วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากลูกน้อยมีเลือดกำเดาไหล ดังนี้
มีคุณแม่หลายท่านอาจจะยังใช้วิธีหยุด เลือดกำเดา แบบผิดๆ ด้วยการจับลูกเงยหน้าซึ่งอาจทำให้เด็กสำลัก เลือดกำเดา ลงคอได้ ซึ่งหากเห็นว่าลูกมีเลือดกำเดาออก สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเบื้องต้น คือ
- ใช้หลักการห้ามเลือดไม่ว่าออกมาจากทางไหน ด้วยการกดที่จุดเลือดออกทิ้งไว้ 10-15 นาที จะช่วยให้เกล็ดเลือดเข้ามารวมตัว และเลือดหยุดได้เองในที่สุด
- ตำแหน่งที่เลือดกำเดาไหลบ่อย จะพบที่ด้านหน้าตรงสันกลางจมูก
- หากมีเลือดออกให้ใช้วิธีเอามือบีบจมูกให้แน่นด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ค้างไว้ 5-0 นาที เพื่อปิดจุดเลือดออก และใช้วิธีหายใจทางปากไปก่อน
- หลีกเลี่ยงการบีบๆ ปล่อยๆ จมูกขณะที่กำลังกดจุดหยุดเลือด เพราะส่วนใหญ่ต้องการดูว่าเลือดหยุดไหลหรือยัง
- ดังนั้นให้บีบทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีเป็นอย่างต่ำ หากต้องการทราบว่าเลือดหยุดไหลแล้วหรือไม่
- ประคบเย็นด้วยผ้าห่อน้ำแข็งหรือ cold pack ที่จมูก ซึ่งจะช่วยให้เส้นเลือดภายในโพรงจมูกหดตัว
- บรรเทาเลือดไหลให้น้อยลง หรืออมน้ำเย็น หรือน้ำแข็งภายในช่องปากไปพร้อมๆ กันด้วย จะช่วยลดภาวะเลือดออกให้หายได้เร็วขึ้น
- หากพบว่าเลือดกำเดาไหลออกมา ไม่ยอมหยุดซักที ให้บีบจมูกต่อด้วยวิธีเดิมอีกครั้ง
- กรณีที่มีเลือดกำเดาไหลอย่างต่อเนื่องเกิน 20 นาที ให้บีบทิ้งไว้และรีบพาตัวเองไปโรงพยาบาลในทันที
โดยคุณหมอวิรัช จิตสุทธิภากร แพทย์โรคจมูก รพ. สวรรค์ประชารักษ์ ได้เผยแพร่ภาพให้เห็นถึงวิธีหยุดเลือดกำเดาที่ขัดเจน ซึ่งใช้ได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ถูกต้อง 4 ขั้นตอน ดังนี้
บีบจมูก
ใช้มือบีบจมูกบริเวณปีกจมูก เบา ๆ ในข้างที่มีเลือดกำเดาไหล อย่างน้อย 10 นาที การบีบจมูกจะช่วยหยุดเส้นเลือดขนาดเล็กที่รวมกันอยู่ตรงผนังกั้นจมูกด้านหน้า
หลังตรง
ในขณะที่นั่งหลังตรง ยืดตัว ศีรษะจะอยู่สูงกว่าส่วนอื่นของร่างกาย ทำให้ความดันโลหิตที่สูบฉีดเลือดอยู่นั้นลดลง
ก้มหน้า
เพื่อป้องกันเลือดไหลตกลงคอจนอาจทำให้สำลัก เข้าคอ จะทำให้เกิดการระคายเคือง
อ้าปากหายใจ
การอ้าปากจะช่วยรับอากาศเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ผ่านทางโพรงจมูกที่มีเลือดไหลอยู่ อีกทั้งต้องระวังการไอ จาม เพื่อไม่ให้เส้นเลือดฝอยแตกอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก นพ. วิรัช จิตสุทธิภากร แพทย์โรคจมูก รพ. สวรรค์ประชารักษ์
การรักษาเลือดกำเดาไหล
ทั้งนี้หากเบื้องต้นจะใช้วิธีปฐมพยาบาลดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้วก่อน ในระหว่างที่เลือดกำเดาหยุดไหลไปแล้ว สิ่งที่ต้องคอยระวังดูแล ขณะรักษาต่อ คือ
- หลีกเลี่ยงการแคะจมูกหรือการสั่งนำมูกแรงๆ ภายในระยะเวลา 24-48 ชั่วโมงก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกมาอีก ควรให้ลูกนอนพักในท่ายกศีรษะขึ้นสูง ใช้น้ำแข็งมาประคบเอาไว้ตรงตำแหน่งหน้าผากหรือคอ
- การรักษาหากแพทย์พบว่าลูกมีเลือดไหลไม่หยุดด้วยวิธีเบื้องต้น แพทย์จะหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น ทำการรักษาด้วยวิธีจี้ในจุดที่เลือดออกด้วยไฟฟ้าหรือการใช้สารเคมี การใช้วิธีผูกหลอดเลือดแดง การใส่วัสดุหยุดเลือดกำเดาภายในจมูก หรือการฉีดสารเพื่อหยุดเข้าไปอุดหลอดเลือด เป็นต้น
วิธีป้องกันมิให้มีเลือดกำเดาไหลทำได้ง่ายเบื้องต้น ดังนี้
- ป้องกันไม่ให้บริเวณเยื่อบุจมูกของลูกน้อยแห้ง เพื่อไม่ให้เกิดอาการคันและลดการแคะจมูก โดยการใช้น้ำเกลือหยอดจมูก หรือทาวาสลินเคลือบในรูจมูกของลูกก่อนนอน
- ดูแลอากาศในห้องนอน ไม่ให้แห้งเกินไป
- การรับประทานผัก ผลไม้ หรือ วิตามินซี จะช่วยให้หลอดเลือดฝอยในจมูกแข็งแรง เลือดกำเดาไหลออกน้อยลง
ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกน้อยมีเลือดกำเดาไหล และไหลแบบเรื้อรัง ไหลไม่ยอมหยุด หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ทางที่ดีคือการเข้ารับการตรวจจากแพทย์ เพื่อให้แน่ชัดว่าอาการที่เป็นอยู่นั้นเป็นอาการธรรมดา หรือจากสัญญาณเตือนของโรคในร่างกายของลูกน้อยกันแน่นะคะ
อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!
- ทำไมเลือดกำเดาไหลบ่อยในช่วงตั้งครรภ์
- ล้างจมูกลูกอย่างไรให้ปลอดภัย ถูกต้องแต่ละช่วงวัย
- รวมผลิตภัณฑ์ ยาพ่น และ น้ำเกลือล้างจมูก เลือกแบบไหนดี!
ขอบคุณข้อมุลจาก : mahosot.com , www.thaihealth.or.th