หนึ่งในข่าวโควิด-19 ที่ทำเอาคุณแม่ทั้งหลายอดวิตกกังวลไม่ได้ คือ ข่าว เด็ก 3 เดือนติดโควิด-19 ที่เขตบางบอน กทม ซึ่งเป็นการติดเชื้อจากคนใกล้ตัวในครอบครัว
หมอเฉลย สาเหตุ “เด็ก 3 เดือนติดโควิด-19 พ่อแม่ต้องระวัง!!
วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่พบเชื้อโควิด-19 ในไทย ซึ่งปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศมีจำนวน 10,991 ราย รักษาหายแล้ว 6,943 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3,981 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 67 ราย ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อายุน้อยที่สุด คือ ทารกเพศชาย วัย 3 เดือน จากเขตบางบอน
สำหรับสาเหตุการติดเชื้อโควิดเคสนี้นั้น นายแพทย์วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ชี้แจงว่า เป็นการติดเชื้อในครอบครัว จากการสอบสวนทราบว่า เพื่อนของพ่อมาทานหมูกระทะที่บ้าน ต่อมาเพื่อนคนนี้มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น หลังตรวจจึงพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงแจ้งให้ทราบ ครอบครัวดังกล่าวจึงเข้าตรวจหาเชื้อ ผลออกมาว่าติดโควิด-19 จำนวน 3 ราย และทั้ง 3 ไม่มีอาการ แต่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากนั้นนำเข้าสู่กระบวนการรักษาเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 5 ราย ผู้ติดเชื้อ 3 ใน 5 ราย คือ แม่อายุ 40 ปี ลูกคนโตอายุ 7 ขวบ และลูกคนเล็กอายุ 3 เดือน
หลังจากทราบที่มาของการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กเล็ก ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ต้องหันกลับมาระมัดระวังปกป้องลูกน้อย และสมาชิกในครอบครัว ให้รอดพ้นวิกฤตโรคระบาดไปอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการรักษา Social Distance เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการนำเชื้อกลับมาติดลูกรัก
เนื่องจากเคสเด็กที่ติดโควิด-19 ส่วนมากมักจะติดจากพ่อแม่ และคนในครอบครัว เช่น หนูน้อยวัย 1 เดือน จากจังหวัดระยอง ที่รับเชื้อโควิด-19 จากการพ่อแม่ที่สังสรรค์กินเลี้ยงกันที่บ้านกับเพื่อนๆ และเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่รับเชื้อโควิด-19 จากพ่อแม่ตนเอง ดังนั้นครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ควรหลีกเลี่ยงการพบปะสังสรรค์กับผู้อื่นในช่วงนี้ ไม่พาตนเองไปในที่สุ่มเสี่ยง และรักษา Social Distance อย่างเข้มงวด
Social Distancing หมายถึงการลดการสัมผัส ใกล้ชิด ระหว่างตนเอง และผู้อื่น รวมไปถึงคนในครอบครัว เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคติดต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด วัณโรค รวมไปถึง COVID-19 ที่กำลังระบาดในตอนนี้ด้วย
SOCIAL DISTANCING ต้องทำอย่างไรบ้าง?
- อยู่บ้านให้มากขึ้น งดพบปะสังสรรค์ และเที่ยวนอกบ้าน
- เลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่น เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ยืน-นั่ง ห่างกัน 1.5-2 เมตร
- เลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นโดยตรง
- เลี่ยงการสัมผัสผู้อื่นโดยอ้อม เช่น การใช้สิ่งของร่วมกัน การรับประทานอาหารสำรับเดียวกัน
- เลี่ยงสถานที่ชุมชน และกิจกรรมที่มีคนแออัน
- เปลี่ยนมาใช้ออนไลน์ให้มากที่สุด เช่น การเรียน การประชุม การซื้อสินค้า เพื่อลดความจำเป็นที่ต้องไปอยู่รวมกัน
- ลดความหนาแน่นในลิฟท์ หากเป็นไปได้ให้เปลี่ยนไปใช้บันไดแทน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก อาจารย์แพทย์หญิงรพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
Must Read >> เด็กติดโควิด ระวังเชื้อจากพ่อแม่ แพร่ Covid-19 สู่ลูก
การแพร่เชื้อและโอกาสการแพร่เชื้อ COVID-19
พญ.วราลี ผดุงพรรค กุมารแพทย์ประจำศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธน ได้แชร์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค COVID-19 ในเด็ก เพื่อให้พ่อแม่เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้ เชื้อ COVID-19 จะติดต่อกันผ่านทางสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย ไอ จาม การไอหรือจามที่ไม่ถูกสุขลักษณะ จะมีการแพร่กระจายของเชื้อเป็นละอองฝอยอยู่ในอากาศได้ในระยะ 1-2 เมตร หรือเชื้ออาจติดตามพื้นผิวต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมได้ระยะเวลาหนึ่ง
เชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร?
- เยื่อบุตา เช่น เมื่อเด็กๆ ไปจับสิ่งแวดล้อมที่มีเชื้อโรคอยู่แล้วมาขยี้ตา
- จมูก เช่น มื่อเด็กๆ ไปจับสิ่งแวดล้อมที่มีเชื้อโรคอยู่แล้วมาแคะขี้มูกหรือจมูก
- ปาก เช่น นำมือเข้าปาก อมของเล่น หรือใช้ภาชนะร่วมกัน
Must Read >> โควิด อาการ ที่ต้องสังเกต! สัญญาณอันตรายที่ต้องไปโรงพยาบาล
ข้อแนะนำในการป้องกันโควิด-19 ให้ห่างไกลลูกรัก
- เด็กๆ ควรอยู่ที่บ้านตนเอง เด็ก ๆ มีความเสี่ยงสูงในการได้รับเชื้อโรคจากโรงเรียน สถานที่เรียนพิเศษ หรือ สถานรับเลี้ยงเด็ก เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น เด็ก ๆ ควรกักตัวอยู่กับบ้านของตนเอง ไม่เดินทางไปมาระหว่างบ้านญาติหรือบ้านเพื่อนสนิท
- งดสังสรรค์พบปะกันที่บ้าน ผู้ปกครองงดนำบุคคลภายนอก หรือญาติพี่น้องเข้าพบเด็ก ๆ ในบ้าน และไม่ควรให้บุคคลภายนอกหรือญาติพี่น้องมาเล่นกับเด็กในช่วงนี้
- สอนให้ลูกดูแลความสะอาดส่วนตัว ลูกน้อยวัย 1.5 – 2 ปี พ่อแม่ต้องคอยสอนและดูแลไม่ให้ลูกนำมือ และสิ่งของต่างๆ เข้าปาก และฝึกล้างมืออย่างง่ายให้กับลูก สำหรับลูกวัย 3 ปีขึ้นไป ควรสอนให้รักษาความสะอาด เช่น ฝึกให้ล้างมือประกอบการร้องเพลงที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 20 วินาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการฆ่าเชื้อที่มือ
- คุณแม่ให้นมได้ปกติ แต่ต้องเพิ่มเกราะป้องกัน เนื่องจากน้ำนมแม่ไม่ได้เป็นแหล่งในการแพร่เชื้อโควิด-19 แต่ขณะให้นมต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังการสัมผัสลูก ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นผิว
- คนในครอบครัวทำงานในพื้นที่เสี่ยง ควรแยกห้องในทุกกิจกรรม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเด็ก ๆ หากไม่จำเป็น
- คนในครอบครัวควรเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงพยาบาลหรือสถานที่อากาศไม่ถ่ายเทหากคนในบ้านมีความจำเป็นต้องไปทำธุระนอกบ้าน ไปทำงาน หรือทำธุระ กลับบ้านให้ปฏิบัติเหมือนว่าได้สัมผัสเชื้อโควิด-19 แล้ว ได้แก่
-
- กลับบ้านให้ล้างมือทันที
- ถอดเสื้อผ้า แล้วแยกซักจากเสื้อผ้าเด็ก
- อาบน้ำก่อนเข้าไปเจอลูก
- ไม่ควรใช้ของใช้ร่วมกัน แยกชาม ช้อน แก้วน้ำ ของใช้อื่น ๆ
- ถ้าลูกเล็กมากอยู่ในวัยทารก หรือมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง ควรสวมหน้ากากอนามัยก่อนไปเจอลูก
วิธีสร้างเกราะป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กโต
พ่อแม่ควรสร้างความรู้ความเข้าใจกับตัวโรคแก่เด็กอย่างกระชับ เพื่อให้ลูกเข้าใจถึงอันตรายของโรคโควิด-19 เช่น
1.บอกกับลูกว่า ตอนนี้มีเชื้อโรคตัวใหม่และรุนแรง ที่สามารถติดกันได้ง่ายจากการไอ จาม และการสัมผัสสิ่งของร่วมกันทุกคนต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
2.สอนให้ลูกล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้งอย่างถูกต้อง ก่อนและหลังทำกิจกรรมต่างๆ
3.อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า ควรหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าหรือเอามือเข้าปาก เพราะทำให้ติดเชื้อโรคได้
4. ต้องใส่หน้ากากอนามัยเสมอเมื่อไปนอกบ้านหรือที่มีคนเยอะ
Must Read >> ไขข้อสงสัย ‘หน้ากากอนามัย’ ชนิดไหนป้องกัน ‘โควิด-19’ และ ‘PM2.5’ ไปพร้อมกัน!!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค , รพ.นครธน , กระทรวงสาธารณสุข
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เรื่องจริงจากหมอ “ทำคลอดแม่ติดโควิด” อันตรายสุด เตือนแม่ อย่าเสี่ยง อย่าปิดข้อมูล
คนท้องตรวจโควิดได้ไหม จำเป็นต้องตรวจไหม อาการแบบไหนไม่ควรปล่อยไว้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่