เสริมภูมิคุ้มกันลูก – อาการเจ็บป่วย ไม่ว่าจะป่วยด้วยโรคอะไรก็ตาม คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนยินดีแน่หากเกิดขึ้นกับลูกของเรา ความจริงเราสามารถสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกของเราได้ด้วยอาหารหลากหลายชนิดที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารบางชนิดมีสารอาหารที่สามารถช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กๆ แข็งแรง และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อเด็กสัมผัสกับเชื้อโรคที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ร่างกายของเด็กก็พร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคเหล่านั้น และต่อไปนี้คืออาหารที่ดีต่อลูกๆ เพื่อให้ร่างกายของเด็กๆ ได้สร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้อย่างต่อเนื่อง
14 อาหาร เสริมภูมิคุ้มกันลูก ช่วยให้ลูกไม่ป่วยง่าย!
1.อัลมอนด์และวอลนัท
อัลมอนด์และวอลนัท อุดมไปด้วยวิตามินอีและแมงกานีส ซึ่งเป็นคู่หูที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ นอกจากนี้ อัลมอนด์และวอลนัท ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายของคุณต่อสู้กับความเจ็บป่วย การศึกษาเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งพบว่าโอเมก้า 3 สามารถลดจำนวนการติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กได้ คุณสามารถโรยวอลนัทในขนมธัญพืชได้ อย่าลืมกินผลไม้แห้งเหล่านี้มากเกินไป คุณสามารถ ให้ ลูก ๆ กินอัลมอนด์เป็นของว่างได้ และยังมีหลายวิธีที่จะรวมไว้ในอาหารของลูก ๆ
2. ผักใบเขียว
ผักใบสีเขียว เช่น กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ผักโขม บรอกโคลี ผักชีฝรั่ง ผักคะน้า ผักกาดหอม ช่วยในการป้องกันและต่อสู้กับการติดเชื้อต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ผักใบเขียวเหล่านี้เต็มไปด้วยสารอาหาร และธาตุอาหารต่างๆ เช่น วิตามินเอ ซี เค แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียมเป็นต้นซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้าแคโรทีนและแคโรทีนอยด์อื่น ๆ ซึ่งจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
3. ผักจำพวกราก
เช่น มันเทศ แครอท บีทรูท มันเทศ และมันฝรั่ง มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสร้างความแข็งแรงให้กับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากผักชนิดนี้เติบโตใต้ดิน จึงดูดซับสารอาหารจำนวนมากจากดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุดมไปด้วยเส้นใยที่ละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพของลำไส้ให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ผักจำพวกราก ยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ซึ่งช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี
4.แอปริคอต
แอปริคอตขึ้นชื่อในเรื่องสรรพคุณในการต้านการอักเสบ สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในแอปริคอตช่วยในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายต่อต้านโรคทั่วไป สารอาหารที่สำคัญในแอปริคอต ประกอบไปด้วย วิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม และเส้นใยอาหารจำนวนมาก
5. ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ผลไม้รสเปรี้ยวเช่นส้มฝรั่งและมะนาวมีวิตามินซีในปริมาณที่ดีซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ผลไม้รสเปรี้ยวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารเช่นธาตุเหล็กและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
6.โปรตีน
โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ ซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณที่เพียงพอ โปรตีนจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยโปรตีนที่มีคุณค่าต่อร่างกายสามารถพบได้ในสัตว์ปีก ชีส ปลา ไข่ และนม เป็นต้น สำหรับเมนูเน้นโปรตีนแบบมังสวิรัติ สามารถรับโปรตีนจากธัญพืช และพืชตระกูลถั่วแทนได้ เช่น ถั่วเหลือง หรือ ถั่วชิกพี เป็นต้น
7. ถั่วในกลุ่มพัลส์
ถั่วที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มพัลส์ ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วถั่วเลนทิลเขียว ถั่วเลนทิลแดง ถั่วขาว ถั่วพินโต้ ถั่วแดงหลวง ถั่วเขียวซีก ถั่วลูกไก่ ถั่วในกลุ่มนี้อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ โฟเลต เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และโพแทสเซียม ถั่วเหล่านี้เป็นหนึ่งในแหล่งของโปรตีนที่หาทานได้ง่าย และยังจำเป็นสำหรับทุกระบบของร่างกาย รวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ถั่วเลนทิลยังมีสารพฤกษเคมี ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่ช่วยต่อสู้กับโรคเรื้อรังได้อีกด้วย
8.กระเทียม
ว่ากันว่าสารประกอบกำมะถันที่มีอยู่ในหัวหอม และกระเทียมสามารถป้องกันมะเร็งได้ สารประกอบในกระเทียมคือ Anicillin, flavonoid ซึ่งช่วยป้องกันการเจ็บป่วยตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี
9.ถั่วลันเตา
ถั่วลันเตา อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อหัวใจ เช่น วิตามิน A, B1, B6 และ C นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์ คาโรทีนอยด์ กรดฟีนอลิก และโพลีฟีนอลซึ่งช่วยในการปรับปรุงภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด ในถั่วลันเตาหนึ่งถ้วยตวง มีปริมาณโปรตีนสูงถึง 8 กรัม
10. นัต (nuts)
หรือ ถั่วเปลือกแข็ง เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการให้ลูกของคุณได้ฝึกการเคี้ยว นัต อุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุ รวมทั้งวิตามินจำนวนมาก และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กรดไขมันโอเมก้า สังกะสี และวิตามินอี โดยพบได้ใน พิสตาชิโอ ลูกเกด อินทผลัม มะเดื่อแห้ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นผลไม้แห้งในการปรุงแต่งขนมโฮมเมด หรือช็อคโกแลตบาร์ ซึ่งเป็นวิธีที่กระตุ้นให้เด็กอยากทาน ทานได้ง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อการสร้างภูมิคุ้มกันของลูก
11. เบอร์รี่
รายชื่ออาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกของคุณจะไม่สมบูรณ์ หากไม่มีผลเบอร์รี่ ที่เป็นเสมือนฮีโร่ในเรื่องการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายรวมอยู่ด้วย ผลเบอร์รี่ ได้แก่ แบล็กเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่ ผลเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และมีสารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์ เช่น ฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและต่อสู้กับการอักเสบได้เช่นกัน
12.ถั่วงอก
ลองหาโอกาสให้เด็กๆ ได้ทานถั่วงอก (จากถั่วเขียว) เพื่อช่วยให้พวกเขามีการเจริญเติบโตที่ดี สรรพคุณที่ถูกกล่าวถึงของถั่วงอก คือ การต้านการอักเสบ จากการศึกษาพบว่าสารอาหารหลายชนิดที่สกัดได้จากถั่วงอกสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ในถั่วงอก ประกอบไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ทั้งโปรตีน กรดอะมิโน แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะกรดอะมิโนที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ ฮอร์โมน และเอนไซม์
13.ขมิ้น
เป็นขมิ้นเครื่องเทศมหัศจรรย์ที่ใช้กันมาหลายชั่วอายุคนเพื่อปรับปรุงสุขภาพ ขมิ้นอุดมไปด้วยเคอร์คูมิน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพและต้านการอักเสบ นอกจากนี้ในขมิ้นยังมีสารพฤกษเคมีกลุ่มโพลีฟีนอล โดยคุณสมบัติของขมิ้นตามงานวิจัยแล้ว นอกจากมีฤทธิ์การต้านการอักเสบ ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์การต้านจุลินทรีย์ก่อโรคทั้งเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรรัส หากต้องการทราบว่าลูกน้อยของคุณจะสามารถทานขมิ้นชันได้หรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านก่อน
14. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นที่รู้กันดีว่ามีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านเชื้อแบคทีเรียซึ่งส่งผลต่อปัญหาสุขภาพได้มากมายรวมถึงมีส่วนทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ สรรพคุณของน้ำผึ้งคือ ช่วยในการปรับปรุงสุขภาพของลำไส้ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในน้ำผึ้งยังช่วยในการกำจัดอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงออกจากร่างกาย อย่างไรก็ตามไม่ควรให้น้ำผึ้งในเด็กทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้
การที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกๆ ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายชนิด นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายของเด็กๆ แข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรคที่ดีแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังให้พวกเขาซึมซับและคุ้นเคยกับการกินที่มีคุณภาพ ให้รู้จักการเลือกรับประทานสิ่งที่ดี มีประโยชน์กับร่างกาย อะไรที่ไม่ดีก็รู้จักเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณให้เหมาะสม ทั้งนี้การปลูกฝังเรื่องการให้ความสำคัญกับสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอเมื่อพวกเขายังเด็ก จะช่วยให้เด็กๆ เกิดทักษะการใช้ชีวิตที่สำคัญด้าน ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี (HQ) ได้อย่างยั้งยืน ซึ่งทักษะความฉลาดที่สำคัญต่างๆ ด้วย Power BQ ที่พ่อแม่ให้ความสำคัญและหมั่นส่งเสริมอย่างเหมาะสมจะติดตัวเด็กๆ ไปจนวันที่พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้แน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : classmonitor.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไข่จุ๊บ อันตราย! ลูกเสี่ยงกินเชื้อโรคเข้าร่างกาย เกิดอาหารเป็นพิษ
อาหารเสริมเพิ่มพลังสมองของลูกน้อย
อย่ามองข้าม ไอโอดีน สารอาหารสำคัญ ที่จำเป็นต่อทุกวัย!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่