ถ้าลูกถูกกัดจะทำอย่างไรดี?
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง อรุณี เจตศรีสุภาพ วว.กุมารเวชศาสตร์, อว.โลหิตวิทยา ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า การถูกสัตว์กัดเป็นอันตราย อาจถึงชีวิต โดยในประเทศไทยพบว่า ประมาณ 85-90% เกิดจากสุนัข 10% เกิดจากแมว 2% เกิดจากหนู และสัตว์อื่นๆ เช่น ค้างคาว กระรอก งู แมลงกัดต่อย และคนส่วนใหญ่ที่ถูกกัดก็คือเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือในโรงเรียน
ในประเทศไทยสุนัขมักกัดเด็กตั้งแต่ 2-15 ปีในช่วงฤดูร้อน และกัดเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง เพราะชอบเล่นนอกบ้าน อาจถูกสุนัขจรจัดกัด แผลเมื่อถูกกัดมี 3 แบบคือ แผลถลอก แผลรอยลึก และแผลฉีกขาด
1.ล้างทำความสะอาดแผลเบาๆ ด้วยน้ำเกลือ และสบู่ทันที เช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์ 70% และน้ำยาโพวิดีน
2.ถ้าแผลยังมีเลือดออก ให้ใช้ผ้าสะอาดกดแผล และพันแผลเอาไว้ช่วยหยุดเลือด
3.รีบพาไปพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และพยาบาล
การป้องกันไม่ให้ลูกถูกกัด
1.คุณพ่อ คุณแม่ระมัดระวัง ไม่ให้สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ กัดจนลูกน้อยได้รับอันตรายถึงชีวิตได้
2.ดูแลลูกน้อยให้อยู่ในสายตา ไม่คลุกคลีกับสัตว์แม่ลูกอ่อน หรือใกล้ชิดกับสัตว์มากเกินไป
3.สอนลูกน้อยให้รู้จักระวังสุนัข หรือสัตว์ที่อาจจะกัดได้
เครดิต: www.dogilike.com, www.bloggang.com, http://haamor.com