ท้องร่วง หนัก ระวังอันตรายจากเชื้อ โรต้าไวรัส อาการธรรมดาที่พ่อแม่ห้ามประมาท เพราะคร่าชีวิตเด็กน้อยมามาก ป้องกันไม่ยากแค่ล้างมือ ฉีดวัคซีน
ระวังลูก ท้องร่วง จาก โรต้าไวรัส ระบาดหนักอย่าประมาท!!
ไวรัสโรต้า (Rotavirus) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก โดยมักจะเกิดกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเชื้ออาจติดมากับมือ ของเล่นที่เปื้อน หรืออุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ เมื่อเด็กสัมผัสและเอามือเข้าปาก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย ท้องร่วงได้
4 สัญญาณเตือนภัยร้ายจาก “ไวรัสโรต้า”
พ่อแม่ห้ามประมาทแม้อาการ ท้องร่วงจะเป็นอาการธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ และคิดว่าไม่นานก็หาย แต่หากสังเกตเห็นว่าลูกมีอาการที่เป็นสัญญาณอันตรายเหล่านี้ 4 สัญญาณเตือน ควรรีบพาลูกน้อยมาพบแพทย์ เพราะอาจส่งผลถึงชีวิต
1. มีอาการซึม ไม่มีแรง มือเท้าเย็น
2. มีอาการอาเจียนมาก หรือถ่ายมากผิดปกติ
3. มีปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลยเกิน 6 ชั่วโมง
4. มีอาการตาโหล ร้องไห้ไม่มีน้ำตา หรือเด็กเล็กๆ จะมีกระหม่อมบุ๋ม
ท้องร่วงจาก ไวรัสโรต้า อาการแตกต่างอย่างไร??
หลาย ๆ คนอาจไม่สามารถแยกแยะได้ว่า อาการท้องร่วง แบบไหนที่น่าเป็นห่วง หรือเป็นเพียงแค่อาการท้องเสียธรรมดา หากเป็นการ ท้องร่วงที่เกิดจากเชื้อไวรัสโรต้า หลังรับไวรัสโรต้าเข้าไปในร่างกาย จะมีอาการป่วยได้ภายใน 2 วัน โดยมีความรุนแรงแตกต่างกันไป หากเป็นการติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการรุนแรงได้ ส่วนใหญ่มักมีอาการอาเจียนนำมาก่อน ต่อมามีถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำ อาการเป็นได้นาน 3-7 วัน ประมาณหนึ่งในสามของผู้ป่วยจะมีไข้สูง และอาจมีอาการชักได้ ในเด็กเล็ก ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจมีอาการรุนแรง สูญเสียน้ำและเกลือแร่ ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ความดันโลหิตลดลง เกิดภาวะช็อก และเสียชีวิตได้ สำหรับผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสโรต้า ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอุจจาระร่วงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสามารถก่อให้เกิดโรครุนแรงได้เช่นกัน
รู้ได้อย่างไรว่าลูกติดเชื้อไวรัสโรต้า
กลุ่มเสี่ยงสําคัญ
กลุ่มเสี่ยง คือ กลุ่มที่หากได้รับเชื้อไวรัสโรต้าเข้าไปแล้ว อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ขวบ เป็นช่วงอายุที่พบบ่อยที่สุด เด็กที่อยู่รวมกันในสถานเลี้ยงเด็กและเด็กที่ใกล้ชิดกับเด็กที่ท้องเสียจากเชื้อนี้ ส่วนผู้ใหญ่มักจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโรต้าแล้วจึงไม่น่ากังวล
สุขอนามัยที่ดี ลดความเสี่ยงได้!!
เนื่องจากไวรัสโรต้าติดต่อกันทางสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือทางอ้อมผ่านมือ สิ่งของ และอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปาก เชื้อติดต่อจากคนสู่คน โดยการรับประทานเชื้อเข้าไป การป้องกันอาจจะทําได้โดยการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนเตรียมหรือก่อนรับประทานอาหารหรือนม หรือหลังจากเข้าห้องน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ในการรับประทานอาหารร่วมกัน หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัดที่มีการเล่นร่วมกันในช่วงที่มีการระบาดของโรค อาจช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้ นอกจากนี้การกินนมแม่ อาจช่วยลดความรุนแรงของโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าได้ หลีกเลี่ยงสัมผัสกับผู้ที่มีอาการท้องเสีย อีกวิธีหนึ่งในการป้องกัน คือ การรับวัคซีนโรต้า
วัคซีนโรต้า !!
ข้อมูลวัคซีนโรต้า
เป็นวัคซีนชนิดหยอด ในขณะนี้มี 2 ชนิดในประเทศไทย เริ่มหยอดครั้งแรกอายุไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ ครั้งต่อไปให้ห่างจากครั้งแรกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ หยอดทั้งหมด 2 หรือ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีน ดังนี้
ชนิดแรก หยอดทั้งสิ้น 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายควรให้เสร็จก่อนอายุ 6 เดือน
ชนิดที่สอง หยอดทั้งสิ้น 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายควรให้เสร็จก่อนอายุ 8 เดือน
ประสิทธิภาพของวัคซีน
วัคซีนลดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจากเชื้อโรต้าไวรัสได้ 80-90% ลดการรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลเนื่องจากท้องเสียได้ประมาณ 80-95% โดยรวมป้องกันท้องเสียจากเชื้อโรต้าได้ถึง 70%
ผลข้างเคียงของวัคซีน
วัคซีนมีความปลอดภัยสูง มีอาการข้างเคียงได้บ้าง เช่น ไข้ ถ่ายเหลว อาเจียน ซึ่งไม่รุนแรง มีรายงานการเกิดภาวะลําไส้กลืนกันหลังรับวัคซีนได้บ้างหลังรับวัคซีนยังมีโอกาสเกิดโรคได้อยู่บ้าง แต่เมื่อติดเชื้อไวรัสโรต้าและเกิดโรคอุจจาระร่วง อาการมักจะไม่รุนแรง
อ่านต่อ >> รวมราคา แพคเกจ วัคซีนโรต้า ราคาเท่าไหร่ ที่ไหน คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่