จากสถิติสาเหตุการเสียชีวิตของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคปอดบวมมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งโรคนี้ทำให้เด็กมีภาวะหายใจเร็วกว่าปกติ หากปล่อยไว้อาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้ ดังนั้นมารู้จักอาการของโรคปอดบวมและรู้วิธีสังเกตอาการ หายใจผิดปกติ กันดีกว่า
โรคปอดบวมในเด็ก
เริ่มต้นเด็กจะมีไข้ อาจมีหนาวสั่น ไอมีเสมหะ หายใจเร็วกว่าปกติ หรือแสดงอาการหอบเหนื่อย ถ้ามีอาการรุนแรงขึ้นจะมีอาการหายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม ปีกจมูกบานถ้ามีภาวะหายใจลำบากรุนแรงขึ้นและไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต
การหายใจเร็ว หรือศัพท์ที่เรียกทางการแพทย์ว่า Tachypnea เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ถึงภาวะความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ เด็กจะมีภาวะหายใจลำบากซึ่งอาจเริ่มจากเป็นเพียงเล็กน้อยและมากขึ้นจนนำไปสู่อาการที่รุนแรงได้ดังนั้นการเรียนรู้วิธีประเมินการหายใจ ร่วมกับการสังเกตลักษณะการเคลื่อนไหวของทรวงอกขณะหายใจในเด็ก จึงสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยชีวิตเด็กในเบื้องต้นได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีประเมินและสังเกตการหายใจในเด็ก
1. อัตราการหายใจ
โดยปกติในทารกและเด็กจะมีอัตราการหายใจเร็ว และจะค่อยๆ ช้าลงจนกระทั่งถึงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ ถ้าอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น อัตราการหายใจจะเพิ่มตามด้วย เพื่อที่จะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย และให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอใจการเผาผลาญสารอาหาร
การนับอัตราการหายใจจะช่วยให้ทราบว่าเด็กมีการหายใจเพียงพอหรือไม่ หากว่าการหายใจไม่เพียงพอร่างกายเราจะหายใจเร็วขึ้นและแรงขึ้น
วิธีการวัดอัตราการหายใจ การนับอัตราการหายใจต้องนับให้ครบ 1 นาที ขณะที่เด็กสงบหรือพัก ถ้านับอัตราการหายใจขณะเด็กร้องไห้ จะได้ค่าที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับความเป็นจริง
- สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จะสังเกตการเคลื่อนไหวของท้องขึ้นลง นับเป็น 1 ครั้งใน 1 นาที
- สำหรับเด็กอายุมากกว่า 7 ปี จะสังเกตจาการเคลื่อนไหวของทรวงอกขึ้นลงนับเป็น 1 ครั้งใน 1 นาที
วิธีสังเกต -ใช้การสังเกตการเคลื่อนไหวของผนังหน้าท้องขึ้นลง นับเป็น 1 ครั้ง -จับเวลาให้ครบ 60 วินาที -หรือการใช้มือสัมผัสหน้าท้องเบาๆ ขณะนับการเคลื่อนไหวของหน้าท้อง
อัตราการหายใจสามารถบอกถึงภาวะผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจได้ โดยพิจารณาจากอายุและอัตราการหายใจเป็นเกณฑ์ดังนี้
- ทารกแรกเกิด – 2 เดือน ใช้อัตราการหายใจเร็วตั้งแต่ 60 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป
- อายุ 2 เดือน -11 ปี ใช้อัตราการหายใจเร็วตั้งแต่ 50 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป
- อายุ 1 -5 ปี ใช้อัตราการหายใจเร็วตั้งแต่ 40 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป
2. สังเกตการเคลื่อนไหวของทรวงอกขณะหายใจ
หายใจอกบุ๋ม (Retraction) คือการดึงรั้งของกล้ามเนื้อบริเวณทรวงอกขณะหายใจสังเกตง่ายๆ คือเด็กจะหายใจแรงจนชายโครงบุ๋มขณะหายใจเข้าแสดงถึงภาวะที่เด็กต้องใช้กล้ามเนื้อช่วยในการหายใจเพื่อนำเอาอากาศเข้าปอดมากขึ้นซึ่งอาจเกิดจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ จึงทำให้หายใจลำบากนั่นเอง
วิธีสังเกต
- โดยปกติในเด็กเล็กเมื่อหายใจเข้า ท้องและอกของเด็กจะป่องออก เมื่อหายใจออก ท้องและอกของเด็กจะหุบเข้า
- แต่ถ้ามีอาการหายใจลำบาก จะมีอาการอกบุ๋มเมื่อหายใจเข้า โดยบริเวณใต้ชายโครงของเด็กจะบุ๋มในขณะที่ท้องและอกจะป่องออก
- อาการอกบุ๋มพบได้ในหลายบริเวณได้แก่เหนือกระดูกไหปลาร้า บริเวณช่องว่างระหว่างซี่โครง บริเวณใต้ชายโครง และบริเวณใต้กระดูกกลางหน้าอก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. ปีกจมูกบาน (Nasal Flaring)
เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการหายใจลำบาก
4. หายใจมีเสียงดัง
วิธีสังเกต
- ขณะที่เด็กสงบ ฟังเสียงหายใจ โดยแนบหูใกล้ปากของเด็ก
- ในขณะที่เด็กหายใจเข้า จะได้ยินเสียง ฮืด หรือขณะหายใจออก อาจได้ยินเสียงหวีด
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ผู้ดูแลพบอาการ หายใจผิดปกติ เหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจของลูกน้อยได้ ควรรีบพามาโรงพยาบาลโดยด่วน
ชมคลิปตัวอย่างการหายใจอกบุ๋ม
การที่คุณพ่อคุณแม่สังเกตและรู้ว่าการหายใจผิดปกติในเด็กเป็นอย่างไร จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยชีวิตของลูก ยิ่งสังเกตและรู้เร็วมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
- รวม 20 อาการต้องสงสัย ลูกไม่สบาย แบบนี้..! กำลังป่วยเป็นโรคอะไร?
- ตารางวัคซีน 2564 ปีนี้มีปรับรายละเอียด? ลูกต้องฉีดอะไร ตอนไหนบ้าง เช็กเลย!
บทความโดย : อาจารย์สุภาวดี ทับกล่ำ อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิตยสาร Amarin Baby & Kids
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สุดยอด!แม่สังเกตจนรู้ ลูกไม่ได้เป็น ตากุ้งยิง แท้จริงคือชีสต์