22 ผลไม้สำหรับคนท้อง แม่กินดีลูกได้ประโยชน์ - Amarin Baby & Kids
ผลไม้สำหรับคนท้อง

22 ผลไม้สำหรับคนท้อง สารอาหารแน่น แม่กินดีลูกได้ประโยชน์

Alternative Textaccount_circle
event
ผลไม้สำหรับคนท้อง
ผลไม้สำหรับคนท้อง

ในช่วงตั้งครรภ์ โภชนาการที่ดีถือเป็นเรื่องสำคัญที่แม่ท้องควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยที่กำลังเจริญเติบโตในครรภ์ นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว “ผลไม้” ก็เป็นอีกแหล่งอาหารที่ประกอบด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และและกากใยที่เป็นประโยชน์สำหรับแม่ท้อง มาดูกันค่ะว่ามี ผลไม้สำหรับคนท้อง อะไรบ้างที่คุณแม่กินแล้วดี บำรุงสุขภาพคุณแม่และได้ประโยชน์ต่อลูกน้อยด้วย

22 ผลไม้สำหรับคนท้อง สารอาหารแน่น ได้ประโยชน์ดีต่อแม่และลูกในท้อง

คนท้องกินส้มได้ไหม

1.ส้ม

ผลไม้ตระกูลส้มไม่ว่าจะเป็นส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มบางมด ฯลฯ ล้วนให้คุณค่าสารอาหารคล้าย ๆ กัน

  • มีวิตามินซีสูงมาก ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายของคุณแม่ ป้องกันการเป็นหวัดระหว่างตั้งครรภ์ และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายอีกด้วย
  • มีกากใย ที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้กับแม่ท้อง ช่วยลดอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี
  • มีโฟเลตซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ช่วยป้องกันความผิดปกติของหลอดเลือด ช่วยป้องกันข้อบกพร่องของท่อประสาท ที่ทำให้ลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง

2. มะละกอสุก

แม้ว่ามะละกอจะเป็นผลไม้ที่สามารถกินได้ทั้งสุกและดิบ แต่ในช่วงตั้งครรภ์นั้นการเลือกกินมะละกอสุดที่อุดมไปด้วยวิตามินซี สารเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี และแคลเซียม จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายแม่มากกว่า สารอาหารเหล่านี้ช่วยให้แม่ท้องขับถ่ายง่ายขึ้นแก้ปัญหาท้องผูกที่เกิดขึ้นได้ในขณะตั้งครรภ์ และยังช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน บำรุงระบบประสาทและสายตา ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย คุณแม่สามารถกินมะละกอสุกเป็นมื้อว่างระหว่างวันหรือหลังรับประทานอาหารได้ทุกวัน แต่ควรซื้อแล้วนำมาปอกเปลือกทานเองที่บ้าน หรือเลือกซื้อผลไม้จากร้านที่สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับเชื้อโรคปนเปื้อน เพื่อความปลอดภัยต่อคุณแม่และลูกน้อยในท้อง

3. กล้วย

กล้วย เป็นผลไม้ที่หาซื้อและรับประทานได้ง่ายอีกหนึ่งชนิดที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมายทั้งธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินเอ, บี 1, บี 2, บี 3, มีวิตามินบี 6 ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในขณะตั้งครรภ์ และวิตามินซี ในกล้วยมีปริมาณเส้นใยอาหารสูงจะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายของแม่ท้อง แก้ปัญหาท้องผูกได้ รวมทั้งมีกรดอะมิโนที่ชื่อTryptophan ที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายอารมณ์ ช่วยให้คุณแม่อารมณ์ดี แก้ปัญหาภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ได้ โดยทั่วไปคุณแม่สามารถกินกล่วยวันละ 1 ลูก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่มีอาการแพ้ท้อง

4. ละมุด

ละมุดเป็นผลไม้ที่มีรสหวานและเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์จำนวนมาก เช่น อิเล็กโทรไลต์ วิตามิน A คาร์โบไฮเดรต และพลังงาน ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ อาการลำไส้แปรปรวนลงได้ คุณแม่สามารถกินละมุดได้ตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ แต่ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดภาวะเบาหวานในช่วงตั้งครรภ์

มะพร้าว คนท้องกินได้ไหม

5. มะพร้าว

มะพร้าวเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่คุณแม่สามารถกินได้ตอนท้อง มีคุณค่าทางอาหารสูงและสารอาหารต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น เกลือแร่ โพแทสเซียม วิตามินซี โปรตีน โซเดียม แคลเซียม คลอไรด์ และเส้นใยอาหาร ที่ให้คุณประโยชน์สำหรับแม่ท้อง เช่น

  • โซเดียมโพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันโลหิต และการทำงานของหัวใจคุณแม่ตั้งครรภ์ให้เป็นปกติ
  • แมงกานีส ช่วยบำรุงโลหิตและเสริมสร้างกระดูกให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • วิตามินซี ช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ มีผิวพรรณสดใส
  • กลูโคสและฟรักโทสในปริมาณมาก ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ทันที เมื่อแม่ท้องได้ดื่มก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น แก้กระหาย
  • กรดลอริก ที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัส เชื้อหวัด และเชื้อรา จึงช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของแม่และทารกในครรภ์ และช่วยป้องกันการติดเชื้อของโรคไข้หวัดใหญ่ เอชไอวี และโรคเริม
  • มีไขมันอิ่มตัวที่มีคุณสมบัติละลายน้ำดี (MCT) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยดูดซึมแคลเซียมที่มีส่วนช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
  • มีโฟเลตประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อร่างกายได้รับโฟเลตในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ทำให้ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด
  • เกลือแร่ที่มาจากธรรมชาติ ช่วยลดภาวะการขาดน้ำและช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้ดีทีเดียว

สำหรับคุณแม่ท้องที่ต้องการกินมะพร้าว ควรกินในปริมาณที่พอดีหรือ 1 ลูกต่อวัน เลือกซื้อมะพร้าวอ่อนแบบเป็นลูก เพื่อความปลอดภัย สะอาด เท่านี้ก็จะได้ประโยชน์จากสารอาหารครบถ้วนในมะพร้าวได้เป็นอย่างดีด้วย

บทความแนะนำที่น่าสนใจ : ไขข้อข้องใจ! คนท้องกินน้ำมะพร้าวได้ไหม กินแล้วล้างไข คลอดง่าย ลูกออกมาผิวขาวจริงหรือ?

6. ลูกพรุน

ลูกพรุนเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาเรื่องโลหิตจาง ในลูกพรุนจะมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือธาตุเหล็ก ที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง และมีวิตามิน บี 2 ที่จะช่วยในสร้างแคลเซียม เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันของแม่และทารกในครรภ์ รวมทั้งลูกพรุนยังเป็นผลไม้ที่ตอบโจทย์สำหรับแม่ท้องที่มีอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากลูกพรุนมีไฟเบอร์กากอาหารมาก ซึ่งจะช่วยในการขับถ่ายที่ดี

บทความแนะนำที่น่าสนใจ : ตารางเปรียบเทียบสารอาหารใน ลูกพรุนและน้ำลูกพรุน แก้อาการท้องผูก

7. ฝรั่ง

ฝรั่งนับเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสารอาหารที่หลากหลายเหมาะสำหรับรับประทานระหว่างตั้งครรภ์ได้ดี ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม หากเทียบกับส้มที่ว่าเป็นผลไม้ที่วิตามินซีสูงแล้ว ฝรั่งยังมีวิตามินซีสูงกว่าถึง 5 เท่า ! และยังประกอบด้วยวิตามินเอสูง ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและความดันโลหิตในระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งยังช่วยเรื่องเหงือกและฟันให้แข็งแรง อุดมไปด้วยวิตามิน E, iso-flavonoids, Carotenoids และ Polyphenols สารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยย่อยอาหาร ลดอาการท้องผูก และให้ความแข็งแรงแก่ระบบประสาทของทารก นอกจากนี้รสชาติอร่อย กลิ่นหอมสดชื่นของฝรั่งยังช่วยในเรื่องอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดีด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรกินฝรั่งในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากจะทำให้ย่อยยากและส่งผลทำให้ท้องอืดได้ ดังนั้นคุณแม่ท้องควรเลือกกินแต่พอดีและควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนเสมอ เท่านี้การกินฝรั่งก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพต่อแม่และลูกน้อยในท้อง

บทความแนะนำที่น่าสนใจ : “ฝรั่ง” ผลไม้มีประโยชน์…แต่คนท้องไม่ควรกินมาก!

8. องุ่น

องุ่นสามารถเป็นผลไม้ทานเล่นระหว่างมื้อที่ดีต่อสุขภาพในระหว่างตั้งครรภ์ ในองุ่นเต็มไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ เช่นวิตามินนานาชนิด, สารต้านอนุมูลอิสระ มีเส้นใย น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตสที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังมีแมกนีเซียม แคลเซียม เหล็ก กรดโฟลิก และอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่วนช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและป้องกันการติดเชื้อ และนอกจากนี้องุ่นสีเข้มยังมีคุณสมบัติต่อต้านริ้วรอยที่สำคัญและทำให้ผิวของคุณแม่ดูอ่อนเยาว์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม่ท้องควรกินในปริมาณที่เหมาะสมคือ 10-12 ผล และควรล้างทำความสะอาดเปลือกผิวด้านนอกขององุ่นก่อนรับประทานเนื่องจากอาจมีสารเคมีที่ตกค้างอยู่บนเปลือก

9. แอปริคอต

แอปริคอตเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและยังสามารถรับประทานได้ทั้งผล คือทั้งเนื้อและเมล็ด อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันภาวะโลหิตจาง มีแคลเซียมที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง และยังมีวิตามิน A, C, E รวมไปถึงเบต้าแคโรทีน ฟอสฟอรัส ซิลโคน แคลเซียม และโพแทสเซียม สุดยอดสารอาหารเหล่านี้ช่วยในการพัฒนาและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ มีเส้นใยสูงและดีเยี่ยมที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของธาตุอาหารหลัก เช่นทองแดงแมกนีเซียมและแมงกานีส แร่ธาตุเหล่านี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของเอนไซม์บางชนิดและมีความสำคัญต่อการทำงานของกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย

คนท้องกินผลไม้อะไรดี
คนท้องกินผลไม้อะไรดี

10. สตรอวเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้แสนอร่อยเหมาะที่คุณแม่ท้องจะกินในมื้อว่างได้ดี เพื่อเพิ่มสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ในสตรอวเบอร์รี่อุดมไปด้วย

  • วิตามินซีและวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อาทิเช่น ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด ลดอาการภูมิแพ้ ลดอาการเลือดออกตามไรฟันที่เกิดจากการขาดวิตามินซี และช่วยบำรุงสายตา เป็นต้น
  • ไฟเบอร์และโฟเลต ช่วยในการลดความเสี่ยงของข้อบกพร่องของท่อประสาท
  • แร่ธาตุต่างๆ อย่าง ธาตุเหล็ก แมงกานีส และโพแทสเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกของลูกน้อยในครรภ์ที่กำลังเติบโตให้แข็งแรงขึ้น และช่วยในการปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ มีฟลาโวนอยด์สูงที่มีศักยภาพสูงในการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
  • สารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงช่วยลดอาการอักเสบ อาการปวดตามข้อ เนื่องจากมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะตั้งครรภ์
  • กรดฟอลิค ป้องกันทารกมีอาการผิดปกติทางสมอง ที่คุณแม่สามารถรับประทานตั้งแต่ในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์
  • อุดมด้วยใยอาหารสูง ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ

อย่างไรก็ตามก่อนซื้อสตรอเบอร์รี่มารับประทานแต่ละครั้งควรเลือกซื้อจากแหล่งผลิตที่เน้นความปลอดภัย เนื่องจากมีการใช้ยากำจัดศัตรูพืช และคุณแม่ควรล้างทำความสะอาดก่อนรับประทานเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพตามมา

บทความแนะนำที่น่าสนใจ : สตรอเบอร์รี คนท้อง ผลไม้ดีต่อสุขภาพ

11. เชอร์รี่

เชอร์รี่จัดว่าเป็นผลไม้ที่เป็นแหล่งวิตามินซีที่ยอดเยี่ยม ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระหว่างตั้งครรภ์ให้กับคุณแม่และลูกน้อยได้จากโรคติดเชื้อ เช่น โรคหวัดและผื่น การรับประทานเชอร์รี่ยังช่วยในการส่งเลือดไปเลี้ยงรกและทารกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชอร์รี่ยังมีสารเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ดี ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยต้านความเครียดที่จะทำให้คุณแม่นอนหลับสนิทได้อีกด้วย

12. บลูเบอร์รี่

บลูเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอ์รี่อีกหนึ่งชนิดที่เหมาะสำหรับทานเล่นในมื้ออาหารว่างระหว่างตั้งครรภ์ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่ช่วยลดอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี มีสารอาหารที่จำเป็นต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ อย่างเช่น วิตามินซีและวิตามินนานาชนิด รวมไปถึงแคลเซียมและเส้นใยอาหารที่สูง หากกินในปริมาณที่เหมาะสมก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพ ช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ แนะนำว่าในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่สามารถกินบลูเบอร์รี่ร่วมกับอาหารอย่างอื่นเพื่อให้ทานง่ายขึ้นและป้องกันการกินที่มากเกินจำเป็นได้ เช่น ผสมกับโยเกิร์ต ซีเรียล ทำแพนเค้ก ทำสลัดผลไม้ หรือทำเป็นน้ำผลไม้ปั่นรสอร่อย

13. กีวี่

กีวี่สีเขียวและกีวี่สีทองเป็นหนึ่งในบรรดาผลไม้ที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด ในปริมาณแคลอรีต่ำที่สุดและมีสารอาหารหนาแน่นสำคัญมากมาย อาทิ วิตามิน C, E, A, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม กรดโฟลิกและใยอาหาร มีการวิจัยพบว่ากีวีหนึ่งผล มีวิตามินซีมากกว่าส้มหนึ่งลูกถึง 74% การรับประทานกีวีสองผลต่อวันจะช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินซีในร่างกาย และประโยชน์มากมายจากการรับประทานกีวี่ เช่น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกันโรค ช่วยรักษาระบบทางเดินหายใจ เพื่อป้องกันอาการหวัด ไอ หรือหายใจไม่ออก ลดความเสี่ยงของการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้ง่ายขึ้นได้ อีกทั้งกีวีมีปริมาณโฟเลตสูงซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่และทารกในครรภ์ และยังช่วยทำให้ผิวและเซลล์เม็ดเลือดมีสุขภาพดี

คนท้องกินแอปเปิ้ลได้ไหม

14.แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยสารอาหารทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ สารฟลาโวนอยด์ มีเส้นใยอาหารสูง วิตามินซีสูง วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก เป็นต้น และประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายกับแม่และลูกในท้อง อาทิเช่น

  • ในแอปเปิ้ลมีวิตามินซีสูงที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อโรค และอาการติดเชื้อต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่และลูกในท้องได้
  • มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าการกินแอปเปิ้ลขณะตั้งครรภ์อาจช่วยลดโอกาสที่ทารกจะเป็นโรคหอบหืดและภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้ อีกทั้งยังสามารถลดอาการตีบแคบของทางเดินหายใจได้อีกด้วย
  • แอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยสารอาหารและมีวิตามิน A, E และ D และสังกะสี
  • มีคาร์โบไฮเดรต ที่ช่วยเพิ่มพลังงานแก่ร่างกายให้กับแม่ท้อง
  • มีแคลเซียมสูงช่วยเสริมสร้างกระดูกของแม่และลูกในท้องให้แข็งแรง
  • แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยระหว่างตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดีและลดความผิดปกติของลำไส้
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งแม่และลูก ซึ่งจะส่งผลดีให้กับการทำงานของปอด ช่วยให้ระบบการหายใจของคุณแม่และลูกในท้องทำงานได้ดีขึ้น
  • กินแอปเปิ้ลตอนท้องมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน อาการแสบร้อนกลางอกซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในตอนตั้งครรภ์

สำหรับแอปเปิ้ลนั้นเป็นผลไม้ที่แม่ท้องสามารถกินอย่างน้อยวันละ 1 ลูก เป็นประจำทุกวัน ได้สบายหายห่วงโดยไม่ต้องกังวลระหว่างตั้งครรภ์ เพราะเป็นผลไม้ที่มีปริมาณแคลอรี่ต่ำ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อน้ำหนักตัวหากคุณแม่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : แอปเปิ้ล ผลไม้สร้างสุขภาพสำหรับแม่ท้อง

15. มะม่วงสุก

มะม่วงสุก เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมายที่ให้ประโยชน์ต่อแม่และลูกในครรภ์ เช่น

  • แคลเซียม ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของแม่ท้องให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยสร้างกระดูกและฟันให้กับทารกในครรภ์อีกด้วย
  • ในมะม่วงสุกยังมีวิตามิน A ซึ่งมีส่วนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ
  • วิตามิน C ในปริมาณมาก ที่ช่วยการควบคุมระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องผูกและบรรเทาอาการติดเชื้อเล็ก ๆ ได้ในขณะตั้งครรภ์ และช่วยเสริมสร้างกระดูกให้กับทารกในครรภ์ ช่วยแก้ปัญหาเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบรรเทาอาการหวัดหรือภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้ยังมาช่วยในการเพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • มีไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ช่วยลดอาการท้องผูกสำหรับแม่ท้องที่ปัญหาเรื่องของระบบขับถ่ายได้

อย่างไรก็ตามการกินมะม่วงสุกตอนท้องก็ไม่ควรทานบ่อยหรือทานทานในปริมาณมาก ๆ เนื่องจากมีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือเป็นภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : กินมะม่วงตอนท้อง ได้ประโยชน์หรือได้โทษ

16.มะนาว

มะนาว ถือเป็นแหล่งของวิตามินซีและเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อย่างมากในระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะกินแบบคั้นเป็นน้ำ หรือนำมาปรุงอาหารเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกใจ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกที่มะนาวจะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี และยังมีประโยชน์ของน้ำมะนาวอีกมากมาย เช่น

  • วิตามินซีในน้ำมะนาวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ ช่วยปรับสมดุลและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ป้องกันจากอาการไข้หวัดตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย กระตุ้นระบบย่อยอาหาร กระตุ้นการขับถ่ายและช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ดี ช่วยรักษาอาการท้องผูก และวิตามินซียังเป็นส่วนช่วยให้กระดูกทารกแข็งแรงอีกด้วย
  • มีโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในการบำรุงรักษาความดันโลหิตในระดับปกติ ช่วยป้องกันการติดเชื้อทั่วไป และช่วยให้สมองทารกเติบโตในครรภ์ได้เป็นอย่างดี
  • มีแมกนีเซียมและแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงกระดูกของแม่และทารกในครรภ์

คุณแม่สามารถดื่มน้ำมะนาวตอนท้องได้อย่างน้อยวันละ 1 แก้วก็เพียงพอต่อประโยชน์ที่จะได้รับตลอดการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ควรเลือกเป็นน้ำมะนาวสดเท่านั้น ซึ่งจะให้ผลดีกว่าการกินน้ำมะนาวสำเร็จรูป เพราะอาจมีสารปนเปื้อนจากขวดพลาสติก

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินน้ำมะนาวได้ไหม?

17.ลูกพลับ

เป็นอีกผลไม้ที่มีรสหวานที่สามารถกินได้ทั้งแบบสดหรือแบบที่แปรรูปเป็นลูกพลับแห้ง พลับเชื่อม น้ำลูกพลับ แยมลูกพลับ ฯลฯ ในลูกพลับนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายของแม่ท้อง อาทิเช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัสซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกระดูกของทารก แคโรทีนและวิตามินเอช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจ สายตา และวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน รวมทั้งแมกนีเซียมที่ช่วยลดความดันโลหิต ลดภาวะเครียดระหว่างตั้งครรภ์ที่ช่วยแก้โรคนอนไม่หลับของคุณแม่ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรกินลูกพลับหลังมื้ออาหารซัก 3-4 ชิ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ดี เนื่องจากการกินลูกพลับขณะท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเกลือออกมามาก เมื่อรวมเข้ากับยางในลูกพลับ ก็อาจทำให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

คนท้องกินแตงโม
คนท้องกินแตงโม

18.แตงโม

แตงโมจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินและแร่ธาตุอยู่ภายในมากมาย ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เส้นใย โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และ สังกะสี เป็นต้น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพแม่ท้องมากมาย อาทิเช่น

  • แตงโมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยควบคุมอัตราความดันโลหิตของร่างกาย ช่วยรักษาระดับความดันโลหิตของคุณแม่ไม่ให้สูงเกินไป ซึ่งก็จะลดความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษได้ดี
  • มีวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • แตงโมอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอสูง มีส่วนช่วยบำรุงสายตาของทารกในครรภ์
  • การกินแตงโมขณะตั้งครรภ์มีส่วนช่วยช่วยบรรเทาลดอาการจุกเสียด ท้องอืด อันเนื่องมาจากมีลมหรือกรดในกระเพาะมากเกินไป
  • แตงโมสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องในตอนเช้าให้ดีขึ้นทั้งยังช่วยให้คุณแม่รับประทานอาหารได้ดี เจริญอาหารได้มากขึ้นอีกด้วย
  • แตงโมมีน้ำเป็นส่วนผสมมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ การรับประทานแตงโมระหว่างตั้งครรภ์นั้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ที่จะป้องกันอาการขาดน้ำในระหว่างตั้งครรภ์ได้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแตงโมจะมีประโยชน์ต่อคนท้องมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังอย่ากินในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ด้วยความที่แตงโม เป็นผลไม้ที่มีรสหวาน หากคุณแม่รับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ ซึ่งหากมีอาการรุนแรงมากก็อาจถึงขั้นเกิดอาการครรภ์เป็นพิษเลยก็ว่าได้

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : ห้าม คนท้องกินแตงโม จริงหรือไม่?

19. สับปะรด

ในสับปะรดมีสารอาหารมากมายที่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์ ไม่ว่าจะเป็น

  • วิตามินบี 1 ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและหัวใจ
  • วิตามินบี 6 ช่วยป้องกันโลหิตจาง และบรรเทาอาการแพ้ท้อง
  • แมงกานีส ช่วยบำรุงกระดูกและฟันคุณแม่และลูกในท้อง
  • เบต้าแคโรทีน ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

อย่างไรก็ตามการกินสับปะรดตอนท้องนั้น ควรจำกัดปริมาณให้เหมาะสมเนื่องจากสับปะรดมีความหวาน หากคุณแม่กินมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอาการเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ หรือการกินสับปะรดขณะท้องว่างจะไปกระตุ้นการเกิดกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองขึ้นได้ ดังนั้นแม่ท้องควรทานสับปะรดสัก 2-3 ชิ้นหลังมื้ออาหารก็จะดีต่อสุขภาพร่างกายมากกว่ากินตอนท้องว่าง

บทความแนะนำที่น่าสนใจ : ไขข้อข้องใจ สับปะรด เร่งคลอด ได้จริงหรือ?

20. ทับทิม

แม้ทับทิมจะเป็นผลไม้ที่กินค่อนข้างยาก เพราะมีเมล็ดมาก แต่ในทับทิมนั้นมีแร่ธาตุและวิตามินจำนวนมาก เป็นแหล่งพลังงานที่ดี เป็นผลไม้ที่แม่ท้องไม่ควรพลาดเลยทีเดียว มีเป็นประโยชน์มากมาย อาทิเช่น

  • มีปริมาณเส้นใยสูง ช่วยลดอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์
  • มีธาตุเหล็กช่วยป้องกันโรคโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์
  • ทับทิมมีวิตามินซีสูง มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยให้กระดูกและฟันของลูกในท้องแข็งแรง
  • มีวิตามินเคสูง ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกของแม่ท้อง และยังช่วยในการพัฒนาความแข็งแรงของกระดูกของลูกน้อยในท้อง
  • ในทับทิม 1 เม็ด จะประกอบด้วยโฟเลตสูงถึง 16% คุณแม่ท้องที่ได้รับโฟเลตอย่างเพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความพิการของลูกในท้องได้ โฟเลตจะช่วยสร้างเซลล์ประสาทในสมอง รวมทั้งไขสันหลังของทารกได้เป็นอย่างดี
  • มีสารเคมีธรรมชาติ ที่จะช่วยลดความดันโลหิตระหว่างตั้งครรภ์ได้
  • มีไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับการพัฒนาระบบประสาทของลูกในท้อง ไอโอดีนยังป้องกันไม่ให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดและการแท้งบุตร
  • แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัสในน้ำทับทิม มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกให้กับลูกในท้อง
  • มีเส้นใยสูง ที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกในขณะตั้งครรภ์ได้ดี

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทับทิมจะให้ประโยชน์มากมายกับแม่ท้องและลูกในท้อง แต่เนื่องจากทับทิมเป็นผลไม้ที่มีปริมาณแคลอรี่สูง การกินทับทิมในปริมาณมากเกินไปก็จะทำให้ได้รับแคลอรี่เกินความจำเป็นต่อร่างกาย อาจทำให้เกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง :ประโยชน์ของทับทิม ที่คนท้องไม่ควรพลาด

21. แก้วมังกร

แก้วมังกร เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคุณแม่ท้องและทารกในครรภ์ ซึ่งสารอาหารในแก้วมังกรไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณแม่ท้องมีสุขภาพครรภ์ที่ดีแต่ยังช่วยป้องกันลูกในท้องจากความผิดปกติต่าง ๆ ได้ด้วย อาทิเช่น

  • มีปริมาณโฟเลตสูง ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ และป้องกันโรคสมองพิการของทารกในครรภ์ได้
  • อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับฮีโมโกบินของคุณแม่ท้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจางที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์ได้
  • มีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของทั้งแม่และลูกให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของกระดูกทารกในครรภ์อีกด้วย
  • มีไฟเบอร์หรือกากใยสูง ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างปกติ ช่วยให้ระบบย่อยภายในกระเพาะทำงานได้ดียิ่งขึ้น ปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้การขับถ่ายให้สะดวก แก้ปัญหาอาการท้องผูกระหว่างการตั้งครรภ์
  • มีวิตามินซีสูงและวิตามินที่มีประโยชน์มากมาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงทั้งคุณแม่และลูกน้อย รวมทั้งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสมองของลูกน้อยในครรภ์ และช่วยส่งเสริมสุขภาพการเจริญเติบโต และพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ดี
  • อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับแม่ท้อง และเมล็ดสีดำเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไปในผลแก้วมังกรจะอุดมไปด้วยไขมันที่ไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยต่อต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ระหว่างตั้งครรภ์ได้

ถึงแม้แก้วมังกระจะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ แถมปริมาณแคลอรี่ต่ำที่กินแล้วอิ่มง่ายแบบไม่ต้องกลัวน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ให้พลังงานน้อย ดังนั้นควรให้ได้สารอาหารครบถ้วนต่อร่างกาย แนะนำคุณแม่ท้องทานแก้วมังกรไม่เกินวันละ 1 ลูก หลังมื้ออาหาร หรือจะทานเป็นของว่างระหว่างวัน และรับประทานอาหารอื่น ๆ ให้ครบถ้วน 5 หมู่ก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่และมีพลังงานเพียงพอสำหรับสุขภาพครรภ์ที่ดี

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : รวม 9 ประโยชน์ของ “ แก้วมังกร ” ที่แม่ท้องไม่ควรพลาด!!

อะโวคาโดเหมาะกับคนท้อง
อะโวคาโดเหมาะกับคนท้อง

22.อะโวคาโด

อะโวคาโด ถือเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่มีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นอยู่หลายชนิด และยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารสำคัญมากมายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ อาทิเช่น

  • ในอะโวคาโดมีโฟเลตมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น อะโวคาโดถ้วยเดียวมีสารอาหารเกือบเท่ากับโฟเลตที่ร่างกายของทุกคนต้องการต่อวัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับแม่ท้องตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ที่ช่วยป้องกันการเกิดการพิการตั้งแต่เริ่มสร้างร่างของตัวอ่อน ช่วยให้ลูกในท้อง แข็งแรงสมบูรณ์ และถ้าหากว่าร่างกายของคุณแม่ได้รับสารโฟเลตอย่างเต็มที่ก็จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ หัวใจวาย และความดันเลือดได้ ได้
  • มีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งให้พลังงานและช่วยป้องกันข้อบกพร่องของท่อประสาท และยังเพิ่มเซลล์ที่รับผิดชอบในการสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อสมองของทารกที่กำลังพัฒนา
  • โพแทสเซียมในอะโวคาโดสามารถบรรเทาอาการปวดขาซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะในไตรมาสที่สาม
  • เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามิน A (เบต้าแคโรทีน) ช่วยบำรุงสายตา, วิตามิน B ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ปากนกกระจอก, วิตามิน C ช่วยป้องกันหวัด เลือดออกตามไรฟัน, วิตามิน E ซึ่งเป็นสาร antioxidant  ที่มีคุณค่าในการปกป้องเซลล์ร่างกายจากมลพิษทางอากาศ น้ำ และอาหาร ป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และโรคหัวใจ และวิตามิน K
  • มีเส้นใยโคลีนแมกนีเซียมและโพแทสเซียม
  • มีธาตุเหล็ก โคลีน ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองและระบบเส้นประสาทของทารก ช่วยป้องกันการเสื่อมของสมอง
  • มีสารกลูตาไธโอน ที่มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เป็นไขมันที่ย่อยง่ายมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์และอาการที่เสี่ยงในกลุ่มครรภ์เป็นพิษ
  • มีโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นแก้ปัญหาอาการท้องผูกของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ได้
  • ในอะโวคาโดมีทั้ง โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ที่บำรุงสมองและระบบประสาทและเพิ่มความฉลาดให้ลูกน้อยในครรภ์

อะโวคาโดนั้นนอกจากจะดีต่อสุขภาพคุณแม่ยังดีต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ด้วย อย่างไรก็ตามการกินอะโวคาโดแบบได้ประโยชน์ที่สุดควรกินอะโวคาโดสุกและแนะนำให้ทานปริมาณครั้งละไม่เกิน ครึ่งผล หรืออย่างมากที่สุดไม่เกิน 1 ผลต่อ ถ้ากินมากไปหรือกินผลดิบ จะทำให้มีรสขมอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้

บทความแนะนำที่เกี่ยวข้อง : อะโวคาโด ผลไม้มากคุณค่า เพื่อสุขภาพคุณแม่ท้องและสมองของลูกน้อย

จะเห็นได้ว่า การรับประทานผักและ ผลไม้สำหรับคนท้อง เป็นอาหารว่างที่ดีในระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยให้คุณแม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อนร่างกายมากมาย ที่ช่วยพัฒนาการของทารกในครรภ์ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคและข้อบกพร่องบางอย่างและช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายของคุณแม่ ทั้งนี้ผลไม้แต่ละอย่าง แม่ท้องควรกินในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากรับประทานมากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ ควรกินผลไม้ที่สลับกันไปในแต่ละวัน ควบคู่กับอาหารทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ก็จะช่วยให้มีสุขภาพครรภ์ดีตลอดการตั้งครรภ์นี้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.momjunction.comwww.mommychooses.com

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

แม่เช็กก่อนซื้อ! นี่คือ 6 ผักผลไม้ที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

7 ผลไม้แก้ท้องผูก ช่วยแม่ท้องระบบขับถ่ายดีตลอด 9 เดือน

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up