ติดง่าย ลามไว ไม่แสดงอาการ โควิดสายพันธุ์อังกฤษ ทำคนไทยติดเชื้อรายวันเพิ่มหลักร้อยพบเชื่อมโยงคลัสเตอร์ “ผับ-บาร์-สถานบันเทิง” กลางกรุงแล้วร่วม 20 จังหวัด อันตรายแค่ไหน ป้องกันอย่างไร วัคซีนโควิดป้องกันได้หรือเปล่า ไปหาคำตอบกัน
โควิดสายพันธุ์อังกฤษ อันตรายกว่าสายพันธุ์อู่ฮั่นหรือไม่ ป้องกันอย่างไรให้รอดชัวร์
ใกล้ช่วงสงกรานต์เข้ามาทุกที แต่คนไทยกลับต้องตกอยู่ในความกังวลอีกครั้ง เมื่อพบผู้ติดเชื้อโควิดเป็นกลุ่มก้อนจากสถานบันเทิงย่ายทองหล่อ และกระจายตัวไปในคนหลายวงการ หลายอาชีพ และในหลายพื้นที่ของประเทศ จากรายงานของศบค. (วันที่ 8 เม.ย.64) พบมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 405 คนเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 391 คน โดยมีผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงราว 500 คนใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงาน ไม่แสดงอาการผิดปกติเหมือนการระบาดระลอกก่อน ที่สังเกตได้จากอาการ มีไข้สูง จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่รับรส ภายหลังมีรายงานจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ตรวจพันธุกรรม SARS -CoV-2 จากตัวอย่างบางแค และทองหล่อ ด้วยวิธี Specific probe Real Time RT-PCR เพื่อแยกสายพันธุ์อังกฤษ กับสายพันธุ์ปกติ (Wild type) พบว่าสายพันธุ์ที่ระบาดจากคลัสเตอร์ทองหล่อ เป็นเชื้อ โควิดสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งสามารถระบาดได้รวดเร็วขึ้น กว่าสายพันธุ์ปกติ 1.7 เท่า และมีปริมาณไวรัสในผู้ป่วยสูงมากแม้ไม่แสดงอาการ
โควิดสายพันธุ์อังกฤษคืออะไร มาจากไหน
ศ.นพ. โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ระบุว่า “โควิดสายพันธุ์B1.1.7 ประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กระจายตัวไปในอเมริกาและหลายบประเทศในยุโรป ไวรัสชนิดนี้มีคุณสมบัติจับเซลล์มนุษย์ได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพในการแบ่งตัวดี เพราะฉะนั้นจะตรวจพบเชื้อในโพรงจมูกมาก และติดเชื้อง่าย และเลี่ยงหลบจากภูมิต้านทานได้”
การกลายพันธุ์นี้เป็นผลให้พบผู้ติดเชื้อในประเทศอังกฤษมากถึงวันละ 6 แสนคนจนต้องประกาศล็อคดาวน์ทั้งประเทศ และอนุญาตให้มีการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนเป็นประเทศแรก ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยลดลงเรื่อยๆเหลือวันละประมาณหลักพันคน
ขณะที่ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ระบุถึงความน่ากลัวของเชื้อ โควิดสายพันธุ์อังกฤษไว้ว่า “มันสามารถแพร่กระจายได้เร็วมาก จึงไม่แปลกว่าเหตุใดสถานบันเทิงจึงมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 10 เท่า หากผู้ติดเชื้ออยู่อาศัยร่วมกับผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง ทำให้เกิดปอดบวมสูง โอกาสเกิดจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ในปีนี้จึงมีความน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะการเคลื่อนย้ายของประชาชนเป็นเหตุทำให้การแพร่กระจายของโรคไปได้ไกล”
คุมเข้มคนมาจากต่างประเทศ เชื้อสายพันธุ์อังกฤษเข้ามาได้อย่างไร
อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ประเทศไทยมีมาตรการคุมเข้มการเข้า-ออกต่างประเทศมาระยะหนึ่ง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการนำเชื้อโควิดจากต่างประเทศเข้ามา โดยผู้เดินทางจากต่างประเทศจะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อก่อนบิน และเมื่อถึงเมืองไทยก็ต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวอีก 14 วัน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษนี้จะเล็ดลอดมาจากสถานที่กักกันตัวใช่หรือไม่
MUST READ : รวมประกันโควิด 2021
MUST READ : เรื่องจริงจากหมอ “ทำคลอดแม่ติดโควิด” อันตรายสุด
MUST READ:เด็กติดโควิด ระวังเชื้อจากพ่อแม่ แพร่ Covid-19 สู่ลูก
ด้านนายแพทย์ยงได้โพสต์อธิบายถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า “มีการระบาดของสายพันธุ์อังกฤษอย่างมากในประเทศเขมร ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 64 – 19 มีนาคม 64 มีจำนวนผู้ป่วยกว่า 1500 ราย สายพันธุ์ที่ตรวจพบ รายงานโดย องค์การอนามัยโลก เป็นสายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมากในเขมร
เมื่อเป็นเช่นนี้่ต้นต่อของการระบาดในประเทศไทยครั้งนี้ ที่เกิดจากสายพันธุ์อังกฤษ “ไม่น่าจะมาจากสถานกักกัน ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่น่าจะมาจากการเคลื่อนย้ายของประชาชนระหว่างประเทศเขมรและไทย เพราะพบสายพันธุ์นี้ในเขมร ตั้งแต่วันที่ 20 กพ 64 และยังระบาดอย่างรุนแรงในเขมร รายงานต่างด่าว หรือคนไทยที่ข้ามไป ข้ามมา น่าจะเป็นต้นเหตุ ในการแพร่ระบาดครั้งนี้”
สำหรับวันหยุดยาวสงกรานต์ที่คนไทยจะเดินทางกันเยอะทั้งกลับบ้าน และท่องเที่ยวกลายเป็นช่วงเวลาน่ากังวลใจอย่างยิ่ง ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวในรายการโหนกระแส ออกอากาศเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 “ช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าพวกเราการ์ดตก ไม่ใส่หน้ากาก ล้างมือ ไม่เว้นระยะห่าง ประจวบเหมาะกับที่เชื้อ โควิดสายพันธุ์อังกฤษ เข้ามา ทำให้แพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็นไปได้หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ข้ามพื้นที่ เพราะไม่รู้ว่าในตัวเรามีไวรัสหรือเปล่า จะได้ไม่กระจายเชื้อออกไป รอบนี้ผมถึงเป็นห่วงมากพอการ์ดตก แล้วถูกซ้ำเติมด้วยสายพันธุ์ที่กระจายง่าย ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะทะลุไปถึงหลักพันในที่สุด
สิ่งสำคัญคืออย่าปิดบังข้อมูล เมื่อกลัดกระดุมเสื้อผิดแล้ว อย่ากลัดไปเรื่อยๆ หยุดเถอะ แล้วกลับมาช่วยกันดีกว่า ตอนนี้อยากให้ทุกคนกลับมายกการ์ดสูง ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างกันเหมือนปีที่แล้ว สงกรานต์นี้เราจะได้ปลอดภัย”
ขณะเดียวกันประเทศไทยยังต้องเฝ้าระวังเชื้อโควิดกลายพันธุ์อีก 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์แอฟริกา ซึ่งแพร่เชื้อมาแล้วระยะหนึ่งในอเมริกาและยุโรป กับอีกหนึ่งสายพันธุ์คือ สายพันธุ์บราซิลที่กำลังระบาดอย่างหนัก พบผู้ติดเชื้อ 6แสนกว่าคนในประเทศบราซิล และมีการแพร่ระบาดในอเมริกาและอังกฤษแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่มีข้อมูลวิชาการมากนัก
ช่วงนี้เวลาคุณพ่อคุณแม่อยุู่นอกบ้านต้องระวังให้มาก เพราะถ้าจะไม่มีอาการใดๆ ก็ไม่ได้หมายความจะปลอดภัย เพราะเราอาจกลายเป็นพาหะชั้นดีพาเชื้อร้ายกลับไปติดลูกที่บ้านแบบไม่รู้ตัว วิธีง่ายๆที่ช่วยให้ปลอดภัยจากเชื้อ มีดังนี้
- ยกการ์ดสูงทุกด้าน ใส่หน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ไม่สัมผัสกับจุดเสี่ยง เว้นระยะห่าง ไม่เข้าไปในสถานที่มีคนพลุกพล่าน
- เฝ้าติดตามสถานการณ์โควิดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทราบข้อมูล และไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
- ลดการรวมกลุ่มระหว่างคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการประชุม การรับประทานอาหาร่วมกัน หรือนัดสังสรรค์ อาจต้องเลื่อนไปก่อน
- กลับถึงบ้านแล้วต้องทำความสะอาดตัวเองทันที ก่อนสัมผัสลูก
- หมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่นำไปนอกบ้าน และมีโอกาสที่ลูกจะสัมผัสด้วย เช่น กุญแจบ้าน กุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ เป็นต้น
MUST READ : 10 สิ่งของเสี่ยงติดโควิด ควรระวังป้องกัน ฆ่าเชื้อโรค ก่อนถึงตัวลูก!
ในเมื่อต้องอยู่บ้านกันยาวๆแบบนี้ อย่าลืมหากิจกรรมดีๆไว้เล่นสนุกกับลูกน้อย ช่วยเสริมสร้างพัฒนาและทักษะรอบด้าน ไปพร้อมๆ กับสร้าง “เวลาคุณภาพ” กับลูกน้อยอย่างปลอดภัย ด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: รายการโหนกระแส / thairathnews / the standard
บทความน่าสนใจอื่นๆ
สสส. แนะวิธี ป้องกันลูกจากโควิด กับ 4 ข้อ ที่พ่อแม่ต้องเพิ่มความระวัง!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่