#อย่าหาทำ #อย่าหาซื้อ #อย่าหากิน ไข่จุ๊บ เทรนด์ตามกระแส เมนูอันตราย! พ่อแม่อย่าให้ลูกกินเด็ดขาดเสี่ยงรับเชื้อโรคเข้าร่างกาย ป่วยหนัก และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้!
ไข่จุ๊บ คืออะไร อันตรายแค่ไหน อยากกิน ไข่จุ๊บ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ตอนนี้ เมื่อผู้ใช้ TIKTOK ท่านหนึ่งได้โพสต์คลิป เมนูหน้าตาแปลก ที่เป็นลักษณะเหมือนไข่ดาว แล้วมีเปลือกไข่วางอยู่ด้านบน ซึ่งหลายคนรู้จักกันในชื่อ ไข่จุ๊บ โดยคลิปนี้มียอดคนดูถึง 3 ล้านวิว เป็นเมนูลับที่มีขายตามร้านขายขนมโตเกียวและโรตี และมีผู้ทำตามอีกมากมาย
ไข่จุ๊บ คืออะไร
ไข่จุ๊บ คือเมนูไข่คล้ายๆ ไข่ดาว โดยมีขั้นตอนการทำดังนี้
- เจาะไข่ไก่เพื่อเอาไข่ขาวออกมา และลงกระทะ
- อย่าให้ไข่แดงหลุดออกมาจากไข่ เสร็จแล้ว เอาเปลือกไข่ไก่ไปวางบนไข่ขาว บางครั้งก็เป็นไข่นกกระทา
- หลังจากนั้นให้นำมาการีนที่ทำโรตีมาละลายน้ำมัน และเทลงไปในไข่ และใส่ซอสแมกกี้ พริกไทย
- ก่อนเสิร์ฟปักหลอดลงไป ไข่แดงจะไม่สุก ใช้หลอดดูดกิน
ขอบคุณคลิปจาก chumsaeng saengchai
ซึ่งหากดูจากวิธีการทำข้างต้นแล้ว ก็มีชาวเน็ตสงสัยว่าพ่อค้าแม่ค้าได้ล้างเปลือกไข่ก่อนหรือเปล่า? ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่า ไข่ไก่ อาจจะมี “เชื้อซาลโมเนลลา” (Salmonella) ปนเปื้อนอยู่ เป็นเชื้อก่อโรคที่พบการแพร่ระบาด เข้าสู่ร่างกายโดยการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป เช่น ผักสด เนื้อไก่ ไข่ นม ปลา และอาหารทะเลที่ไม่ได้ผ่านความร้อนอย่างเพียงพอ รวมไปถึงอาหารสุกๆดิบๆ ไม่ว่าจะเป็นแหนม ลาบ ย า ปูเค็ม ปูดอง ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นหลังจากบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนแล้วประมาณ 6-48 ชั่วโมง
- วิธีดูไข่เก่าไข่ใหม่ เลือกอย่างไรให้ได้ไข่สด!
- แม่แชร์ประสบการณ์เตือน! ลูกท้องเสียถ่ายเหลว ไม่ใช่ยืดตัว แต่เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด
- เมื่อลูกปวดท้องจาก โรคบิด ภัยร้ายหน้าร้อนที่ต้องระวัง!!
>> อาการโดยทั่วไปของผู้ได้รับเชื้อ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ ปวดท้อง มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย โดยความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นนั้น จะแตกต่างไปตามปริมาณเชื้อ ชนิดของเชื้อและความต้านทานของผู้บริโภค
การป้องกันโรคท้องร่วง จากอาหารเป็นพิษ หรืออาหารที่ปะปนเชื้อโรค
♦ หมั่นตัดเล็บให้สั้น ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารและหลังจากเข้าห้องน้ำ
♦ ล้างผักผลไม้ให้สะอาด โดยล้างผ่านน้ำหลายๆครั้ง หรือแช่ในน้ำเกลือ หรือแช่ในน้ำละลายด่างทับทิมหรือน้ำผสมเบกกิ้งโซดา
♦ ล้างภาชนะให้สะอาดทุกครั้ง เช่น เขียง มีด ช้อน ส้อม ถ้วย จาน แก้วน้ำ และควรใช้ช้อนกลางทุกครั้งในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
♦ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆและผ่านการปรุงที่ถูกต้องปลอดภัย ถ้าจำเป็นต้องนำมารับประทานอีกควรทำให้ร้อนจึงจะปลอดภัย โดยมีวิธีสังเกตง่ายๆคือ ถ้าน้ าเดือดปุดๆ คืออุณหภูมิถึง 100 องศาเซลเซียส
♦ ควรเลือกวัตถุดิบที่ถูกสุขลักษณะ เลือกผักผลไม้ที่สดและสะอาด ใช้เวลาในการเลือกให้พิถีพิถันขึ้นเพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพดีที่สุด
♦ ต้องแยกอาหารที่เป็นวัตถุดิบและอาหารที่ปรุงสุกแล้ว เพราะเนื้อสัตว์ดิบอาจจะปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียมา อาหารที่ปรุงสุกควรใส่ภาชนะที่ปิดสนิท ไม่ควรวางปะปนกัน
♦ ไม่ควรรับประทานอาหารที่ปรุงทิ้งไว้เพราะอาหารอาจบูดเน่าก่อนที่เราจะนำมารับประทาน
♦ เก็บอาหารไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ4 องศาเซลเซียส และควรอุ่นอาหารที่เก็บไว้ในตู้เย็นก่อนนำมารับประทานทุกครั้ง
- กินไข่ดิบ เสี่ยงอาหารเป็นพิษ จากเชื้อซาลโมเนลลา
- ลูกติดเชื้อ ซาลโมเนลลา เตือนอย่าเอามือเข้าปาก กินอาหารไม่สุก
- อุทาหรณ์! ลูกติด เชื้อซาโมเนลลา ไข้ขึ้น ถ่ายทั้งคืน เพราะคนอื่นจับอุ้มหอมลูก
การรักษาและดูแล เด็กที่ป่วยโรคท้องร่วง
- ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ ให้จิบทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการขาดน้ำและเกลือแร่หากผู้ป่วยเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปีควรให้ดื่มครั้งละ 1/4-1/2 แก้ว โดยใช้ช้อนค่อยๆป้อนที่ละ 1 ช้อนชา ทุก 1-2 นาทีไม่ควรให้ดูดจากขวดนมเพราะเด็กจะดูดกินอย่างรวดเร็วเนื่องจากกระหายน้ำ ซึ่งจะทำให้ร่างกายดูดซึมไม่ทันและอาจทำให้อาเจียนและถ่ายมาก แต่ไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรือนม เด็กที่ดื่มนมผสม อาจผสมนมให้เข้มข้นเหมือนเดิมแต่ลดปริมาณลง และให้สลับกับสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ หากผู้ป่วยเป็นเด็กอายุมากกว่า 2 ปีควรให้ดื่มครั้งละ 1/2-1 แก้ว ให้จิบทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง เมื่ออาการดี ขึ้นจึงให้หยุดดื่มสารละลายน้ าตาลเกลือแร่ และให้กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย ซึ่งจะทำให้ลำไส้ฟื้นตัวเร็ว
เคล็ดไม่ลับ ถ้าไม่มีสารละลายนำตาลเกลือแร่ สามารถทำเองได้ดังนี้ ผสม น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นครึ่งช้อนชา น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว ใส่ลงในแก้ว คนให้ละลายและเข้ากันดีถ้าดื่มไม่หมดภายใน 24 ชั่วโมงให้ทิ้งไป แล้วผสมใหม่
- หากมีอาการผิดปกติควรรีบนำส่งโรงพยาบาล เช่น ถ่ายหรืออาเจียนไม่หยุดมากกว่า 4 ครั้ง หิวน้ำตลอดเวลา หรือปัสสาวะไม่ออกเนื่องจากขาดน้ำมาก หน้ามืด ช็อกหรือหมดสติ มีไข้ ปวดท้องรุนแรง
- ขับถ่ายในสุขภัณฑ์ที่ถูกสุขลักษณะ รวมถึงกำจัดอาเจียนของผู้ป่วย โดยเททิ้งลงโถส้วม ราดน้ำให้สะอาด จากนั้นควรล้างมือให้สะอาดเสมอทุกครั้งด้วยน้ำและสบู่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
- สิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วยรักษาให้สะอาดเสมอ ซึ่งรวมถึงเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว ทำการซักให้สะอาดและนำออกตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วย
- ผู้ดูแลใกล้ชิดผู้ป่วยควรหมั่นล้างมือ ฟอกสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อปนเปื้อนจากมือสู่อาหารและเกิดการติดโรคได้
ที่สำคัญ หากท้องเสียอย่าซื้อยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาหยุดถ่ายมากินเอง เพราะการขับถ่ายเป็นกระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย การรับประทานยาหยุดถ่ายจะทำให้ลำไส้ทำงานน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้แบคทีเรียเจริญเติบโตเข้าสู่กระแสเลือด อาจถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ
ทั้งนี้สำหรับเรื่องคำเตือน การกินไข่จุ๊บ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องของ HQ หนึ่งใน 10 ของ Power BQ (Power Baby & Kids Quotients) อาวุธที่ช่วยให้ลูกฉลาดรอบด้าน เพราะเด็กยุคนี้มีแค่ IQ และ EQ นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ยังมี Quotient ต่างๆ ถึง 10Q นั่นคือ “10 ความฉลาด” ที่คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ครบไปพร้อมกันนั่นเอง ทั้งนี้ HQ หรือ Health Quotient คือ ความฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งคนที่มี HQ ดี จะรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เช่น กินอาหารที่ดี ครบ 5 หมู่ ขับถ่ายดี ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของตัวเอง ฯลฯ สำหรับเด็กเล็กเราอาจจะยังไม่เห็นพัฒนาการด้านนี้ชัดเจน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปลูกฝังและใส่ใจเรื่องสุขภาพ การดูแลร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันได้ทุกวัน เพื่อให้ลูกซึมซับและดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเอง ซึ่งก็จะเป็นการสร้าง HQ ที่ดีในตัวลูกได้ ยิ่งในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีเยอะขึ้น โรคใหม่ๆ แปลกๆ เชื้อโรคที่พัฒนาขึ้นจาก สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และมลภาวะต่างๆ เราจึงต้องสอนให้ลูกของเราฉลาดใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่างๆ รอบตัว เพราะการไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ
อ้างอิง www.klanghospital.go.th
1.http//:www.thediarrhea.blogspot.com
2.http//:wwwv.phbma.com/connt
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก ⇓