7. อย่าโกรธคุณพยาบาลเลยที่ต้องเจาะเลือดเด็กหลายครั้ง
เพราะเส้นเลือดเด็กเล็กมากๆๆๆ จริงๆ ทุกรพ.พยายามจะให้คุณพยาบาลที่เจาะเลือดเก่งที่สุดของเวรนั้นเป็นคนเจาะเลือดลูกของคุณอยู่แล้ว
การตรวจเลือด ถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการวินิจฉัยโรคของแพทย์เนื่องจากเลือดเป็นตัวกลางสำคัญในการนำพาน้ำ สารอาหาร เชื้อโรค สารพิษ รวมถึงสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ข้าสู่ร่างกาย ขณะเดียวกันก็ยังทำหน้าที่ในการรับ และนำพาสารต่างๆที่ร่างกายปล่อยออกมาไว้ด้วย โดยสารเหล่านี้อาจเข้าสู่ร่างกายด้วยการดื่มกิน การหายใจ การแทรกซึมผ่านแผล ผ่านผิวหนัง และเข้าสู่ระบบกระแสโลหิต ดังนั้น การตรวจเลือดจึงเป็นวิธีที่สามารถตรวจหาสารปนเปื้อนที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็วที่สุด ซึ่งการเจาะเลือด ก็เพื่อเก็บสิ่งส่งตรวจเพื่อให้ได้เซลล์และของเหลวนอกเซลล์เพื่อนำมาวิเคราะห์ ซึ่งการเจาะเลือดมีอยู่ 3 ประเภทคือ
- การเจาะเลือดจากหลอดเลือดแดง ซึ่งมีความเสี่ยงและอันตรายมากที่สุด ผู้ที่ได้รับอนุญาตมีเฉพาะวิชาชีพแพทย์เท่านั้นค่ะ
- การเจาะเลือดจากเส้นเลือดฝอย อาจจะเป็นที่ปลายนิ้วหรือติ่งหู
- การเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำ โดยมากจะเป็นที่แขนและมือ ซึ่งเป็นการเจาะเลือดที่เราใช้ในการตรวจวิเคราะห์
8. เวลาลูกป่วยแม้ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน อย่ารีบไปโรงเรียน
หลังจากหาหมอแล้วก็ควรให้อยู่ที่บ้านก่อนดีที่สุดอย่ารีบไปโรงเรียนเลย ไม่อย่างนั้นคุณจะทำให้เด็กอีกเป็น 10 คนป่วยด้วย และพ่อแม่อีก 20 คนต้องเดือดร้อน
โดยอาการป่วยที่ควรให้ลูกหยุดเรียน คือ หากลูกมีไข้ 38 องศา หรือมากกว่าควรหยุดพักอยู่บ้าน เพราะไข้ขนาดนี้ไม่เพียงจะแพร่เชื้อให้เพื่อน ๆ ได้ง่าย แต่เจ้าตัวน้อยยังป่วยเกินกว่าจะมีสมาธิในการเรียน ควรให้ลูกหยุดพักจนกว่าจะหายไข้ โดยลูกจะกลับไปเรียนได้ควรมั่นใจว่าลูกไม่มีไข้ต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง รวมไปถึงหากเป็นหวัดพร้อมกับมีอาการไอ งอแง และเซื่องซึม หรือเป็นหวัด มีไข้ และหายใจไม่ออก ก็ควรให้ลูกควรหยุดพักอยู่บ้านจะดีกว่า
9. อย่าเครียดหรือกังวลกับการเป็นหวัดบ่อยๆ ของลูกมากเกินไป
เพราะมันก็เป็นเพียงการสร้างภูมิคุ้มกันแก่เด็กอย่างหนึ่ง (ได้รับวัคซีนโดยไม่ต้องเสียตังค์)
โดยทั่วไปแล้วอาการหวัดสามารถหายได้เองภายในระยะเวลา 1-5 วัน หรืออย่างมากมักไม่เกิน 1 อาทิตย์ โดยไม่ต้องรักษาหรือเพียงแต่รักษาตามอาการ อย่างไรก็ตามในบางครั้งหวัดก็อาจจะก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ เช่น ทำให้เกิดหูส่วนกลางอักเสบและหูน้ำหนวก เนื่องจากเชื้อหวัดลามจากจมูกขึ้นไปทางท่อซึ่งต่อระหว่างจมูกกับหูชั้นกลาง ทำให้เกิดอาการอักเสบของหูชั้นกลาง ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็จะทำให้เกิดอาการแก้วหูทะลุเป็นหูน้ำหนวกตามมาภายหลัง และถ้าหากเชื้อหวัดลามไปถึงโพรงอากาศรอบจมูก ก็ทำให้เยื่อบุของโพรงอากาศหรือไซนัสอักเสบได้ นอกจากนี้ถ้าหากเชื้อหวัดไหลลามไปตามระบบทางเดินหายใจส่วนล่างอาจทำให้เกิดอาการกล่องเสียงอักเสบหลอดลมอักเสบ หรือปอดอักเสบได้ ดังนั้นถึงแม้โรคหวัดจะเป็นโรคที่พบบ่อย รักษาง่าย สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ควรจะประมาทเสียทีเดียว ควรจะเฝ้าดูอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้รีบพาลูกไปพบแพทย์ก่อนที่จะสายเกินไป5
10. ไม่ต้องขวนขวายหาหมอเด็กที่เก่งที่สุดเพื่อรักษาอาการหวัดเล็กๆน้อยๆ ของลูก
เพราะ หมอที่เก่งและมีเวลามากที่สุดคือตัวท่านเอง ให้ลูกพักผ่อนมากๆ หมั่นเช็ดตัวลดไข้ ทำอาหารอร่อยๆให้ พร้อมให้กำลังใจ ไม่นานลูกท่านก็จะดีขึ้นเองอาจจะไม่ต้องใช้ยาใดๆเลยก็ได้
ทั้งนี้อาการป่วยส่วนมากของลูกน้อยที่เกิดขึ้น เป็นอาการที่พ่อแม่สามารถให้การดูแลรักษาเบื้องต้นที่บ้านได้ อย่างไรก็ตาม อาจต้องอาศัยการสังเกตและประสบการณ์ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถพูดหรือบอกอาการชัดเจนได้ ในกรณีที่ลูกน้อยป่วยรุนแรงหรืออาการไม่ดีขึ้นจากการดูแลเบื้องต้นที่บ้านควรนำมาพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม
อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!
- พ่อแม่ต้องรู้ 9 ข้อห้ามทำ เมื่อลูกเจ็บป่วย
- 6 เรื่องที่พ่อแม่ต้องเข้าใจ เมื่อ ทารกเป็นหวัด
- อาการผิดปกติของทารก ที่ต้องพบแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ : Jagger moving topicstock.pantip.com
1อาจารย์นายแพทย์ ศักดา อาจองค์ กุมารเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ haamor.com
3 วิธีเช็ดตัวเด็กลดไข้ (Tepid sponging) รัชนี ชัยประเดิมศักดิ์ อาจารย์พยาบาล สาขาการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น haamor.com
4 อาการไอในเด็ก จาก ศ.พญ.นวลอนงค์ วิศิษฏสุนทร ภาควิชากุมารเวชศาสตร์