คุณแม่ได้เปิดเผยอีกว่า หลังจากลูกมีอาการดังกล่าว ตนได้ส่งข้อความทางไลน์ ไปที่ร้านที่ตนซื้อขนมมา แล้วระบุว่า ขนมที่ซื้อมาลูกมีอาการแพ้ขั้นรุนแรง ซึ่งทางร้านได้ตอบกลับมาว่าขอโทษ หลังจากนั้นประมาณวันที่ 6 ก.พ. เวลาประมาณ 12.40 น. ตนได้รับการติดต่อทางไลน์จากทางร้านขนมดังกล่าวว่า “ลูกค้าท่านอื่นมาซื้อไปทาน ทั้งๆ ที่ลูกหลานก็แพ้ ยังไม่มีอาการอะไรเลย ลูกของตนไปทานขนมอะไรมาก่อนหรือเปล่า” ตนจึงตอบไปว่า ในส่วนคนอื่นตนไม่ทราบ แต่ลูกสาวของตนแพ้แป้งสาลีขั้นรุนแรง ถ้ารักษาไม่ทันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งนี่เป็นการต่อว่า ไม่ใช่การขอโทษ
++ผู้เสียหายจึงอยากฝากไปถึงผู้ประกอบการ หรือร้านค้า ควรมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ควรอบรมความรู้ และความเข้าใจของพนักงานทุกคน เกี่ยวกับส่วนผสมของอาหาร หรือขนม เพราะหากมีลูกค้าแพ้อาหาร เข้ามาสอบถามเรื่องวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร จะได้ตอบถูก และขอให้แสดงความจริงใจกับลูกค้ามากกว่านี้
ด้าน นายแพทย์ สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ได้เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว เป็นการแพ้แป้งสาลี ซึ่งมีสารกลูเตนอยู่ด้วย ซึ่งสารดังกล่าวนั้นเป็นโปรตีนหลักอยู่ในแป้งสาลี แป้งไรย์เล่ห์ และมอลล์ เพราะคนที่แพ้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.อาการแพ้รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น ไอ อาเจียน ท้องเสีย หรือแม้แต่ผื่นขึ้นตามตัว
2. อาการแพ้ไม่รุนแรง มีอาการท้องอืด และมีผื่นคันนิดหน่อย
แต่สำหรับกรณีดังกล่าว คือการแพ้รุนแรง ส่วนบางคนที่ไม่ทราบว่า ตนเองมีอาการแพ้หรือไม่นั้น อาจจะไปตรวจสารเคมีในเลือด หรือทดสอบทางผิวหนัง ก็จะทราบได้เช่นเดียวกัน