เช็คด่วน!! 12 พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า - Amarin Baby & Kids

เช็คด่วน!! 12 พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า

Alternative Textaccount_circle
event

เช็คด่วน!! 12 พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า

โรคร้ายที่ทำลายชีวิตผู้คนไม่ได้มีแต่โรคทางกาย แต่ยังมีโรคทางจิตที่ค่อย ๆ กัดกร่อนกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ของผู้ป่วยไปทีละน้อย นั่นคือโรคซึมเศร้า ที่ผ่านมาคุณแม่ ๆ และคุณพ่ออาจได้รู้จักโรคนี้ผ่านข้อมูลโรคซึมเศร้าหลังคลอดที่มักเกิดกับคุณแม่มือใหม่มาบ้างแล้ว วันนี้ทีมบรรณาธิการ ABK ได้นำ 12 พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า มาให้คุณพ่อคุณแม่ได้เช็คกันว่า ตัวเองหรือคนรอบข้างมีพฤติกรรมเข้าข่ายบ้างไหม เพื่อการรักษาที่ทันท่วงทีนะคะ

สาเหตุของโรคซึมเศร้า

ในบทความที่ ศาสตราจารย์นายแพทย์มาโนช หล่อตระกูล เขียนไว้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ท่านได้ให้ข้อมูลไว้ว่า สาเหตุของโรคซึมเศร้านั้น เชื่อกันว่าสัมพันธ์กับหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งจากด้านกรรมพันธุ์ การพลัดพรากจากพ่อแม่ในวัยเด็ก พัฒนาการของจิตใจ รวมถึงปัจจัยทางชีวภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับสารเคมีในสมองบางตัว เป็นต้น โดยปัจจัยสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคซึมเศร้า ได้แก่
  1. กรรมพันธุ์  มีส่วนเกี่ยวข้องสูงในโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในกรณีของผู้ที่มีอาการเป็นซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
  2. สารเคมีในสมอง พบว่าระบบสารเคมีในสมองของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เปลี่ยนแปลงไปจากปกติอย่างชัดเจน โดยมีสารที่สำคัญ ได้แก่ ซีโรโทนิน (serotonin) และนอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) ลดต่ำลง รวมทั้งอาจมีความผิดปกติของเซลล์รับสื่อเคมีเหล่านี้ ปัจจุบันเชื่อว่าเป็นความบกพร่องในการควบคุมประสานงานร่วมกัน  มากกว่าเป็นความผิดปกติที่ระบบใดระบบหนึ่ง
  3. ลักษณะนิสัย บางคนมีแนวคิดที่ทำให้ตนเองซึมเศร้า เช่น มองตนเองในแง่ลบ มองอดีตเห็นแต่ความบกพร่องของตนเอง หรือ มองโลกในแง่ร้าย เป็นต้น บุคคลเหล่านี้ เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน เช่น ตกงาน หย่าร้าง ถูกทอดทิ้ง ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการซึมเศร้าได้ง่าย ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสม อาการอาจมากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้

แบบประเมิน พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า

แบบสอบถามภาวะอารมณ์เศร้า (Patient Health Questionnaire; PHQ9) เป็นแบบสอบถามทีใช้เพื่อช่วยในการประเมินว่าผู้ตอบมีมีภาวะซึมเศร้าหรือไม่ รุนแรงมากน้อยเพียงใด เป็นมากจนถึงระดับที่ไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้หรือไม่
คลิกเพื่อเข้าสู่แบบสอบถามภาวะอารมณ์เศร้า https://med.mahidol.ac.th/infographics/76
พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า
เช็คด่วน!! 12 พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า

12 พฤติกรรมเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า

ผู้เป็นโรคซึมเศร้ามักมีอาการดังต่อไปนี้ต่องเนื่องกันไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ ผู้ที่มีอาการเข้ากับเกณฑ์ต่อไปนี้ต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วนนะคะ
  1. ขาดความสนใจ หรือความเพลิดเพลินในการทำกิจกรรมต่าง ๆ 
  2. มีปัญหาในการทำงาน และการใช้ชีวิตในสังคม
  3. เบื่ออาหาร หรืออยากอาหารมากขึ้น
  4. มีความคิด หรือพยายามฆ่าตัวตาย
  5. เหนื่อย และอ่อนเพลียตลอดเวลา
  6. รู้สึกตัวเองไร้ค่า
  7. รู้สึกเศร้า ท้อแม้สิ้นหวัง
  8. นอนมาก หรือน้อยกว่าปกติ
  9. เก็บตัว แยกตัวออกจากสังคม
  10. รู้สึกผิด และโทษตนเองตลอดเวลา
  11. เคลื่อนไหวช้าลง หรือกระสับกระส่าย
  12. ความสามารถในการคิด และการตัดสินใจน้อยลง

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการรักษาด้วยยา

  1. อาการของโรคไม่ได้หายทันทีที่กินยา โดยเฉพาะอาการซึมเศร้า ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไปอาการจึงจะดีขึ้นอย่างเห็นชัด โดยทำให้ผู้ป่วยหลับได้ดีขึ้น เจริญอาหารขึ้น เริ่มรู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้น ความรู้สึกกลัดกลุ้มจะเริ่มลดลง
  2. ยาทุกชนิดทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ ควรแจ้งแพทย์ทุกครั้งหากเกิดอาการใดๆ ที่ไม่แน่ใจว่าเป็นอาการข้างเคียงหรือไม่
  3. ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ไม่กล้ากินยามากตามที่แพทย์สั่ง เช่น แพทย์สั่งกิน 4 เม็ดก็กินแค่ 2 เม็ด หรือกินบ้างหยุดกินบ้าง เพราะกลัวว่าจะติดยา ถ้าขาดยาแล้วมีอาการไม่สบาย นั่นเป็นเพราะว่ายังไม่หายจากอาการของโรค การกิน ๆ หยุด ๆ หรือกินไม่ครบขนาดกลับจะยิ่งทำให้การรักษาไม่ได้ผลดี และรักษายากมากขึ้น
  4. ยาแก้ซึมเศร้ามีอยู่หลายตัว ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยคนไหนจะถูกกับยาตัวไหน ขึ้นอยู่กับว่าแพทย์มีความชำนาญ คุ้นเคยกับการใช้ยาตัวไหน  ถ้าแพทย์รักษาไประยะหนึ่งแล้ว และเห็นว่าให้ยาในขนาดที่พอเพียงแล้ว ผู้ป่วยยังอาการดีขึ้นไม่มาก ก็อาจเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นต่อไป

ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง

นอกจากเข้ารับการรักษา และกินยาแล้ว มีข้อแนะนำในการปฏิบัติตัว ดังต่อไปนี้ค่ะ
  1. การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยทางร่างกายแล้ว จิตใจก็ยังจะดีขึ้นด้วย ในผู้ที่อาการซึมเศร้าไม่มาก จะรู้สึกว่าจิตใจคลายความเศร้า และแจ่มใสขึ้นได้ จะช่วยให้หลับได้ดีขึ้น การกินอาหารดีขึ้น การขับถ่ายดีขึ้น ถ้าได้ออกกำลังกายร่วมกับผู้อื่นด้วยก็จะยิ่งช่วยเพิ่มการเข้าสังคม ไม่รู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยว
  2. อย่าตั้งเป้าหมายในการทำงานและการปฏิบัติตัวที่ยากเกินไป การกระตุ้นตนเองมากไปกลับยิ่งจะทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ที่ทำไม่ได้อย่างที่หวัง
  3. เลือกกิจกรรมที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีๆ เช่น ไปเที่ยวชายทะเล ชวนเพื่อนมาที่บ้าน พยายามทำกิจกรรมที่ทำร่วมกับคนอื่นมากกว่าที่จะอยู่คนเดียว กิจกรรมที่สร้างสรรค์ จะทำให้มีความรู้สึกที่ดีขึ้น
  4. อย่าตัดสินใจเรื่องที่สำคัญต่อชีวิตขณะที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า เช่น การหย่า การลาออกจากงาน เพราะอาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดไปได้ ควรเลื่อนการตัดสินใจไปก่อน หากจำเป็น ก็ควรปรึกษาผู้ใกล้ชิดหลาย ๆ คนให้ช่วยคิด
  5. ให้แยกแยะปัญหาให้เป็นส่วนย่อยๆ จัดเรียงลำดับความสำคัญว่าเรื่องไหนควรทำก่อนหลัง แล้วลงมือทำไปตามลำดับ จะพอช่วยให้รู้สึกว่าตนเองยังทำอะไรได้อยู่

ญาติควรดูแล หรือปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างไร

ญาติมักจะรู้สึกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ซึมเศร้ามากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เรื่องที่มากระทบก็ดูไม่หนักหนา มองว่าผู้ป่วยเป็นคนอ่อนแอ ซึ่งท่าทีเช่นนี้จะยิ่งทำให้ผู้ที่เป็นรู้สึกว่าตัวเองยิ่งแย่ขึ้นไปอีก เกิดความรู้สึกเป็นภาระแก่ผู้อื่น ทำให้จิตใจยิ่งตกอยู่ในความทุกข์
หากญาติเข้าใจผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า มองว่าเขากำลังไม่สบาย ความคาดหวังในตัวเขาก็จะลดลง ความหงุดหงิดก็จะลดลง จะให้อภัยคนที่กำลังไม่สบาย เพราะเราทราบดีว่าเขาไม่ได้แกล้งทำ
ขอบคุณข้อมูลจาก

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เทียบ โรคซึมเศร้า-ไบโพลาร์ ผู้ใกล้ชิดต้องทำตัวอย่างไร

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดลูก คุณแม่มือใหม่ต้องพร้อมรับมือ

ซึมเศร้าในเด็ก ภัยเงียบจากโควิดที่พ่อแม่ควรระวัง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up