สำหรับการฉีดวัคซีนนั้น นอกจากจะป้องกันโรคได้แล้ว ยังสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดแผลเป็น และช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดโอกาสที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้อีกด้วยเช่นกันค่ะ ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า วัคซีนดังกล่าวจะสามารถฉีดได้กันกับทุกคนนะคะ โดยมีข้อยกเว้นสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
-
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ควรต้องปรึกษาแพทย์ เพราะอาจแพ้วัคซีนได้
-
คนที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เพราะวัคซีนเป็นวัคซีนเชื้อเป็น จึงอาจก่อการติดเชื้อรุนแรงได้เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังต่าง ๆ คนที่กินยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค เช่น ในโรคภูมิแพ้ตนเองหรือภูมิต้านตนเอง
-
ในคนตั้งครรภ์ซึ่งอาจก่อให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อนี้และเกิดความพิการแต่กำเนิดได้
-
เคยแพ้วัคซีนต่าง ๆ มาแล้วและแพ้วัคซีนอีสุกอีใสเข็มแรกมาแล้ว
สำหรับเด็ก ๆ น้ั้น สามารถเริ่มฉีดวัคซีนโรคดังกล่าวนี้ได้ตามความเหมาะสมของช่วงอายุวัยดังนี้
-
เริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยให้วัคซีน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 1 ให้ตอนอายุ 12 – 18 เดือน และเข็มที่ 2 ให้ตอนอายุ 4-6 ปี (โดยห่างกันจากเข็มแรก 4-6 ปี) โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
-
ช่วงอายุ 13 ปีขึ้นไปฉีด 2 เข็ม โดยเข็มที่ 1 ต้องห่างจากเข็มที่2 เป็นเวลา 4 – 8 สัปดาห์
-
และกุมารแพทย์ยังแนะนำให้ฉีกช่วงอายุ 10 ปีขึ้นไปเพื่อให้มีโอกาสติดเชื้อโดยธรรมชาติในช่วงอายุน้อย ๆ ซึ่งมักมีอาการไม่รุนแรงก่อน และเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีภูมิคุ้มกันได้ตลอดชีวิต
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เมื่อถึงเวลาตามที่คุณหมอนัด อย่าลืมพาลูกหลานไปรับวัคซีนกันนะคะ
เครดิต: Medthai และ หาหมอ
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติม:
-
วัณโรคกระดูก โรคติดต่อพ่อแม่ไม่ควรมองข้าม
-
โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา รู้ก่อนป้องกันได้ ปลอดภัยต่อสุขภาพเด็กและครอบครัว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่