สถานการณ์ โรคหัดระบาด ในปี 2561 ที่ผ่านมา พบว่ามีการระบาดมากถึง 3,590 ราย เสียชีวิต 23 ราย ทำให้ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มวัคซีนป้องกันโรคหัดสำรองไว้กว่า 1.4 แสนโด๊ส เพื่อเตรียมตอบโต้หากเกิดการระบาดขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
โรคหัดระบาด!! ตายแล้ว 23 ราย รีบพาลูกฉีดวัคซีน
วันที่ 4 มี.ค. 2562 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึง กรณีที่มีรายงานข่าวว่าในปี 2561 ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ นั้น โดยในประเทศไทยพบว่าในปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันโรคหัดทั่วระเทศ 3,590 ราย และพบผู้เสียชีวิต 23 ราย ซึ่งตั้งแต่ปี 2527 ประเทศไทยได้บรรจุวัคซีนป้องกันโรคหัดเข้าเป็นวัคซีนบังคับที่จำเป็นต้องให้กับเด็กทุกคน เพื่อรองรับการระบาดของโรคหัดที่เกิดขึ้น โดยมีมาตรการเร่งรัดการกำจัดโรคหัด 5 มาตรการ ดังนี้
- เพิ่มและรักษาระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีน
- เร่งรัดการเฝ้าระวังโรคและการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ
- เสริมสร้างความเข้มแข็งของการสอบสวนและควบคุมโรค
- รณรงค์ให้วัคซีนโรคหัด
- ตอบโต้การระบาดอย่างเต็มที่
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า พบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดการระบาดของโรคหัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กก่อนวัยเรียนและเด็กนักเรียนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ประกอบกับเด็กจำนวนมากมีภาวะทุพโภชนาการ ทำให้เด็กมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงเนื่องจากเกิดภาวะแทรกซ้อน นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยในประชากรกลุ่มเสี่ยงในจังหวัดอื่น ๆ เช่น เด็กต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มผู้ใหญ่ที่อยู่รวมกันเป็นคนหมู่มากตามสถานประกอบการ ค่ายทหาร เรือนจำ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อกำจัดโรคหัดให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในปี 2562 กรมควบคุมโรคได้เพิ่มจำนวนวัคซีนสำรองเพื่อตอบโต้การระบาดเป็น 141,200 โด๊ส เพื่อสนับสนุนพื้นที่ที่เกิดการระบาดโดยเร็ว และยังจัดสรรงบประมาณเพื่อรณรงค์ให้เด็กในวัย 1-12 ปี รับวัคซีนป้องกันโรคหัด
โรคหัด เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส ที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ทั้งนี้ ประเทศไทยได้มีการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคหัดแก่เด็ก จำนวน 2 ครั้ง เมื่ออายุ 9 เดือน และ 2 ปีครึ่ง ซึ่งผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานไปขอรับวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวได้ตามสถานบริการสาธารณสุขของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ขอบคุณข่าวจาก : https://workpointnews.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่