วิธีคุมกำเนิด (ยาฝังคุมกำเนิด) ได้ผลดีจริงหรือเปล่า?
นั่นหนะซิคิดอยากจะคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝังคุมกำเนิด ที่ต้องมีการฝังเข็มเข้าไปในแขน แค่นึกภาพก็หวาดเสียว กล้าๆ กลัวๆ กับวิธีนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน …เอาเป็นว่าอย่าเพิ่งคิดกันไปไกล เพราะคนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คือ คุณหมอแมนวัฒน์ โชคสุวัฒนสกุล สูตินรีแพทย์ เจ้าของเพจ “เรื่องเล่าจากโรงหมอ” มีคำตอบที่ชัดเจนให้ตามนี้ค่ะ…
คุณหมอคะ ในรูปที่เห็น คือการใช้ “ยาฝังคุมกำเนิด” ใช่ไหมคะ ทำไมมี 2 เข็ม?
คุณหมอ – ในรูปเป็นการฝังยาคุม 2 หลอด ที่คุมกำเนิดได้ 5 ปี ขนาดหลอดยาที่ฝังเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 2.5 มิลลิเมตร ซึ่งจะใหญ่กว่าแบบหลอดเดียว ที่คุมกำเนิดได้แค่ 3 ปี ซึ่งหลอดเดียวจะมีขนาด 2 มิลลิเมตร ตัวเข็มจะมีขนาดต่างกันไม่มากครับ แต่แบบเข็มเดียวตัวฝังจะออกแบบมาปิดๆ เข็มไว้ เพื่อความปลอดภัย และการไม่เห็นตัวเข็มที่แทงเข้าผิวหนัง คนไข้จะได้ไม่รู้สึกว่าน่ากลัว
แล้วแบบนี้ถ้าจะเลือกวิธีการใช้ยาฝังคุมกำเนิด ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดไหมคะ?
คุณหมอ – ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนว่าการคุมกำเนิดแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป และก็มีข้อจำกัด ซึ่งบางครั้งก็มีโอกาส ผิดพลาดทำให้ท้องขึ้นมาได้ แม้แต่วิธีการทำหมันก็ด้วยเช่นกันครับ สำหรับการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝัง ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ ดีมากๆ ครับ แต่ไม่ใช่ทางเลือกเดียวสำหรับคนที่เคยคลอดลูก และก็ไม่มีข้อห้ามใดๆ ในการใช้วิธีนี้ครับ
ยาฝังคุมกำเนิด เป็นแบบเข็มเดียว กับแบบ 2 เข็ม ใช่ไหมคะ?
คุณหมอ – ใช่ครับ ยาคุมกำเนิดชนิดฝังในปัจจุบันที่ใช้มีสองแบบ คือ 1 หลอด และ 2 หลอด
1 หลอด (Implanon, Nexplanon) จะคุมกำเนิดได้ 3 ปี
2 หลอด (Jadelle) จะคุมกำเนิดได้ 5 ปี
ซึ่งยาฝังคุมกำเนิดแบบ 1 หลอด และ 2 หลอด จะเป็นหลอดซิลิโคน ที่บรรจุฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไว้ภายในตัวหลอดมีขนาดเล็กๆ ครับ
การคุมกำเนิดแบบฝัง มีข้อดีอะไรบ้างคะ?
คุณหมอ – การฝังยาคุมกำเนิดนั้นดีมากๆ มีข้อดีที่น่าจะเรียกความสนใจให้กับแม่ๆ ได้มากอยู่พอสมควร นั่นคือ…
– ไม่ยับยั้งการสร้างน้ำนม ทำให้แม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง
– ฝังทีเดียวจบ ไม่เหมือนกับกินยาคุมที่ต้องกินทุกวัน หรือถ้ายาฉีดก็ต้องฉีดทุกสามเดือน
– ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดสูงถึง 99+% ถ้าฝังถูกต้อง
– ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น ถ้าเป็นในยาคุมชนิดรวมอาจทำให้เกิด ฝ้า คลื่นไส้
– ผลข้างเคียงเรื่องน้ำหนักขึ้น เลือดออกผิดปกติ ไม่มากเท่ายาฉีดคุมกำเนิด
– ลดอาการปวดประจำเดือน หรืออาการของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้
– ลดโอกาสเกิดมะเร็งเยื่อยุโพรงมดลูก
บทความแนะนำ คลิก>> คุมกำเนิดถาวร อีกทางเลือกที่ดีถ้ามีลูกพอแล้ว
แล้วข้อเสียของวิธีฝังยาคุมกำเนิด มีหรือเปล่าคะ?
คุณหมอ – ข้อดีมักมาคู่กับข้อเสียครับ สำหรับการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝัง
– หลังทำแล้วอาจมีผลเรื่องของน้ำหนักตัวบ้างนิดหน่อย รวมถึงหลังจากฝังไปแล้วหนึ่งปี คนไข้ 1 ใน 3 จะไม่มีประจำเดือน
– มีอาการหงุดหงิด ซึมเศร้า ช่องคลอดแห้งได้ เช่น เดียวกับยาฉีด แต่ผลจะน้อยกว่า
– ราคาถ้าฝัง 2 หลอดราวๆ 2,500-3,000 บาท (รพ.รัฐ) ส่วนโรงพยาบาลเอกชนน่าจะประมาณ 7,000-8,000 บาท
– หากมีการเอาหลอดยาที่ฝังออก จะต้องกรีดแขนในตำแหน่งที่ฝังยาลงไปทำให้เกิดแผลเป็นเล็กๆ
– ตอนฝังยาไม่เจ็บมาก เพราะฉีดยาชา แต่หลังฝังยาแล้วอาจมีเจ็บบ้าง และอาจเกิดรอยช้ำอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ มีแผลเล็กๆ ขนาดสักไม่เกินครึ่งเซ็นติเมตร
เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อมูลความรู้ของการคุมกำเนิดแบบใช้ยาฝัง คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก หรือคลอดมาแล้วสักพักหนึ่งแล้วยากทำหมัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ขอให้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้มากที่สุด หากไม่มีความรู้หรือเข้าใจมากพอ อย่าลังเลที่จะไปขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งครรภ์ที่ใกล้บ้าน หรือจะเป็นคุณหมอที่เคยทำคลอดให้ก็ได้นะคะ ส่วนวัยรุ่นสาวๆ ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร แนะนำว่าต้องป้องกันตัวเองกันด้วยนะจ๊ะ
อ่านต่อ วิธีคุมกำเนิดที่ต้องมีหมอทำให้เท่านั้น หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่