระดูกหัก กระดูกหักในเด็ก ขาบวม

3. การฟื้นตัวของกระดูก

ในเด็กกระดูกหักง่ายแต่ก็ติดง่าย โดยทั่วไปแล้วในเด็กเมื่อมีกระดูกหักจะมีการฟื้นตัวและการกลับมาติดของกระดูกที่หักเร็วกว่าผู้ใหญ่ รวมถึงเมื่อกระดูกติดแล้วแต่ไม่ตรงหรือมีความผิดรูปของกระดูกหลงเหลืออยู่ก็พบว่าเมื่อกระดูกเติบโตขึ้น กระดูกก็สามารถกลับมาตรงได้เอง ด้วยคุณลักษณะแบบนี้ การรักษากระดูกหักในเด็กจึงเหมาะกับการใส่เฝือกมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะกระดูกติดเร็วจึงไม่ต้องใส่เฝือกนาน และไม่จำเป็นที่กระดูกต้องตรงโดยสมบูรณ์เพราะกระดูกสามารถกลับมาตรงได้เอง ดังนั้นการผ่าตัดเพื่อจัดกระดูกให้ตรงจึงอาจไม่จำเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถรักษาด้วยการใส่เฝือกได้เสมอไป ต้องขึ้นกับปัจจัยอีกหลายอย่างทั้งตำแหน่งและลักษณะของกระดูกที่หัก ช่วงอายุของเด็กในขณะที่กระดูกหัก และสภาพแวดล้อมอื่นๆ รวมถึงกระดูกหักบางชนิดในเด็กก็อาจต้องการการรักษาเฉพาะความชำนาญพิเศษ หรือต้องการใช้อุปกรณ์พิเศษในการยึดกระดูกที่หัก จึงต้องพิจารณาเป็นกรณีไป

อ่านต่อ “การดูแลเมื่อเด็กกระดูกหัก” คลิกหน้า 3

banner300x250-1

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up