เด็กทารก แรกเกิด คือเด็กตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 1 เดือน ซึ่งร่างกายและจิตใจยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ทำให้พบโรคได้บ่อย เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ใหญ่ การดูแลและป้องกันโรคจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
1.ภาวะติดเชื้อใน เด็กทารก แรกเกิด
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กแรกเกิดยังมีภูมิคุ้มกันไม่มากพอ จึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งเชื้อส่วนใหญ่มาจากคุณแม่ โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนคลอดนานๆ เพราะเชื้อทางช่องคล่องจะเข้าไปในถุงน้ำคร่ำ ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ เข้าสู่ร่างกายลูกน้อยได้ ยิ่งถุงน้ำคร่ำแตกนานเท่าไหร่ ยิ่งมีความเสี่ยง เพราะถุงน้ำคร่ำเป็นเหมือนตัวป้องกันเชื้อโรคให้ลูกน้อย หากคุณแม่มีอาการปวดท้อง หรือน้ำเดินจึงไม่ควรปล่อยไว้ ให้รีบไปพบคุณหมอเพื่อป้องกันภาวะนี้
เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว จะแสดงอาการติดเชื้อ เช่น กินนมน้อย ซึม หายใจผิดปกติ ตัวซีด หรือบางรายอาจมีอาการชัก เกร็ง หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกน้อยมีอาการดังกล่าวหลังคลอด ควรรีบพาลูกน้อยไปพบคุณหมอโดยด่วน
2.โรคทางเดินหายใจ
เด็กทารกแรกเกิดที่ออกมาจากครรภ์คุณแม่ เป็นช่วงที่เปลี่ยนผันการดำรงชีวิตของตัวเอง ดังนั้น การทำงานของปอด หรือระบบหายใจอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ จึงควรใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากลูกน้อยคลอดก่อนกำหนด หรือมีอายุครรภ์ไม่ถึง 36 สัปดาห์

3.ภาวะตัวเหลือง
ภาวะตัวเหลืองในเด็กทารกแรกเกิด เกิดจากสารเคมีที่เรียกว่า บิลิรูบิน เป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดงซึ่งมีอยู่ในเลือดสูง เมื่อตับที่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ของเด็กแรกเกิดไม่สามารถกำจัดไปได้หมด ทำให้เด็กตัวเหลือง ซึ่งเกิดขึ้นได้ในช่วง 3-4 วันแรก โดยทั่วไปจะตัวเหลืองไม่เกิน 10 วัน แต่หากตัวเหลืองมากๆ คุณหมอจะทำการเจาะเลือดและติดตามผล หรือบางรายจะใช้วิธีการส่องไฟเพื่อรักษาอาการตัวเหลือง
4.น้ำตาลในเลือดผิดปกติ
เด็กทารกแรกเกิดที่น้ำตาลในเลือดต่ำ หรือสูงผิดปกติ ส่วนใหญ่เกิดจาก 2 สาเหตุ ได้แก่ ตัวคุณแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และตัวลูกน้อย หากลูกน้อยที่คลอดออกมาน้ำหนักต่ำกว่า หรือสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หากพบว่าลูกน้อยมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ คุณหมอจะพิจารณาให้น้ำเกลือควบคู่ไปกับการกินนมแม่
5.โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กทารกแรกเกิด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โรคหัวใจพิการชนิดมีภาวะตัวเขียว และโรคหัวใจพิการชนิดไม่มีภาวะตัวเขียว มีอาการที่สังเกตได้คือ ริมฝีปากมีสีเขียวคล้ำ จมูกบาน หายใจแรงและเร็ว ดูเหนื่อย หน้าอกบุ๋ม ซี่โครงบาน ตัวเย็น มือเท้าเย็น ดูดนมได้ไม่นานแล้วหยุดเป็นพักๆ
ในบางรายคุณหมออาจพบว่ามีเสียงหัวใจเต้นผิดปกติตั้งแต่ก่อนออกจากโรงพยาบาล หรืออาจตรวจไม่พบ และไม่มีอาการแสดงออกอย่างชัดเจนก็ได้