วิธีดูแลลูกเมื่อไปสระว่ายน้ำ อย่างไรให้ปลอดภัย?
ความปลอดภัย ผู้ใหญ่ควรอยู่ดูแลตลอดเวลาเพื่อช่วยเหลือในกรณีที่ลูกจมน้ำหรือสำลักน้ำ ยิ่งถ้าเป็นคนที่มีความรู้เรื่องการช่วยชีวิตก็ยิ่งดี แม้ลูกจะว่ายน้ำเป็น อยู่ในห่วงยางหรืออยู่ในบริเวณน้ำตื้น ก็ไม่ได้เป็นสิ่งรับประกันความปลอดภัยได้นะคะ นอกจากนี้ ลูกอาจได้รับบาดเจ็บจากการเล่นสไลเดอร์ การกระโดดน้ำด้วยความประมาท หรือลื่นล้มจากการวิ่งเล่นริมขอบสระด้วย ที่สำคัญพ่อแม่ควรต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดในเรื่องเหล่านี้ด้วย นั่นคือ
1. ความสะอาดของสระ
เพราะลูกอาจกลืนน้ำเข้าไปโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ถ้าสระไม่ได้มาตรฐานเรื่องความสะอาด เมื่อมีผู้แพร่เชื้อลงไปในสระ เชื้อโรคที่ออกมาทางน้ำมูกหรือน้ำลายก็ไม่อาจถูกทำลายโดยคลอรีนที่มีน้อยเกินไป ผู้รับเชื้อจึงอาจเป็นโรคติดต่อได้ เช่น หวัด ตาแดง อาเจียน หรือท้องร่วง ในทางตรงข้าม ถ้าใส่คลอรีนมากเกินไป ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องตาอักเสบหรือผิวหนังอักเสบจากสารเคมี
2. ระยะเวลา
ในกรณีที่อุณหภูมิของน้ำในสระค่อนข้างเย็น เด็กเล็กไม่ควรเล่นนานเกินครึ่งชั่วโมง และ เด็กโตไม่ควรนานเกิน 1 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น เพราะอุณหภูมิร่างกายอาจลดต่ำเกินไป จนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยหรือไม่สบายได้ง่าย
3. การดูแลเส้นผมและผิวหนัง
สารคลอรีนและแสงแดดมักเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมและผิวหนังถูกทำลาย และผิวหนังของเด็กก็บอบบางและอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่มาก จึงควรให้การดูแลเป็นพิเศษ เช่น เลือกชุดว่ายน้ำที่ปกปิดผิวหนังและมีสารเคลือบป้องกันรังสี UVA และ UVB ทาครีมกันแดดแบบกันน้ำ (waterproof) ก่อนลงน้ำ และไม่ว่ายน้ำกลางแดดจ้า
หากมีปัญหาผิวหนังเป็นผื่นแดงจากการแพ้สารคลอรีน ก็ใช้วาสลีนหรือปิโตรเลียมเจลทาเคลือบผิวก่อนลงน้ำและอย่าเล่นน้ำนาน เมื่อขึ้นจากน้ำแล้ว ควรรีบล้างตัวเอาคลอรีนออกและอาบน้ำ เช็ดตัว เป่าผมให้แห้ง เพราะถ้าใส่ชุดที่เปียกแฉะตลอดเวลา ก็อาจทำให้เป็นเชื้อราหรือเกิดผื่นแพ้
หากมีปัญหาผิวแห้ง ควรทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำ เพราะการเล่นน้ำหรืออาบน้ำบ่อยๆ อาจทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติจนทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น
ส่วนการดูแลเส้นผม ถ้าผมยาว ควรมัดผมให้เรียบร้อยแล้วใส่หมวกด้วย จะช่วยป้องกันไม่ให้ผมเสียจากแสงแดด และหมวกจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมยุ่งหรือพันกันมากตอนอยู่ในน้ำ เวลาสระผม ควรใช้แชมพูของเด็กและใช้ครีมนวดผมด้วยเพื่อให้ผมลื่นไม่พันกัน เวลาสางผม ให้ใช้หวีซี่ใหญ่ เพื่อไม่ให้หนังศีรษะถูกดึงมาก และควรเป่าผมด้วยลมเย็น ไม่ใช่ลมร้อน
เห็นถึงอันตรายจากการปัสสาวะลงในสระว่ายน้ำกันแล้วใช่ไหมคะ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องทำให้เป็นนิสัยก็คือ หากปวดฉี่ หรือปวดอุจจาระ ขอให้ขึ้นจากสระว่ายน้ำแล้วไปเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัวกันให้เรียบร้อย ห้ามมักง่ายปลดทุกข์ลงในสระเด็ดขาดนะคะ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของเราเอง และคนอื่นๆ ที่อยู่ในสระน้ำ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
แพ้อาหาร ผ่านไมโครเวฟ แพ้กลิ่นหรือควันอาหาร
หมอชี้ 4 อาการร้าย! ที่บอกว่าลูกคุณเป็นโรคภูมิแพ้
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
pptvhd36