เมนูอะโวคาโด สำหรับลูกน้อย พร้อมเสริฟความอร่อย
อะโวคาโดไข่อบ
ส่วนผสม
- อะโวคาโด
- ไข่ไก่
- ชีส
- เบคอน
- เกลือ
- พริกไทย
วิธีทำ
- นำอะโวคาโด มาผ่าครึ่ง
- ตักเม็ดตรงกลางของผลอะโวคาโด และเนื้อด้านในออกไปเล็กน้อย
- ตอกไข่ไก่ ลงไปในผลอะโวคาโดผ่าครึ่งที่เตรียมไว้
- โรยชีส และเบคอน เพื่อเพิ่มความอร่อย
- โรยเกลือ พริกไทยเล็กน้อย ตามชอบ
- นำเข้าไมโครเวฟ หรือเตาอบ รอจนสุก
- พร้อมเสริฟ
ครีมอะโวคาโดกล้วยบด
ส่วนผสม
- กล้วย
- อะโวคาโด
- แป้งพัฟสำเร็จรูป
- ผลไม้ตามชอบ
วิธีทำ
- นำเนื้ออะโวคาโดพร้อมกับกล้วยมาใส่ในชาม หลังจากนั้นให้บดทั้งสองอย่างด้วยส้อม
- เติมน้ำต้มสุกสะอาดลงไป แล้วคนให้เข้ากัน หากทำให้เด็กเล็กรับประทาน สามารถตักเสริฟในขั้นตอนนี้ได้เลย
- หากทำให้เด็กโตขึ้นมาหน่อย เราสามารถนำแป้งพัฟสำเร็จรูป มาอบจนสุกหอม ตักครีมอะโวคาโดกล้วยบดใส่ลงไปในพัฟถ้วย
- โรยผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามชอบ บนหน้า พร้อมเสริฟความอร่อย
ส่องประโยชน์ของอะโวคาโด มั่นใจ เมนูอะโวคาโด นี้ดีจริง!!
- อะโวคาโด เป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดดี อะโวคาโดมีไขมันชนิดดี คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated fatty acids) ถึง 70% ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดง เพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด เช่น คอเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (Low Density Lipoprotein-LDL) และไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
- บำรุงระบบประสาทและสมอง เพราะในอะโวคาโดมีกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ซึ่งมีผลดีและจำเป็นต่อระบบประสาทและสมอง โดยกรดไขมันชนิดนี้อาจช่วยลดความเหนื่อยล้าของสมอง และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ในอะโวคาโดมีวิตามินอี ซึ่งมีฤทธิ์ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ เพราะในอะโวคาโดมีลูทีน (Lutien) เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่พบว่าสารสกัดอะโวคาโดอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ แต่การศึกษาเหล่านี้เป็นเพียงการศึกษาในหลอดทดลองและมีข้อจำกัดค่อนข้างมากจึงไม่สามารถยืนยันสรรพคุณในข้อนี้ได้
- บำรุงและรักษาดวงตา ในอะโวคาโด มีสารลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางดวงตาหลายชนิด ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม
- มีโพแทสเซียมสูง ในอะโวคาโด 100 กรัม จะมีโพแทสเซียมสูงถึง 14% และกล้วยจะมีโพแทสเซียมอยู่ 10% ซึ่งจากการวิจัยพบว่า หากเราได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่มากพอจะสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจ นอกจากนั้นโพแทสเซียม ยังมีส่วนช่วยในการรักษาสมดุลของน้ำ กรด-ด่างในร่างกายของเราอีกด้วย
- มีไฟเบอร์สูง อะโวคาโดครึ่งลูกมีไฟเบอร์ 6-7 กรัม โดยแต่ละคนมีความต้องการไฟเบอร์ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไป ในหนึ่งวัน ผู้หญิงควรได้รับไฟเบอร์ 25 กรัม และผู้ชายควรได้รับไฟเบอร์ 38 กรัม รับประทานอะโวคาโดแค่ครึ่งลูกก็เกือบได้ไฟเบอร์ในปริมาณที่ต้องการในแต่ละวันแล้ว
กินอะโวคาโดตอนไหนดีที่สุด??
อะโวคาโดจะได้ประโยชน์สูงสุด ถ้ารัปประทานเมื่อสุกแล้ว อะโวคาโด หากถามว่ากินตอนไหนดีที่สุดนั้น แนะนำเป็นตอนเช้าจะดีที่สุด เวลาอื่นก็สามารถรับประทานได้ แต่เนื่องจากอะโวคาโดทำให้อิ่มนาน การรับประทานตอนเช้า จึงช่วยให้ร่างกายได้ใช้พลังงานได้ดีที่สุด อีกทั้งนักวิจัยยังพบอีกว่า ผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานที่รับประทานอะโวคาโดในตอนเช้า ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และอาจส่งผลดีต่อความดันโลหิตอีกด้วย
อะโวคาโด ควรกินวันละกี่ลูก??
แม้ว่าอะโวคาโดจะมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่เนื่องจากอะโวคาโดมีสารอาหารที่ค่อนข้างเยอะ และให้พลังงานสูงมากๆ เลยไม่ควรรับประทานเกินวันละ 1 ลูก และควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย แทนการกินเพียงอะโวคาโดอย่างเดียว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
โฟเลต สารอาหารจากธรรมชาติในอะโวคาโด
โฟเลตเป็นวิตามินที่จำเป็นที่ช่วยให้ร่างกายสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์เนื่องจากช่วยป้องกันความพิการแต่กำเนิดได้ โฟเลตยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้โฟเลตยังช่วยให้ร่างกายผลิตพลังงาน เผาผลาญโปรตีนและไขมัน และสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงอีกด้วย
ข้อมูลทางโภชนาการของอะโวคาโด (ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 4/1/2019 สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดผ่านเว็บไซต์ fdc.nal.usda.gov)
อะโวคาโด 1 ลูก ประมาณ 201 กรัม มีสารอาหารโดยประมาณ ดังนี้
- น้ำ 147 กรัม
- พลังงาน 322 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 4.02 กรัม
- ไขมมัน 29.5 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 17.1 กรัม
- ไฟเบอร์ 13.5 กรัม
- น้ำตาล 1.33 กรัม
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.baanlaesuan.com/https://protriva.com/pobpad.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้มีความสุข กับวิธีคิดใหม่เมื่อคุณคิดว่าเป็นพ่อแม่ไม่ดีพอ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่