อันตราย..พ่อแม่สังเกตให้ดี หากเห็นลูกน้อยชอบ นอนอ้าปาก ลูกของคุณอาจเสี่ยงกำลังป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ 1 ใน 4 โรคนี้
ระวัง..ลูก นอนอ้าปาก ไม่ใช่เรื่องดี..เสี่ยงเป็น 4 โรคนี้!
การนอน ถือเป็นอาหารสมอง เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายของลูกน้อยได้พักผ่อน สามารถสร้างภูมิต้านทานโรค พร้อมมีร่างกายที่สดชื่นแจ่มใสอารมณ์ดี คิดอ่านหรือทำอะไรได้หลักแหลม จดจำสิ่งต่างๆ ที่เรียนรู้ไปได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นการนอน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกน้อยนอนให้เพียงพอ
ทั้งนี้ขณะที่ลูกนอน คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยหมั่นสังเกตด้วยว่า ลูกนอนท่าที่ดีแล้วหรือยัง ห่มผ้าหรือเปล่า หลับสนิทไหม หรือ นอนกรน นอนอ้าปาก หรือเปล่า เพราะหากลูกมีพฤติกรรมการนอนที่ผิดปกติ โดยเฉพาะ นอนอ้าปาก หรือ นอนหายใจทางปาก ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยได้เลยว่า ลูกของคุณอาจจะกำลังไม่สบายอยู่ก็เป็นได้
ทำไมลูกทารกถึงนอนอ้าปาก
สำหรับลูกทารกวัยแรกเกิด 2-3 อาทิตย์แรก จะนอนอ้าปาก เพราะยังหายใจทางจมูกเองไม่ค่อยได้ จึงต้องหายใจทางปากร่วมด้วย แต่เมื่อโตมาหน่อยก็จะนอนหลับปากปิดและหายใจทางจมูกได้เอง
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นหากลูก นอนอ้าปาก ปกติ เวลานอนคนเราจะขากรรไกรหย่อนอยู่แล้ว แต่หย่อนแบบริมฝีปากยังปิดอยู่ เรื่องแบบนี้ ให้ลองฝึกค่ะ เมื่อรู้สึกตัวทุกครั้งให้พยายามปิดปาก หรือนึกถึงอยู่เสมอ นานๆ ไปก็จะชิน
แต่หากมีบางวันที่คุณแม่สังเกตเห็นว่าลูกมักนอนอ้าปาก และมีอาการกรนออกมาด้วย ให้รู้ไว้เลยว่าลูกของคุณกำลังไม่สบาย
สาเหตุของการนอนอ้าปาก
การที่ลูกน้อยนอนอ้าปาก หรือนอนหายใจทางปาก สาเหตุหลักส่วนใหญ่มาจาก ลูกหายใจทางจมูกไม่ได้ เพราะกำลังป่วย หรือเป็นหวัด คัดจมูก มีน้ำมูกนั่นเอง เมื่อใช้ชีวิตตอนกลางวันตามปกติ ก็มักจะต้องหายใจทางปาก ดังนั้นเวลานอนทำให้ลูกเคยชินกับการหายใจทางปาก หลังจากเป็นหวัด หรือในเด็กที่เรียนว่ายน้ำมาก็มักจะเคยชินกับการหายใจทางปากนั่นเอง
ทั้งนี้นอกจากความเคยชินกับการหายใจทางปาก หลังจากเป็นหวัดแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นที่บ่งชี้ว่าลูกอาจกำลังป่วยเป็นโรคอื่นๆ ได้อีกเช่นกัน