“ชนิดอาหารที่เริ่มให้ลูกนั้นไม่จำกัดค่ะ จะเป็นกล้วยน้ำว้าสุกขูดเอาแต่เนื้อ หรือข้าวสวยบดก็ไม่ผิดแต่อย่างใด เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่ายทั้งคู่ แต่มีหลักที่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจนั่นคือ ควรเริ่มอาหารตามวัยลูก ด้วยอาหารที่ย่อยง่ายและควรเริ่มให้ลูกกินอาหารทีละอย่าง”
ให้ทีละอย่าง คืออย่างไร?
ระยะแรกเริ่มจาก 1 มื้อ โดยอาจเป็นมื้อกลางวัน เช่น ให้กินกล้วยน้ำว้าสุกขูด 1 มื้อ 1 สัปดาห์ และสัปดาห์ต่อไปค่อยเป็นข้าวบด 1 มื้อ 1 สัปดาห์ จากนั้นก็ค่อยกลับมาเป็นกล้วยบด เป็นต้น การให้ลูกน้อยได้รู้จักอาหารทีละชนิดก็เพื่อสังเกตระบบย่อยระบบขับถ่าย หรือผิวหนังของลูกว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร เช่น จากการแพ้อาหารบางชนิด เป็นต้น
เมื่อดูแล้วว่าร่างกายลูกรับกล้วยหรือข้าวได้แล้ว จึงค่อยเพิ่มชนิดอาหารไปพร้อมกับกล้วยขูดหรือข้าวบดทีละชนิด และสังเกตความเปลี่ยนแปลงอีก เช่น ข้าวบดกับตับจะเติมน้ำซุปก็ได้ ข้าวบดกับไข่แดง หรือข้าวบดกับเต้าหู้หลอด ต่อเมื่อลูกเริ่มกินอาหารได้ดี จึงมีการเติมผักเพิ่มเติม เช่น ตำลึง ฟักทอง ผักหวานเสริมเข้าไปด้วย เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้ครบ 5 หมู่
4 ข้อเริ่มถูก จุดเริ่มต้นนิสัยกินดี
1. เนื้ออาหารค่อนข้างละเอียด ด้วยวิธีบด แต่ไม่ปั่น แม้จะเป็นทารกแต่ลูกน้อยก็มีความพร้อมกินอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวที่เนื้ออาหารค่อนข้างละเอียด ด้วยวิธีการบด เพื่อให้กลืนได้ง่าย และลูกจะได้ฝึกทักษะการเคี้ยวและการกลืน
ไม่ควรใช้วิธีปั่นอาหาร เพราะอาหารจะละเอียดเกินไป ลูกไม่ได้ฝึกการเคี้ยว การกลืน จะส่งผลให้เมื่อโตขึ้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกกินอาหารยากขึ้น
2. คอยปรับเนื้ออาหารให้เหมาะสม พ่อแม่จึงต้องหมั่นสังเกตว่าลูกสามารถเคี้ยวและกลืนได้ดีขึ้นหรือยัง และค่อยๆ ปรับเนื้ออาหารหยาบขึ้น เป็นชิ้นเล็กๆ เนื้ออาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับอาหาร ได้สัมผัสรสอาหารมากขึ้น รู้สึกว่าอาหารที่กินอร่อย กินแล้วสนุก จะมีทัศนคติที่ดีกับอาหาร
ส่วนเด็กที่กินแต่อาหารเนื้อละเอียดมาก ทำให้เขาไม่ได้รับสัมผัสและรสชาติของอาหาร เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กินยากเมื่อโตขึ้น
3. ค่อยๆ เพิ่มจำนวนมื้อ ตามช่วงวัย เช่น เมื่ออายุ 6-8 เดือน กินอาหารตามวัย 1 มื้อควบคู่กับนมแม่ อายุ 8- 9 เดือน เพิ่มอาหารตามวัยเป็น 2 มื้อ ควบคู่นมแม่ อายุ 10-12 เดือน เพิ่มอาหารเป็น 3 มื้อควบคู่นมแม่ โดยจัดเวลากินอาหารห่างจากมื้อนม 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกท้องว่างและกินอาหารได้ดีขึ้น
ส่วนปริมาณอาหารให้ค่อยๆ เพิ่มตามที่ลูกน้อยจะรับได้
4. จำกัดเวลาการป้อน ควรอยู่ที่ประมาณ 15-20 นาที แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที และเมื่ออายุได้ราว 9 เดือนลูกน้อยจะเริ่มใช้นิ้วหยิบอาหารได้ ควรเปิดโอกาสให้ลูกหยิบอาหารกินเอง หรือมีช้อนส้อมให้ลูกถือ เป็นการเริ่มฝึกกินด้วยตัวเองค่ะ
อย่างไรก็ดี การป้อนกล้วยทารก ไม่ใช่เรื่องผิดหรือเรื่องไม่ดี แต่สิ่งที่คุณพ่่อคุณแม่มือใหม่ควรู้คือ ต้องป้อนให้ถูกวัย ถูกเวลา เพราะถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ป้อนกล้วยให้ลูกที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน เนื่องจากก่อน 6 เดือนเด็กยังมีกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่แข็งแรงเต็มที่ ระบบการย่อยยังไม่สมบูรณ์ หากกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมเข้าไป อาจมีความผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย หรือแพ้อาหารได้ เนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวมๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคตนั่นเอง
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- วิธีป้อนกล้วยทารก ที่ถูกต้อง! ไม่ทำร้ายลำไส้ลูก
- ลูกอายุ 4 เดือน ท้องผูก ถ่ายไม่ออก เพราะแม่ป้อนกล้วยบด
- อาหาร 6 อย่างนี้ “ห้ามให้ลูกน้อยต่ำกว่า 6 เดือน” กินเด็ดขาด!
- อาหารเสริมลูกน้อย เริ่มเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสม?
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.babiesfirstlactation.com