โรคไข้เลือดออก
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบบ่อยได้ในเด็กชั้นประถมและชั้นมัธยม และพบบ่อยในช่วงฤดูฝน ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารและมีภาวะช็อคได้
อาการ
เด็กที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกจะมีอาการไข้สูงลอย กินยาลดไข้แล้วอาการไข้ลดลงเพียงเล็กน้อย อาการของโรคมักคล้ายคลึงกับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ แต่มักไม่มีอาการหวัดร่วมด้วย และมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง และอาจตรวจพบจุดเลือดออกบริเวณผิวหนัง
การรักษา
เด็กที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกควรได้รับการรักษาตามอาการด้วยการเช็ดตัวและกินยาลดไข้พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาลดไข้ในกลุ่มแอสไพริน ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ หากเด็กดื่มน้ำได้ไม่เพียงพอ ไข้สูงนานเกิน 3 วัน มีอาการซึม มือเท้าเย็นโดยเฉพาะเมื่อไข้ลดลง ควรพบแพทย์
การป้องกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อมีเด็กป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจัดการทำลายยุงและแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ทุกคนควรมีส่วนร่วมในการรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและลูกน้ำภายในบ้านและชุมชน วัคซีนไข้เลือดออกกำลังอยู่ระหว่างการทดลอง คาดว่าจะนำมาใช้ในการป้องกันโรคอย่างแพร่หลายในเร็วๆ นี้
⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 โรคติดเชื้อที่แม้ไม่ได้ติดจากเด็กสู่เด็กโดยตรง แต่ลูกน้อยในวัยเรียนก็สามารถเป็นได้เนื่องจาก สุขอนามัยทางโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่สะอาดเพียงพอ
โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า
เชื้อไวรัสโรต้าเป็นสาเหตุสำคัญของโรคอุจจาระร่วงในเด็กช่วงอายุ 5 ปีแรก และผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงกว่าโรคอุจจาระร่วงจากสาเหตุอื่นๆ
อาการ
เด็กที่ป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโรต้าจะมีอาการไข้ อาเจียน และถ่ายเป็นน้ำ อาการไข้และอาเจียนมักเป็นนาน 1-2 วันในขณะที่อาการท้องเสียอาจเป็นนาน 3-7 วัน เด็กอาจมีอาการขาดน้ำรุนแรงถึงกับต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและอาจเกิดภาวะช็อกได้
การรักษา
เด็กที่ป่วยเป็นจากโรคติดเชื้อไวรัสโรต้าควรได้รับการดูแลรักษาเช่นเดียวกับโรคอุจจาระร่วงทั่วไป โดยการเช็ดตัวและให้ยาลดไข้ รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายโดยเน้นอาหารจำพวกแป้งและหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นเส้นใยอย่างผักและผลไม้ และดื่มนมครั้งละน้อยๆ แต่เพิ่มจำนวนมื้อของอาหารและนม ควรให้เด็กจิบน้ำเกลือแร่บ่อยๆ โดยเฉพาะกรณีถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากและมีอาการขาดน้ำ กรณีเด็กดื่มน้ำไม่ได้ มีอาการซึม ร่างกายขาดน้ำมาก ปัสสาวะน้อยลงหรือปัสสาวะสีเข้มมาก ควรพบแพทย์
การป้องกัน
โรคติดเชื้อไวรัสโรต้าสามารถป้องกันหรือลดความรุนแรงได้ด้วยการดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและหยอดวัคซีนซึ่งต้องให้ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก การดูแลความสะอาดของอาหารและน้ำดื่มไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้ามากนัก แต่มีประโยชน์ในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากสาเหตุอื่นๆ
⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕⊕
โรคตับอักเสบเอ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ทำให้เด็กต้องขาดเรียนหรืออาจมีอาการรุนแรงถึงกับต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล โรคตับอักเสบเอ อาจเกิดการแพร่ระบาดได้หากเด็กได้รับเชื้อผ่านทางอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อน
อาการ
เด็กที่ป่วยเป็นโรคตับอักเสบเอจะมีอาการไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน และอาจพบอาการตาตัวเหลืองที่เรียกว่าดีซ่านได้
การรักษา
เด็กที่ป่วยเป็นโรคตับอักเสบเอควรเน้นการรับประทานอาหารจำพวกแป้ง ดื่มน้ำหวาน กินยาลดไข้และยาแก้อาเจียนตามอาการ และพักผ่อนมากๆทั้งนี้เด็กที่มีไข้สูง อาเจียนมาก ตาตัวเหลือง รับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ไม่เพียงพอ ควรพบแพทย์
การป้องกัน
โรคตับอักเสบเอสามารถป้องกันได้ด้วยการรับประทานอาหารและดื่มน้ำสะอาด เด็กที่ป่วยจากโรคนี้ควรให้ล้างมือบ่อยๆ และให้หยุดเรียน โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
เมื่อได้ทราบกันแล้วสำหรับ โรคติดเชื้อในเด็ก ที่ลูกน้อยอาจจะต้องพบเจอเมื่อเข้าโรงเรียนอนุบาล สิ่งสำคัญทั้งหมดทั้งมวล คือ คุณแม่ต้องสอนให้ลูกใช้ของใช้ส่วนตัวของตนเอง บอกลูกไม่ควรใช้แก้วน้ำ ผ้ากันเปื้อน ผ้าเช็ดหน้า หมอน ผ้าห่มของเพื่อน และถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยากก็รักษาตามอาการก่อน หากมีอาการไม่น่าไว้วางใจต้องไปพบคุณหมอโดยด่วนนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจาก Amarin Baby & Kids
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 5 อันดับโรคยอดฮิตของเด็กไทย
- เตือนพ่อแม่ระวัง 4 โรคติดต่อ 2 ภัยสุขภาพ ปี 60
- 5 อันดับยอดฮิต โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในเด็กเล็ก
- 5 วัคซีนเด็ก สำคัญ! ป้องกัน 9 โรคร้ายให้ลูกตอนโต
ขอบคุณข้อมูลจาก : รพ.จุฬาลงกรณ์ News twitter.com/prchulahos และ โครงการวัคซีนจุฬา เรื่อง เรียนรู้และเข้าใจ… โรคติดเชื้อในเด็ก โดย ชิษณุ พันธุ์เจริญ, ธันยวีร์ ภูธนกิจ