- ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย เมื่อนำส่วนรากมะเฟืองมาต้มเป็นน้ำดื่ม
- ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เมื่อนำส่วนรากมะเฟืองมาต้มเป็นน้ำดื่ม
- ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อต่าง ๆ ตามร่างกาย เมื่อนำส่วนรากมะเฟืองมาต้มเป็นน้ำดื่ม
- ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบในกระเพาะอาหาร เมื่อนำส่วนรากมะเฟืองมาต้มเป็นน้ำดื่ม
- ผลมะเฟืองใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ช่วยในการรักษาสิว ฝ้า บำรุงผิวพรรณ
นอกจากนี้ในกลุ่มชีวจิตยังนิยมนำมะเฟืองมาแปรรูปเพื่อใช้ประโยชน์ในการเสริมสุขภาพ เช่น ทำเป็นสบู่จะช่วยแก้อาการคันตามผิวหนัง ลดคราบไคลและไขมันอุดตันตามรูขุมขน กลิ่นตัวจางลง ฯลฯ หรือในทางเภสัชวิทยาพบว่า ผลมะเฟืองมีฤทธิ์เป็นกรดธรรมชาติอ่อนๆ ช่วยขัดผิวกายทำให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม ลดความหยาบกระด้างลง
♥ Must read : อาหารแก้หวัด 13 ชนิด! เพิ่มภูมิต้านทานให้กับลูกน้อย
คุณค่าทางโภชนาการของผลมะเฟืองสด ต่อ 100 กรัม
- มะเฟืองพลังงาน 31 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 6.73 กรัม
- น้ำตาล 3.98 กรัม
- เส้นใย 2.8 กรัม
- ไขมัน 0.33 กรัม
- โปรตีน 1.04 กรัม
- ลูทีนและซีแซนทีน 66 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 0.014 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี 2 0.016 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี 3 0.367 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินบี 5 0.391 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี 6 0.017 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินบี 9 12 ไมโครกรัม 3%
- โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
- วิตามินซี 34.4 มิลลิกรัม 41%
- วิตามินอี 0.15 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุแคลเซียม 3 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุเหล็ก 0.08 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.037 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุฟอสฟอรัส 12 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโพแทสเซียม 133 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 0.12 มิลลิกรัม 1%
เปอร์เซ็นต์ คือ ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
เมื่อทราบถึงสรรพคุณของมะเฟืองแล้ว เชฟแม่หมีจึงขอชวนคุณแม่ ๆ ไปตลาด และเข้าครัว ทำเมนูดีลดอาการร้อนใน ให้กับลูกน้อยกันดีกว่าค่ะ เพราะช่วงกลางวันที่มีอากาศร้อน อาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายของลูกน้อยร้อนตามไปด้วย จนอาจเป็นไข้ได้ ซึ่งเจ้าเมนูลดร้อนใน “สมูทตี้มะเฟือง” นี่จะช่วยแก้อาการถอนพิษไข้ และความร้อนออกจากตัวลูกน้อยได้ แล้วจะมีวัตถุดิบส่วนผสม หรือขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ
อ่านต่อ >> “ส่วนผสมและคลิปวีดีโอขั้นตอนการทำ “สมูทตี้มะเฟือง” ถอนพิษไข้ ลดอาการลูกเป็นร้อนใน” คลิกหน้า 3
ขอบคุณข้อมูลจาก : medthai.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่