…..√….. 4. เลี้ยงลูกอยู่ให้ห่างจากคนป่วย
แนะนำให้ลูกรักของคุณพ่อคุณแม่อยู่ห่างจากคนที่มีอาการป่วยต่างๆ รวมถึงตัวคุณพ่อคุณแม่ที่ดูแลเด็กก็ควรเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้กับคนป่วยด้วยเช่นกัน รวมทั้งพยายามหลีกเลี่ยงไม่พาบุตรหลานหรือเด็กๆ ไปเยี่ยมไข้คนป่วยที่โรงพยาบาล หรือไม่พาเด็กไปสถานบริการสาธารณสุขที่มีคนป่วยอยู่กันเยอะ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กติดเชื้อโรคต่างๆ
…..√….. 5. แยกของเล่นของใช้ให้เป็นส่วนตัว
เมื่อมีเด็กอยู่ในบ้าน ควรจัดการแยกของเล่น และของใช้ส่วนตัวของเด็กกับผู้ใหญ่แยกกันชัดเจน ไม่ควรให้พี่ๆ หรือเด็กคนอื่นๆ ใช้ด้วยกัน สิ่งของที่อาจติดน้ำลาย น้ำมูก หรือสัมผัสติดกันได้ง่าย ไม่ควรใช้ร่วมกัน หรือให้ผู้อื่นใช้ โดยอาจจะจัดทำชั้นวาง หรือแบ่งสัดส่วนโซนของใช้ไม่ให้ปะปนกัน เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้หยิบใช้อย่างถูกต้อง และควรต้องหมั่นทำความสะอาดของเล่น และของใช้ของลูกให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ
⇒ Must read : เตือนแม่! ระวังยางกัดที่ลูกเล่น อาจจะเต็มไปด้วยเชื้อรา
…..√….. 6. การให้ลูกกินนมแม่
จะเป็นการส่งภูมิคุ้มกันผ่านน้ำนมจากแม่สู่ลูก โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิตลูกน้อยหลังคลอด เป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันจะสามารถส่งผ่านน้ำนมแม่มาได้มากที่สุด การที่ลูกได้รับน้ำนมแม่ นอกจากจะทำให้ร่างกายลูกน้อยได้รับสารอาหารจำเป็นที่ครบถ้วนเพื่อการเจริญเติบโตที่แข็งแรงแล้ว ลูกน้อยยังได้รับภูมิคุ้มกันที่ดีป้องกันเชื้อโรคหรือโรคภัยต่างๆ ทำให้ลูกน้อยหลังคลอดไม่เจ็บป่วยได้ง่าย และยังลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้อีกด้วย
⇒ Must read : นมแม่ป้องกันโรค ช่วยลูกสุขภาพดีตั้งแต่แรกเกิด
…..√….. 7. ป้องกันไม่ให้ยุงกัดลูกน้อย
เนื่องจากยุงเป็นพาหะที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อซึ่งเป็นอันตรายได้หลายโรค โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก และโรคไข้สมองอักเสบ JE ด้วย ดังนั้นจึงควรป้องกันยุงไม่ให้มากัดลูกเรา ด้วยการให้ลูกนอนในเปลเด็กที่มีมุ้ง ใช้ยาทาป้องกัน ยาฉีดกำจัดหรือไล่ยุงต่างๆ (ระวังการใช้ไม่ให้สัมผัสถูกหรือสูดดม และระวังสารตกค้าง) โดยอาจจะเลือกใช้สูตรที่ทำมาจากกลิ่นธรรมชาติ รวมถึงควรกำจัดแหล่งน้ำขังซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงด้วย
⇒ Must read : ไข้เลือดออก โรคระบาดที่มากับหน้าหนาว
⇒ Must read : รู้ไหมว่า ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่ ต่างกันอย่างไร?
อ่านต่อ >> “ทักษะเลี้ยงลูกปลอดโรคภัยป้องกันลูกป่วยบ่อย” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่