ในแต่ละปี กว่า 1 ล้านคนทั่วโลกต้องเสียชีวิตจากการติดเชื้อซึ่งมีสาเหตุมาจาก “เชื้อดื้อยา” ซึ่งเชื้อนี้เกิดจากพฤติกรรมผิด ๆ ในการกินยา ซึ่งปัญหานี้ หากไม่แก้ที่พฤติกรรมการกินยา ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายจากแบคทีเรียดื้อยาได้
9 พฤติกรรมการกินยาผิด ๆ ที่ทำให้เสี่ยงตายจาก “เชื้อดื้อยา”
เชื้อดื้อยา คืออะไร?
เชื้อดื้อยา คือ ภาวะที่เชื้อแบคทีเรียต่อต้านยาปฏิชีวนะ ทำให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไม่ได้ผลดีดังเดิม อาจต้องใช้เวลารักษานานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาแพงขึ้น หรือผู้ป่วยอาจเสี่ยงเสียชีวิตมากขึ้น ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจาก เชื้อดื้อยา ประมาณ 700,000 คน/ปี หากไม่มีการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง คาดว่าในปี ค.ศ.2050 การเสียชีวิตจะสูงถึง 10 ล้านคน เชื้อดื้อยาจึงเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วทุกมุมโลก เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพประชากรโลก และการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพราะเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย
เชื้อดื้อยาอาจเกิดจากแบคทีเรียเปลี่ยนแปลงยีนจนดื้อยาหรือได้รับยีนดื้อยาจากแบคทีเรียตัวอื่น ๆ ซึ่งทำให้โรคติดเชื้อเรื้อรังบางชนิด เช่น ปอดบวม หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ รักษาได้ยากขึ้นหรือทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะผู้ป่วยบางรายที่ต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด การผ่าตัด หรือการฟอกไต ที่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
เชื้อดื้อยาเกิดจากอะไร?
เชื้อดื้อยาเกิดจากพฤติกรรมการกินยาปฏิชีวนะที่ผิดวิธีและไม่จำเป็น รวมถึงความเชื่อผิด ๆ ของคนไทยในการกินยาเมื่อไม่สบายนั่นเอง และต่อไปนี้ คือพฤติกรรมเสี่ยงในการกินย
- กินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ ความจริงแล้วเราไม่ควรกินยา
ปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะการกินยาปฏิชีวนะโดยไม ่จำเป็น อาจทำให้เชื้อโรคมีการปรับต ัวและพัฒนาตัวเองให้ต่อต้าน ยาปฏิชีวนะ ส่งผลให้เกิดภาวะเชื้อดื้อย า ทำให้การรักษาไม่เป็นผล - กินยาปฏิชีวนะไม่ถูกเชื้อ ทุกครั้งที่ไม่สบาย เราควรรู้ว่าตัวเองเป็นโรคท
ี่ติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือไวรัส เพราะการใช้ยาไม่ถูกกับเชื้ อ เช่น การกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา โรคไข้หวัดเจ็บคอซึ่งส่วนให ญ่เกิดจากเชื้อไวรัส เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็ นเชื้อดื้อยาได้ - แบ่งกันกินยาปฏิชีวนะ แม้ว่าจะป่วยใกล้ ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่ละคนป่วยจากเชื้อเดียวกัน ดังนั้นการแบ่งยาปฏิชีวนะให้อีกคนกิน อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะอาจจะทำให้กินยาไม่ถูกกับเชื้อ และกินยาไม่ครบตามปริมาณที่เหมาะสมได้
- กินยาปฏิชีวนะไม่ครบ การกินยาไม่ครบตามปริมาณ ตามจำนวนครั้ง และตามจำนวนวันที่แพทย์หรือ
เภสัชกรบอก หรือการหยุดยาก่อนกินครบ เพราะรู้สึกว่าอาการดีขึ้นแ ล้ว รวมถึงการนำยาที่เหลือจากกา รกินคราวก่อน มากินต่อ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้ อโรคมีการพัฒนากลายเป็นเชื้ อดื้อยาได้ เพราะกลไกการทำงานของยามีผลต่อเชื้อโดยตรง ไม่ได้มีผลต่อคน ดังนั้นต้องกินยาจนหมดตามที่กำหนด เพราะเชื้อยังถูกกำจัดจากร่างกายไม่หมด จึงเป็นเหตุให้กลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยาได้ - ซื้อยาปฏิชีวนะกินเอง การซื้อยากินยาปฏิชีวนะกินเ
องโดยไม่ปรึกษาหมอหรือเภสัชกร เสี่ยงต่อการได้ยาที่ไม่ถูก ต้องตามสาเหตุของโรค ซึ่งอาจทำให้เป็นเชื้อดื้อย าได้ เช่น เป็นไข้หวัดเจ็บคอ ซึ่งส่วนใหญ่มีสาเหตุจากไวรัส พักผ่อนก็หาย แต่กลับไปซื้อยาปฏิชีวนะมาก ิน มีความเสี่ยงทำให้เชื้อโรคพ ัฒนาเป็นเชื้อดื้อยาได้เช่นกัน - เคยอมยาอมที่ผสมยาปฏิชีวนะต้านเชื้อโรค ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยา เพราะเป็นการใช้ยาในขนาดที่ไม่เหมาะสมแล้วยังเป็นการใช้ยาเกินจำเป็นด้วย
- เปลี่ยนไปใช้ยาต้านแบคทีเรียที่แรงกว่าเดิม เพราะเห็นว่ากินแล้วไม่หาย การรักษาต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะดีขึ้น ดังนั้นการเปลี่ยนยาที่แรงขึ้นอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
- เอายาต้านแบคทีเรียมาโรยแผล นอกจากจะเป็นการรักษาที่ผิดวิธีแล้วยังส่งผลให้แผลติดเชื้อและเชื้อในแผลพัฒนาตัวเองไปสู่การดื้อยาได้
- ใช้ยาต้านแบคทีเรียผสมในอาหารสัตว์ เป็นการใช้ยาที่ผิดและไม่ได้ผล ทำให้เนื้อสัตว์ที่เรากินเข้าไปอาจจะเป็นเนื้อสัตว์ที่ป่วยจากเชื้อดื้อยาก็เป็นได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่