คลิปเหตุการณ์จริง! เด็กน้อยจมน้ำคาห่วงยาง
បើជាអ្នក ថាតើគួរទុកកូនជិតស្លាប់យ៉ាងនេះឬទេ? អ្នកនឹងសោកស្ដាយបើសិនជាខកខានមើលវីដេអូមិនដល់ចប់ ទាំងនេះជាក្តីធ្វេសប្រហែសមួយ ស្ទើរតែឆ្កួតលីលាបើសិនជាកូនក្មេងម្នាក់នេះស្លាប់។ រឿងហេតុថ្មីៗកាលពីម្សិលមិញ។ សូមទស្សនាក្តីរន្ធត់មួយនេះ និងសូមរក្សាទុកក្នុងចិត្ត ជាបទពិសោធន៍ក្នុងជីវិតរស់នៅប្រចាំថ្ងៃរបស់អ្នក។ ខ្ញុំមើលដោយទឹកភ្នែកផង ខឹងផង។
โพสต์โดย Kou Samedy គូ សាមម៉ឺឌី บน 17 พฤษภาคม 2017
ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Kou Samedy គូ សាមម៉ឺឌី
ซึ่งหลังจากได้ดูคลิปนี้แล้ว ทาง Amarin Baby & Kids ก็ขอให้คลิปนี้เป็นอุทาหรณ์ให้คุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครองทุกคนว่าอย่าวางใจว่าเด็กมีห่วงยาง เพราะแม้จะมีห่วงยางและอยู่อ่างเล็กๆก็อาจทำให้เด็กจมน้ำได้นะคะ
วิธีการช่วยชีวิตลูกน้อยหลังจมน้ำ
การปฐมพยาบาลที่ถูกวิธีจะช่วยเหลือเด็กจมน้ำได้ เด็กจมน้ำจะขาดอากาศหายใจและหมดสติ น้ำที่สำลักเข้าไปในปอดแล้วจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที ความพยายามที่จะเอาน้ำออก เช่น การอุ้มพาดบ่าเพื่อกระทุ้งเอาน้ำออก หรือการวางคว่ำบนกระทะใบบัวแล้วรีดน้ำออก ไม่มีความจำเป็นและอาจก่อให้เกิดผลเสียได้น้ำที่ไหลออกมาจากการกระทุ้งหรือรีดท้องนั้นเป็นน้ำจากกระเพาะอาหาร ไม่ใช่น้ำจากปอด
ดังนั้น หลักการปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำที่สำคัญที่สุด คือการช่วยให้เด็กหายใจได้ให้เร็วที่สุด โดย รศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์ กุมารแพทย์โรคหัวใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำถึง 8 ขั้นตอนช่วยเหลือเด็กจมน้ำ ดังนี้
- รีบนำเด็กขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด
- แจ้ง 1669 หรือ หน่วยพยาบาลใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด
- ห้ามนำเด็กวิ่งอุ้มพาดบ่า เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้น้ำในปอดไหลออกมาแล้ว ยังทำให้การช่วยชีวิตเด็กช้าลงไปอีก
- วางเด็กลงบนพื้นแห้ง แข็ง ถอดเสื้อที่เปียกออก เช็ดตัวเด็กให้แห้งเท่าที่จะทำได้
- หากเด็กไม่รู้สึกตัว ให้คลำชีพจรบริเวณคอ (เด็กโต) หรือ บริเวณข้อศอก (เด็กเล็ก)
- หากไม่พบว่ามีชีพจร หรือ ไม่แน่ใจว่ามีชีพจร ให้เริ่มนวดหัวใจ โดยวางสันมือบริเวณกลางหน้าอก ต่ำกว่าราวนมเล็กน้อย กดหน้าอกให้ยุบลงไปประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของหน้าอก ด้วยอัตราอย่างน้อย 100 ครั้ง/นาที ทำติดต่อกัน 30 ครั้ง จากนั้นบีบจมูกและเป่าปากพอให้หน้าอกยกขึ้น 2 ครั้ง และรีบนวดหัวใจต่อ ทำสลับกันในอัตราส่วน 30:2 ติดต่อกัน 5 ชุด (หรือประมาณ 2 นาที)
- เมื่อครบ 2 นาทีแล้ว ให้ตรวจคลำชีพจรอีกครั้ง หากมีชีพจร หรือ เริ่มหายใจได้เอง ให้หยุดนวดหัวใจ จัดท่านอนตะแคงเพื่อเปิดทางเดินหายใจ และรีบนำส่งโรงพยาบาล
- หากยังไม่มีชีพจร หลังครบ 2 นาที ให้นวดหัวใจ สลับเป่าปาก ต่อไปเรื่อยๆ และตรวจชีพจรซ้ำอีกครั้ง เมื่อครบ 2 นาที ทำซ้ำไปจนกว่าจะมีทีมแพทย์มาช่วยเหลือ หรือ จนกว่าเด็กจะเริ่มรู้สึกตัว
ทั้งนี้ในประเทศไทย บ้านเราก็มักมีอุบัติเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตบ่อยครั้ง แต่มีผู้ใหญ่ไม่น้อยที่คิดว่า “เด็กโตแล้ว” จึงวางใจเกินไป คิดเอง (เออเอง) ว่าเด็กวัยนี้เข้าใจดีแล้วเรื่องเสี่ยงไม่เสี่ยง หลีกเลี่ยงภัยได้เองแล้ว จึงไม่ต้องดูแลใกล้ชิดจนอาจถึงขั้นปล่อยปละละเลย จำนวนของเด็กวัยนี้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุสารพัดจึงยังสูงอย่างต่อเนื่อง แล้วจะให้ลูกเล่นน้ำอย่างไรให้ปลอดภัย ไปดูคำแนะนำจาก รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี กันค่ะ
อ่านต่อ >> “ให้ลูกน้อยเล่นน้ำอย่างไรให้ปลอดภัย” คลิกหน้า 3
แนะนำบทความน่าอ่าน คลิกเลย!
- ใช้ขวดลอยตัวในน้ำ ช่วยลูกจากการจมน้ำ เทคนิคที่พ่อแม่ต้องรู้
- เทคนิคสอนเด็กว่ายน้ำเอาตัวรอด ป้องกันเด็กจมน้ำ
- พาเบบี๋ลงอ่างให้สนุกและปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่