อีสุกอีใสในเด็ก พ่อแม่ต้องดูแลลูกให้ดี หากเกิดกับลูกที่ยังเล็กมาก อาจทำให้แพ้ขั้นรุนแรง อาการของโรคอีสุกอีใส เป็นยังไง หากลูกเป็นแล้วจะมีวิธีดูแลหรือรักษาอย่างไร ตามไปดูกัน
เมื่อ โรคอีสุกอีใส เกิดกับลูกน้อย
อีสุกอีใสในเด็ก โรคติดต่อทางผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ ทำให้ร่างกายเกิดผื่นคัน มีตุ่มนูนขนาดเล็ก หรือตุ่มน้ำใส ๆ ทั่วร่างกาย ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่อย่างไรก็ตามโรคอีสุกอีใสสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว การดูแลลูกที่ป่วยเป็น อีสุกอีใสในเด็ก จึงเป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและหายเองได้ แต่อาจรุนแรงได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ และทารกที่อายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกน้อยมีไข้ต่ำๆ และมีผื่นขึ้นตามตัว ควรรีบพาไปหาหมอเพื่อวินิจฉัยโรคทันที เพราะหากพบว่าลูกแพ้มีผื่นรุนแรง ก็อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการและภาวะแทรกซ้อน การตรวจวินิจฉัยโรคอย่างทันท่วงที และได้รับยาโดยเร็ว จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น … เช่นเดียวกับกรณีของหนูน้อยวัย 2 เดือนกว่าคนนี้ ที่ป่วยเป็น อีสุกอีใสในเด็ก
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่และหนูน้อยครอบครัวนี้ เป็นคนไทยที่ไปอาศัยทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลี โดยหลังคลอดคุณพ่อคุณแม่ก็ได้พาน้องไปทำใบเกิด แต่หลังกลับมาวันแรก น้องก็เริ่มมีตุ่มขึ้น และไม่คิดว่าลูกจะมีอาการแพ้จนร้ายแรง .. ทั้งนี้คุณพ่อได้โพสต์ภาพและเล่าอาการของน้อง ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ ซับ ซีโร่ ด้วยความที่ชะล่าใจเพราะคิดว่าน้องเป็นแค่ อีสุกอีใส เลยไม่คิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้!!
โดยอาการโรค อีสุกอีใสในเด็ก ของหนูน้อยคนนี้ คือ แรกเริ่มมีตุ่มเล็กๆ ขึ้น ที่หน้าและขา 3 จุด แต่หลังจากนั้นในวันถัดมา ตุ่มเริ่มเยอะขึ้น และน้องก็มีไข้ต่ำๆ ร่วมกับท้องเสีย เมื่อได้พาน้องไปโรงพยาบาล แต่คุณหมอกลับบอกว่าติดไวรัส จึงให้ทานยา กลับมาได้ 3 วัน ทานยาตามหมอสั่ง อาการน้องไม่ดีขึ้น ตุ่มเยอะมากขึ้นจากไม่กี่จุด เต็มฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตามตัว ปาก เลยได้พาน้องไปหาหมออีกโรงพยาบาลที่เป็นสำหรับเด็ก แต่คุณหมอได้ให้ไปที่โรงพยาบาลใหญ่ เนื่องด้วยเครื่องมือไม่พอ จึงสุดท้ายย้ายไปที่โรงพยาบาลใหญ่
ซึ่งคุณหมอก็ได้ทำการตรวจโรค ตามขั้นตอน มีการเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ อุจาระ และเจาะไขสันหลัง พร้อมทั้งตรวจโคโรน่า และคุณหมอประเมินว่าต้องอยู่โรงบาล 10 ถึง 15 วัน
วันที่ 17 เมษายน คุณพ่อได้เล่าอัปเดตอาการของน้อง ซึ่งหลังจากหลังจากนอนโรงพยาบาลมา 2 คืน ตอนนี้เท้าน้องเปื่อย และปากแตกเป็นแผลมีเลือดซึม กินนมไม่ได้
วันต่อมา 18 เมษายน อาการน้องยังทรงตัว เหมือนเดิมมีตุ่มเพิ่มขึ้นมาที่หน้า คุณหมอก็ยังบอกไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นอะไร เช้านี้คุณหมอก็ได้มาเจาะเพื่อเอาเลือดไปตรวจอีก ซึ่งน้องก็ยังมีอาการไข้ขึ้นตลอดเวลา
อ่านต่อ >> “อาการโรคอีสุกอีใสในเด็กที่แพ้รุนแรง
พร้อมวิธีดูแลรักษาเมื่อลูกเป็นอีสุกอีใส” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่