เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ข้อควรรู้สำหรับผู้ประสบเหตุ
เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเพื่อหยุดคนร้ายโดยเร็วที่สุด และจะดำเนินการตรงไปยังจุดที่ได้ยินเสียงปืนนัดสุดท้าย สิ่งที่ควรรู้ไว้ คือ
- เจ้าหน้าที่อาจมีอาวุธจำนวนมาก และอาจสวมอุปกรณ์ยุทธวิธี
- เจ้าหน้าที่อาจตะโกนสั่ง และผลักคนลงกับพื้นเพื่อความปลอดภัย
- เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุจะไม่หยุดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
วิธีปฎิบัติมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ :
- อยู่ในความสงบและปฏิบัติตามคำแนะนำ
- ให้มือมองเห็นได้ และว่างเปล่า
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วต่อเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการชี้
- อย่าพยายามหยุดเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ
- อพยพไปในทิศทางที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าสู่สถานที่
PTSD ความผิดปกติทางจิตใจหลังภยันตราย
ทุกครั้งที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญ “สภาพจิตใจของเหยื่อ” เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และต้องให้ความสำคัญกับวิธีการดูแลเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์เฉียดตาย ความรุนแรงต่าง ๆ ตลอดจนภัยที่คุกคามถึงชีวิต เพราะอาจทำให้เป็นโรค PTSD หรือโรคความผิดปกติทางจิตใจภายหลังภยันตราย PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) หรือโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง เป็นภาวะทางจิตที่เกิดจากการเผชิญกับเหตุการณ์ที่ตึงเครียด น่ากลัว หรือกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง
สัญญาณบ่งบอกของ PTSD ในเด็ก
อาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึง PTSD ในเด็กที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
- รู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือหดหู่
- เห็นภาพเหตุการณ์หรือฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นซ้ำ ๆ และนึกถึงเหตุการณ์นั้นอยู่เสมอ
- พยายามหลีกเลี่ยงคนหรือสถานที่ที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
- มีความคิดในแง่ลบหรือมีอารมณ์ขุ่นมัว เช่น รู้สึกผิด กระวนกระวายใจ ตำหนิตัวเอง รู้สึกอาย รู้สึกสิ้นหวัง รู้สึกแปลกแยกจากพ่อแม่ กลุ่มเพื่อนหรือผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ไม่สนใจกิจกรรมที่เคยชอบทำ ไม่ร่าเริงแจ่มใส และอาจแสดงพฤติกรรมที่ดูหวาดกลัว เป็นต้น
- นอนหลับยาก
- แสดงออกถึงเรื่องราวในเหตุการณ์นั้น ๆ ผ่านทางการวาดภาพหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ
- แสดงอารมณ์ต่าง ๆ มากเกินไป เช่น หงุดหงิด โมโหรุนแรง ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง รู้สึกหวาดระแวง ตกใจหรือสะดุ้งง่าย เป็นต้น
- มีพัฒนาการที่ช้าหรือพัฒนาการที่ถดถอยในหลายด้าน ซึ่งบางอย่างอาจเป็นสิ่งที่เด็กเคยทำได้แล้วในอดีตแต่กลับไม่ยอมทำหรือไม่สามารถทำได้ในปัจจุบัน เช่น กลับมาปัสสาวะรดที่นอน ใช้ภาษาหรือเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนเด็กเล็ก เป็นต้น
วิธีการรับมือ
- รับฟังปัญหาและให้กำลังใจลูกอยู่เสมอ เด็กบางคนอาจรู้สึกสบายใจที่จะเขียนหรือวาดภาพเพื่ออธิบายเหตุการณ์ดังกล่าว โดยคุณอาจให้กำลังใจและอธิบายเพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ความผิดของพวกเขา และพยายามไม่ให้พวกเขาตำหนิตนเอง
- ให้ลูกใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ อาจจะเป็นเรื่องยากในช่วงแรก ต้องให้เวลาลูกในการปรับตัวสักพัก
- หาวิธีสร้างความมั่นใจให้กับลูก สนับสนุนให้ลูกได้ลองตัดสินใจด้วยตนเองในบางเรื่อง คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรตำหนิลูก หากลูกของคุณมีพฤติกรรมบางอย่างที่บ่งบอกถึงพัฒนาการที่ถดถอย ให้เวลาเขาได้ฟื้นฟูจิตใจ
- หากลูกมีอาการของโรคนี้เป็นระยะเวลานานกว่า 1 เดือน หรือมีอาการที่รุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ควรเข้ารับการช่วยเหลือจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.smcm.edu/uvaemergency.virginia.edu/www.pobpad.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ลูกหัวโน หัวกระแทกของแข็ง ควรทำอย่างไร อาการแบบไหนต้องรีบพาไปหาหมอ?
4 เทคนิค “สร้างวินัยเชิงบวก” พูดแบบไหน?..ให้ลูกยอมทำตามแต่โดยดี
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่