พัฒนาสมองซีกซ้าย สมองซีกขวา ของลูกน้อยให้ทำงานดีมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วย การกระตุ้นส่งเสริมให้ลูกได้เล่น ได้ทำกิจกรรมที่ดีต่อสมอง ให้สมองได้ฝึกคิด ฝึกวิเคราะห์บ่อยๆ ก็จะช่วยให้พัฒนาการ สมองทั้งสองซีกทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องให้ลูกได้รับโภชนาการที่ดีมีประโยชน์ต่อสมองด้วยค่ะ
พัฒนาสมองซีกซ้าย สมองซีกขวา
สมองจะแบ่งออกเป็นสองซีก ซึ่งการที่สมองจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพจะต้อง พัฒนาสมองซีกซ้าย สมองซีกขวา ไป พร้อมๆ กัน โดยที่สมองซีกซ้ายจะควบคุมการทำงานของสมองซีกขวา และสมองซีกขวาจะควบคุมการทำงานของสมองซีกซ้าย
หน้าที่ของสมองซีกซ้าย คือ…
- การใช้ภาษา
- การเขียน การอ่าน
- ทักษะด้านตัวเลข
- การใช้เหตุผล การควบคุม การพูด
- ทักษะด้าน วิทยาศาสตร์
- การควบคุมการทำงานของมือขวา
หน้าที่ของสมองซีกซ้าย คือ…
- ทักษะด้านศิลปะ ดนตรี
- การใช้จินตนาการ
- รักการอ่าน การเขียนหนังสือ
- ความสามารถในงานฝีมือ และงานประดิษฐ์
- การควบคุมการทำงานของมือซ้าย
คุณพ่อคุณแม่พอได้ทราบการทำงานของสมองทั้งสองซีกกันไปคร่าวๆ แล้วนะคะว่าสมองแต่ละซีกมีหน้าที่ทำอะไรกันบ้าง ทีนี้เราจะไปช่วยกระตุ้นส่งเสริมให้สมองซีก สมองซีกขวาของลูกทำงานมีพัฒนาการ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ กันค่ะ
วิธีพัฒนาสมองซีกซ้าย สมองซีกขวาให้ลูกน้อย
1. ให้ลูกอ่านหนังสือบ่อยๆ
การฝึกให้ลูกได้อ่านหนังสือ สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูกอายุได้ 8 เดือนขึ้นไปค่ะ โดยที่คุณพ่อคุณแม่อ่านให้ลูกฟังก่อน ชี้ชวนดูความตื่นเต้นของหนังสือภาพ นิทาน การอ่านหนังสือร่วมกับลูกจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้เกิดความคิด เรียนรู้ จดจำ และมีจินตนาการ ที่สำคัญยังเป็นการปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านไปในตัวด้วยค่ะ
2. ให้ลูกได้รับโภชนาการที่มีประโยชน์
การให้ลูกได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการสมอง สามารถเริ่มได้ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์โดยที่แม่ต้องเน้นอาหารจำพวกที่มีโปรตีน ดีเอชเอ กรดไขมันโอเมก้า3,6 และ9 วิตามินบีต่างๆ ฯลฯ เพราะสารอาหารเหล่านี้มีผลต่อกระบวนการสร้างสมองของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
หลังจากนั้นให้ลูกได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด เพราะในนมแม่อุดมไปด้วยโปรตีนที่ย่อยง่าย ดีเอชเอ เออาร์เอ กรดไขมันโอเมก้า3,6 และ 9 ฯลฯ ที่มีประโยชน์ต่อสมองลูก
และเมื่อลูกอายุได้ 6 เดือนขึ้นไป ก็ให้เสริมอาหารต่างๆ ให้กับลูก แนะนำว่าควรให้อย่างหลากหลาย ต้องมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพราะจะทำให้ร่างกายลูกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ที่นอกจากจะดีต่อพัฒนาการการเจริญเติบโตของร่างกายแล้ว ยังดีต่อพัฒนาการสมองของลูกอีกด้วย
ที่สำคัญต้องให้ลูกได้ดื่มนมอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย ถึง 6 เดือนหรือ 1 ขวบ จากนั้นให้ลูกได้ดื่มนมอื่นต่อเนื่องจากนมแม่ โดยควรเป็นนมที่มีสารอาหารครบถ้วน ลูกดื่มแล้วไม่แพ้ และก็ต้องดีต่อพัฒนาการร่างกาย พัฒนาการสองของลูกด้วย อย่างนมแพะก็ถือเป็นนมที่คุณแม่ส่วนใหญ่มักเลือกให้ลูกได้ดื่มกัน
นมแพะมีระบบการให้น้ำนมที่เรียกว่า อะโพไคร์น ซึ่งทำให้มีสารอาหารจากธรรมชาติในปริมาณสูง อย่างนิวคลีโอไทด์ ทอรีน โพลีเอมีนส์ และโกรทแฟคเตอร์ ที่ช่วยพัฒนาระบบทางเดินอาหาร เสริมสร้างการเจริญเติบโต และช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยให้เติบโตอย่างสมวัย
โปรตีนจากนมแพะ มีประโยชน์ต่อร่างกายลูกน้อย
นมแพะมีโปรตีน CPP (Casein Phosphopeptides) ที่เป็นโปรตีนย่อยง่าย ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย อย่างแคลเซียม เหล็ก สังกะสี และแมกนีเซียม เข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ และโปรตีนในนมแพะยังเป็นโปรตีนคุณภาพดีที่ย่อยและดูดซึมง่าย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีสมวัย
นอกจากนี้ในนมแพะก็ยังมีสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์ครบถ้วนด้วยสารอาหาร ดีต่อพัฒนาการการเติบโต และพัฒนาการสมองซีกซ้าย สมองซีกขวาของลูก เช่น…
– ดีเอชเอ(DHA), เออาร์เอ(ARA) ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยพัฒนาสมองและการมองเห็น
– โอเมก้า 3, 6 และ 9 ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง
– ทอรีน ช่วยพัฒนาการทำงานของจอประสาทตา
– โคลีน มีบทบาทในการสร้างสารสื่อสัญญาณประสาท ช่วยพัฒนาการเรียนรู้และความจำ
– วิตามิน B12 สูง มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง
– แคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
3. ให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่ดีต่องพัฒนาการสมอง
การส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกาย หรือการให้เล่น Flash Card (แฟลชการ์ด) หรือบัตรคำ บัตรภาพ บัตรขนาดใหญ่ที่มีคำศัพท์ รูปภาพ ตัวเลข หรือจำนวน ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นสมองทั้งสองซีกของลูกให้เกิดการใช้งาน ได้เรียนรู้ ได้วิเคราะห์แยกแยะ และจดจำได้อย่างแม่นยำ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกตั้งแต่เล็กๆ กันนะคะ