ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ กินแค่ไหน น้ำหนักเท่าไรดี - Amarin Baby & Kids
ถ้าเราไม่กินข้าวลูกในท้องจะเป็นไรไหม

ตั้งครรภ์ 13 สัปดาห์ กินแค่ไหน น้ำหนักเท่าไรดี

Alternative Textaccount_circle
event
ถ้าเราไม่กินข้าวลูกในท้องจะเป็นไรไหม
ถ้าเราไม่กินข้าวลูกในท้องจะเป็นไรไหม

มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสแรกกันแล้ว คุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่าควรกินแค่ไหนจึงจะพอดี ซึ่งคำตอบของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับก่อนท้องคุณแม่มีดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ใด ผอม ปกติ น้ำหนักเกิน หรืออ้วน

  1. คุณแม่ที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ น้ำหนักตลอดการตั้งครรภ์ควรขึ้นไม่เกิน 15 กิโลกรัม
  2. คุณแม่ที่น้ำหนักเกิน ไม่ควรเพิ่มเกิน 12 กิโลกรัม
  3. คุณแม่ที่อ้วน ไม่ควรเพิ่มเกิน 9 กิโลกรัม

ผอมหรืออ้วนไปนะ

สูตรคำนวณค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ดังนี้ น้ำหนัก (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง2 (เมตร)

BMI ต่ำกว่า 18.5 = ผอม

BMI ระหว่าง 18.5 – 24.9 = ปกติ

BMI ระหว่าง 25 – 29.9 = น้ำหนักเกิน

BMI มากกว่า 30 = อ้วน

 เมื่อทราบค่าดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์ใดแล้ว ก็จะทำให้รู้ว่าเราควรกินแค่ไหน โดยส่วนมากแล้วจะแนะนำให้กินอาหารเพิ่มจากปกติอีก 300 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายมีสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูก โดยเปรียบเทียบปริมาณอาหารที่ต้องกินเพิ่ม 300 กิโลแคลอรี่ เช่น

  • ข้าวสวย 3 ทัพพีครึ่ง
  • ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม
  • บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง 1 ชาม
  • คุกกี้ 4 ชิ้น
  • บ๊ะจ่าง 1 ลูก
  • บัวลอยเผือก 1 ถ้วย
  • ปอเปี๊ยะทอด 2 ชิ้น
  • ยำผักบุ้งทอดกรอบ 1 จาน
  • วุ้นมะพร้าวอ่อน 4 ชิ้น
  • ไอศกรีมกะทิ 3 ก้อน
  • นมจืด 3 แก้ว

ตัวอย่างสัดส่วนอาหารที่แม่ท้องควรกินใน 1 วัน ได้แก่

  • ข้าว 9 ทัพพี
  • ผัก 6 ทัพพี
  • เนื้อสัตว์ 12 ช้อนกินข้าว
  • นม 3 แก้ว
  • น้ำมัน 5 ช้อนชา
  • ผลไม้ เช่น ส้ม 6 ผล กล้วยน้ำว้า 6 ผล ฝรั่ง 2 ผล เป็นต้น

ทั้งนี้คุณแม่ควรเลือกกินอาหารให้หลากหลาย เช่น มื้อเช้ากินกล้วยแล้ว มื้อกลางวันอาจเปลี่ยนเป็นส้มแทน และหากในมื้อหลักคุณแม่ท้องกินได้ไม่ครบทั้งหมด ก็สามารถแบ่งมากินในมื้ออาหารว่างแทนได้

แท้จริงแล้ว คุณแม่ท้องสามารถกินอาหารได้ทุกอย่าง เพียงแต่ต้องควบคุมปริมาณให้เหมาะสม โดยเฉพาะอาหารที่กินแล้วอ้วนง่าย นอกจากนี้ควรเลือกอาหารที่หลากหลาย หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด คือ เค็มจัด หวานจัด แถมเคล็ดลับง่ายๆ อีกนิดคือ หากซื้ออาหารนอกบ้านมากินก็ไม่ควรปรุงเพิ่ม ลดปริมาณซอสหรือน้ำจิ้มลง รวมถึงการซดน้ำแกงให้น้อยลงด้วย แค่นี้ก็ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแล้วละค่ะ

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

ภาพ: shutterstock

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up