นมผงจำเป็นหรือไม่? กินอย่างไรให้ดีสำหรับลูก
ถ้าลูกมีน้ำหนักแรกเกิดปกติ ควรให้ลูกกินนมแม่เป็นหลัก ไม่ควรให้นมผงเมื่อไม่จำเป็น เพราะการให้นมผงจะเป็นการตัดวงจรความหิว ทำให้ลูกอิ่มนานขึ้น นอนหลับนานขึ้น รู้สึกหิวน้อยลง ระยะเวลาในการเข้าเต้าน้อยลง ทำให้นมแม่ไม่มาสักที ถ้าให้เฉพาะนมแม่อย่างเดียว ลูกจะหิวบ่อย เข้าเต้าถี่ขึ้น ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้น้ำนมไหลดียิ่งขึ้น
ยกเว้นบางกรณี เช่น
- น้ำหนักของลูกตกเร็วเกินกว่า 10% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด ในช่วงสัปดาห์แรก อาจทำให้ลูกเกิดอาการน้ำตาลตกได้ จึงจำเป็นต้องให้นมผงเพื่อเสริมสลับกับนมแม่
- คุณแม่รับประทานยาบางชนิดที่จำเป็นต้องงดนมแม่ สามารถให้นมผงแทนนมแม่ได้ แต่ขณะที่งดน้ำนม ก็ควรมีการปั๊มนมออกมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้น้ำนมไหลอยู่เสมอด้วยเช่นกัน
- คุณแม่มีอาการติดเชื้อบางชนิดที่ไม่สามารถให้นมได้ เช่น โรคเริม เป็นต้น สามารถให้นมผงแทนนมแม่ได้
เพราะฉะนั้น นมผงจึงไม่ใช่ยาพิษ แต่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้เด็กรอดชีวิตจากภาวะขาดสารอาหาร แต่เนื่องด้วยวิธีการใช้ที่ไม่ถูกวิธี การให้นมผงที่มากเกินความจำเป็นจะเป็นการตัดวงจรการให้นมแม่ ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องให้นมผง ก็สามารถให้นมผงกับลูกได้ แม้จำเป็นต้องให้นมผง ไม่ควรเสริมนมผงทุกมื้อ คุณแม่ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า จะต้องให้นมผงถึงเมื่อไหร่ ให้กี่มื้อต่อวัน และสามารถหยุดให้นมผงได้เมื่อไหร่
นอกจากนี้กิจวัตรที่สำคัญที่สุดคือ การพาลูกเข้าเต้าอย่างสม่ำเสมอ โดยจำให้ขึ้นใจว่า พาลูกเข้าเต้าเป็นหลัก และปั๊มนมแม่เมื่อจำเป็นเท่านั้น การเตรียมความพร้อมน้ำนมแม่ ก่อนกลับสู่ชีวิตการทำงาน เมื่อคุณแม่จะต้องกลับไปทำงาน 2 สัปดาห์ก่อนไปทำงาน คุณแม่ควรเริ่มฝึกลูกให้ดูดนมจากขวด และฝึกปั๊มนมของตัวเองเก็บเอาไว้ให้ลูกรับประทาน
ลูกร้องไห้ ทำอย่างไรดี?
การร้องไห้ของเด็กเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว เด็กเกิดมาต้องร้องไห้ ถือเป็นเรื่องปกติ โดยเด็กแรกเกิดจะเริ่มร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ และร้องไห้มากสุดช่วงอายุ 6 – 8 สัปดาห์ โดยจะร้องประมาณ 60-120 นาทีต่อวัน และเด็กเล็กมักร้องช่วงเวลาเย็น โดยจากผลการศึกษา สันนิษฐานว่า การที่เด็กร้องไห้ตอนเย็นน่าจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ควบคุมความเครียดซึ่งจะมีปริมาณลดลงในช่วงเย็น จึงทำให้ร่างกายรู้สึกไม่สุขสบาย ซึ่งการร้องไห้ของลูกมักจะเริ่มดีขึ้นหลังจากลูกอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
เด็กที่เป็นโคลิก คือเด็กที่ร้องไห้เกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ติดต่อกัน 3 วันต่อสัปดาห์ โดยจะมีอาการชัดเจนประมาณอายุ 3 สัปดาห์ สาเหตุของโคลิกยังมีการอธิบายที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่า เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะยังจับสัญญาณความต้องการของลูกได้ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกจังหวะ ไม่ตรงตามความต้องการของลูก เมื่อคุณพ่อคุณแม่ปรับจังหวะการเลี้ยงดู การให้นม การนอนให้สอดประสานกับความต้องการของลูกได้ดีขึ้น ไม่มีสิ่งที่ตะเป็นอันตรายกับลูก อาการโคลิกของลูกก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เด็กร้อง
ปัญหาหลังคลอด อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้คุณแม่กังวล ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกน้อยโดยตรง ก็คือเรื่อง เสียงร้องของลูก สาเหตุที่พบได้บ่อยที่ทำให้ลูกร้องไห้ ประกอบด้วย หิว แมลงกัดต่อย ผ้าอ้อมเปียก เด็กบางคนมีพื้นอารมณ์ที่ดูแลยาก ลูกร้องเพราะอยากให้แม่อุ้ม อุณหภูมิภายในห้องไม่เหมาะสม เป็นต้น
อาหารตามวัย เริ่มให้ลูกได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ตั้งแต่แรกเกิด ลูกจะกินนมแม่เป็นอาหารหลักเพียงอย่างเดียว ก่อนที่จะเริ่มปรับมาเป็นอาหารตามวัย ตั้งแต่อายุ 6 เดือน เป็นต้นไป โดยอาหารตามวัยนั้นเริ่มให้ได้ตั้งแต่ลูกอายุ 17 สัปดาห์ โดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องน้ำหนักและส่วนสูงของลูก เมื่อลูกอายุครบก็สามารถเริ่มให้ได้เลย ไม่ควรให้อาหารตามวัยเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกเกิดอาการลำไส้อุดตันได้ และไม่ควรให้อาหารตามวันช้าเกินไป เพราะจะทำให้ลูกขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต โดยควรเลือกอาหารให้มีความหลากหลาย ทั้งแป้ง เนื้อสัตว์ที่ให้ธาตุเหล็ก สังกะสีอื่นๆ ผักผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม
วิธีเตรียมตัวลูกเพื่อกินอาหารตามวัย
ก่อนที่จะให้ลูกเริ่มกินอาหารตามวัย คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมตารางเวลาชีวิตของลูกให้พร้อมด้วยการปรับมื้อนม มื้อนอนให้เหมาะสม โดยเริ่มตั้งแต่ลูกอายุ 4 เดือน ด้วยการให้ลูกกินและนอนให้เป็นเวลา โดยในช่วงวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่จะเห็นสัญญาณหิวของลูกที่ชัดเจนมากขึ้น ว่าเวลาประมาณไหน ลูกจะเริ่มหิว เวลาประมาณไหน ลูกจะเริ่มง่วง โดยในช่วงนี้ ลูกควรกินนมประมาณวันละ 6 มื้อ และควรปรับเวลานอนให้เหมาะสม 2 ช่วงเวลา คือ ตอนสายและตอนบ่าย เลิกการนอนตอนเช้ากลางวันเย็น เพราะจะเป็นการนอนคร่อมมื้ออาหาร ทำให้ลูกงัวเงีย ไม่ยอมรับประทานอาหาร หากลูกรู้สึกง่วงระหว่างมื้อ อาจให้ลูกงีบสักเล็กน้อยได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามปลุกลูกให้ขึ้นมาวิ่งเล่น ทำกิจกรรม เพื่อจะได้หิวและง่วงให้เป็นเวลา โดยช่วงเวลาในการเข้านอนและตื่นนอนของลูก จะเปลี่ยนไปตามกิจวัตรของคุณแม่แต่ละบ้าน สามารถเลือกช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่สะดวก ตรงกับไลฟ์สไตล์ และชีวิตประจำวัน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก