สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้เมื่อเด็กกินอาหารวีแกน
เด็ก ๆ นั้นสามารถรับประทานอาหารวีแกนได้อย่างปลอดภัย แต่ควรมีการวางแผนการรับประทานอาหารอย่างรอบคอบ เพื่อที่พวกเขาจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ที่สำคัญควรปรึกษากับกุมารแพทย์ถึงโภชนาการของลูก เพราะวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก นั้นจึงถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกเขาจำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งสารอาหารที่พวกเขารับประทานจึงมีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูก
นอกจากนี้ความกังวลเรื่องสารอาหารแล้ว เมื่อถึงเทศกาลต่าง ๆ หรือมีกิจกรรมที่โรงเรียนที่มีอาหารที่มีเนื้อสัตว์ คุณจะต้องเตรียมความพร้อมของลูกเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น สร้างความเข้าใจให้ลูก ช่วยเขาหาคำตอบและเหตุผลว่าทำไมจึงต้องรับประทานอาหารแบบวีแกน
การรับประทานอาหารแบบวีแกนนั้นหากมีการวางแผนการรับประทานอาหารที่ดี ถือเป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาก ๆ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ซึ่งอาหารวีแกนนั้นมีความปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่ต้องมีการดูแลเรื่องการรับประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าพวกเขาได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ
เริ่มรับประทานแบบวีแกน อย่างไรดี!!
เมื่อลูกอายุมากกว่า 6 เดือน เป็นวัยที่สามารถให้อาหารเสริมได้แล้ว หากคุณต้องการให้ลูกได้รับอาหารแบบวีแกน ก็สามารถเริ่มให้ลูกรับประทาน แต่อย่าให้ในปริมาณเยอะมากเกิน เพราะสารอาหารหลักของลูกในวัยนี้ยังคงเป็นนมแม่เช่นเดิม ซึ่งหลักการยังคงเหมือนการให้อาหารเสริมแก่เด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป เพียงแต่ว่าเราจะต้องเลือกอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ และเลือกอาหารที่มีสารอาหารทดแทนได้มาให้ลูกแทน
อาหารที่เป็นอาหารเริ่มต้นวีแกนที่ดีที่ควรเริ่มต้นด้วย ได้แก่ อะโวคาโดบด มันเทศหรือกล้วย และโจ๊กกับนมถั่วเหลือง น้ำผลไม้โฮมเมดเพิ่มวิตามินและถั่วบด ถั่วชิกพีหรือเต้าหู้ให้ธาตุเหล็ก เมื่อลูกเริ่มฟันขึ้น ให้แนะนำ อาหารที่หยาบขึ้นได้เล็กน้อย เช่น ผักปรุงสุก ขนมปังแผ่น แอปเปิ้ลหั่นชิ้น และลูกแพร์
โปรดหลีกเลี่ยงการให้ถั่วทั้งลูกแก่เด็ก และต้องคอยดูลูกกินอาหารอยู่เสมอ เนื่องจากอาหารนั้นมีความเสี่ยงที่จะสำลัก
ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป พวกเขาอาจกินอาหารสามมื้อต่อวันพร้อมของว่างเพื่อให้ได้รับพลังงาน โปรตีน และธาตุเหล็กในปริมาณมาก รวมถึงถั่วที่อุดมด้วยโปรตีน เช่น ถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล เนยถั่วและเมล็ดพืช โยเกิร์ตเสริมแคลเซียมและเครื่องดื่ม โดยให้ปริมาณอาหารไม่มาก เพิ่มขึ้นทีละน้อย โดยอาจแบ่งเป็นมื้อย่อย ๆ ห้าส่วนต่อวันในตอนแรก เลือกข้าวแบบไม่ขัดสี หรือโฮลเกรน เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารอื่น ไม่อิ่มก่อนจากไฟเบอร์ที่มีอยู่มากในข้าวขัดสี เพิ่มปริมาณและความหลากหลายของอาหารจนกว่าพวกเขาจะกินเหมือนคุณ อย่าลืมใส่เครื่องดื่มที่เสริมวิตามินบี 12 โยเกิร์ต และสารอาหารยีสต์หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กที่มีบี 12 ในเด็กวีแกนที่ต้องได้รับเสริมเพิ่มเพื่อให้เพียงพอต่อร่างกาย
ข้อควรคำนึงในการรับประทานแบบวีแกน
-
หลีกเลี่ยงอาหารไขมันต่ำ เด็ก ๆ ต้องการพลังงานจำนวนมาก!
-
หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาล และเกลือในอาหาร น้ำตาลทำให้ฟันผุ และรสชาติของอาหารรสเค็มสามารถนำไปสู่ความดันโลหิตสูงในชีวิตต่อไปได้
-
หลีกเลี่ยงอาหารขยะ และของขบเคี้ยวที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป
-
อาหารจากพืชทุกชนิดมีโปรตีน หากได้รับในปริมาณที่เพียงพอ ก็ไม่ทำให้เด็กขาดโปรตีน
- ระวังเรื่องการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งก็พบได้ใน โฮลเกรน ถั่ว เนยถั่ว ธัญพืช ได้เช่นกัน นอกจากในเนื้อสัตว์
-
วิตามินซีช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ดังนั้นควรรวมอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กเหล่านี้กับพริก บร็อคโคลี่ มะม่วง ผลไม้รสเปรี้ยว และสตรอเบอร์รี่ ลองเสริฟอาหารจากถั่วอบบนขนมปังโฮลวีตกับน้ำส้มหนึ่งแก้ว นั่นเป็นเมนูที่น่าสนใจเลยทีเดียว
- แคลเซียม และวิตามินดี มีความสำคัญต่อสุขภาพฟันและกระดูก แหล่งทดแทนที่ดี ได้แก่ เต้าหู้ที่มีแคลเซียม ซีเรียลสำหรับอาหารเช้ามังสวิรัติและนมจากพืช มะเดื่อ คะน้า งา และทาฮินี ขนมปังโฮลมีล ถั่วอบ สควอชบัตเตอร์นัต อัลมอนด์และถั่วบราซิล ผักใบเขียว และแพงพวย แม้ว่าอาหารจะเสริมให้ได้รับแคลเซียม แต่ถ้าร่างกายของลูกน้อยไม่มีวิตามินดีมาช่วยดูดซึมก็เปล่าประโยชน์ ควรสร้างวิตามินดีในผิวในลูก โดยร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้ เมื่อโดนแสงแดด ทำให้เกิดวิตามินดีในการช่วยการดูดซึมแคลเซียม
- ไขมันที่จำเป็น เด็ก ๆ ต้องการไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นในอาหารเพื่อการพัฒนาและการทำงานของสมองและดวงตาที่แข็งแรง แหล่งที่ดีที่สุด คือเมล็ดแฟลกซ์และเรพซีดบด น้ำมัน เมล็ดเจีย และเมล็ดป่าน
- สังกะสีมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง การเจริญเติบโตและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย อาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่ เทมเป้ (ถั่วเหลืองหมัก) สปาเก็ตตี้โฮลวีต เต้าหู้ คีนัว เมล็ดฟักทอง ถั่วเลนทิล คูสคูส ข้าวกล้อง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ งา และทาฮินี
อาหารทางเลือก แบบวีแกน หรือมังสวิรัตินั้น เป็นอาหารที่มาเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะอ้วนในเด็ก เด็กที่มีน้ำหนักเกิน และเป็นโรคอ้วน จะเป็นโรคอ้วนเมื่ออยู่ในวัยผู้ใหญ่ด้วย และมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบสำคัญต่อสุขภาพทั้งทางร่างกาย และจิตใจของเด็ก แต่อาหารทางเลือกนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนด้านโภชนาการให้ดี และต้องการความเอาใจใส่ และเข้าใจอย่างแท้จริงต่อการปฎิบัติตาม เพราะหากเราไม่เข้าใจ และวางแผนอย่างดีพอแล้ว ก็อาจเกิดข่าวเศร้าอย่างในข่าวก็เป็นได้
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.veganfoodandliving.com/https://hellokhunmor.com/https://www.sgethai.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ทำความรู้จัก ไข้หวัดมะเขือเทศ หลังเด็กอินเดียติดกว่า 100 ราย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่