ข้อแนะนำในการรักษา (คออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย)
1. หลังจากแพทย์วินิจฉัยอาการ และสั่งยาปฏิชีวนะที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อเบตา สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ เช่น เพนิซิลิน อีริโทรมัยซิน คลาริโทรไมซิน ให้แล้ว ข้อสำคัญ คือ ผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาต่อเนื่อง7 – 10 วันจนครบ แม้อาการจะทุเลาแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไข้รูมาติก หรือไตอักเสบแทรกซ้อน
2. เช็ดตัว ร่วมกับการให้ยาลดไข้เมื่อมีไข้สูง
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ
4. รับประทานอาหารรสอ่อน ๆ และดื่มน้ำหวานบ่อย ๆ เนื่องจากเด็กจะเจ็บคอมากทำให้รับประทานได้น้อย
5. กลั้วคอทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ วันละ2 – 3 ครั้ง
ข้อควรระวัง!
หากตัวคุณพ่อคุณแม่เองหรือลูกน้อยมีไข้ เจ็บคอมาก ควรนึกถึงโรคคออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบไว้ด้วยเสมอ และควรรีบมาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมทั้งควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำในการใช้ยาอย่างเคร่งครัดนะคะ …เพราะถึงแม้ว่าอาการคออักเสบ และต่อมทอนซิลอักเสบ จะเป็นความผิดปรกติที่ไม่รุนแรงต่อสุขภาพมากนัก แต่หากทิ้งไว้ก็อาจเป็นสาเหตุเริ่มต้นของ “ไข้รูมาติก” และ “โรคหัวใจรูมาติก”
ดังนั้นหากเด็กได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี และปฏิบัติตนตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โอกาสที่จะเกิดความผิดปรกติทั้งสองอาการที่กล่าวมาก็จะเป็นไปได้ยาก ที่สำคัญต้องฝากถึงคุณพ่อคุณแม่หากลูกน้อยมีอาการ ลูกเจ็บคอ คออักเสบ หรือทอนซิลอักเสบ ควรรีบนำมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย อย่าซื้อยารับประทานเองโดยเด็ดขาด เพราะอันตรายที่ท่านคาดไม่ถึงอาจมาเยือนคนที่ท่านรักได้ค่ะ
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- ยาอมแก้เจ็บคอ และบรรเทาอาการไอที่ถูกจัดให้เป็นยาอันตราย
- 6 ผลไม้แก้ไอ ขับเสมหะ แม่ท้องกินได้ปลอดภัยไม่ต้องใช้ยา
- 5 เคล็ดลับแก้ อาการไอ ละลายเสมหะ เมื่อลูกเป็นหวัด
- รู้จักโรค ต่อม อดีนอยด์ และ ต่อมทอนซิลโต
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.si.mahidol.ac.th