ทั้งโรคไข้หวัดธรรมดา ไซนัสอักเสบ และจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ล้วนแล้วแต่มีอาการที่คล้ายกันคือมีน้ำมูก คัดจมูก ทีมงานมีวิธีแยกให้เห็นถึงความแตกต่างของ 3 โรคนี้มาฝากค่ะ
ไข้หวัดธรรมดา ไซนัสอักเสบ ภูมิแพ้ แตกต่างกันอย่างไร?
ในช่วงหน้าฝน โรคภัยที่เด็ก ๆ มักจะเป็นกันก็คือโรคไข้หวัด และแน่นอนว่าย่อมมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการของโรคไข้หวัดจะสามารถหายได้เอง แต่จะเร็วหรือช้าก็จะขึ้นอยู่กับไวรัสแต่ละชนิด สำหรับเด็กบางคนอาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าอาการไข้หวัดจะหายไป หรือในบางครั้งลูกเพิ่งจะหายจากไข้หวัดจากไวรัสชนิดหนึ่งก็เริ่มมีน้ำมูกจากไวรัสอีกชนิดหนึ่ง ทำให้ดูเหมือนว่าลูกยังไม่หายจากไข้หวัดซักที แต่ในเด็กหลาย ๆ คน อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ ไม่ได้เกิดจากไวรัสหวัดทั่วไป แต่กลับเกิดจากโรคอันตรายอื่น ๆ คือ ไซนัสอักเสบ และจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้ไม่สามารถหายขาดได้เอง และหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และปล่อยให้เรื้อรังไปนาน ๆ โรคอาจลุกลามและรุนแรงทําให้เสียชีวิตได้ ดังนั้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีวิธีแยกให้แม่ ๆ เห็นถึงความแตกต่างของทั้ง 3 โรคนี้มาฝากค่ะ
ไข้หวัดธรรมดา ไซนัสอักเสบ ภูมิแพ้ เกิดจากอะไร?
ไข้หวัดธรรมดา เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น จมูก คอ ไซนัส และกล่องเสียง โดยเชื้อที่ก่อให้เกิดไข้หวัดมักเป็นเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง และสามารถหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
ไซนัสอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อภายในโพรงไซนัส ซึ่งมีอยู่ข้างโพรง จมูกทั้งสองข้าง ได้แก่ บริเวณแก้ม หน้าผาก ใต้ฐานกะโหลกศีรษะ และระหว่างกระดูกเบ้าตาทั้งสองข้าง โดยการติดเชื้ออาจเกิดได้จากทั้งเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา สาเหตุอาจเกิดจากการรับเชื้อโรคโดยตรง เช่น น้ำที่ไม่สะอาดเข้าจมูก หรือเกิดจากการติดเชื้อแทรกซ้อนจากการเป็นโรคไข้หวัดนํามาก่อน การเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง หรือโรคริดสีดวงจมูก
จมูกอักเสบภูมิแพ้ เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้ แล้วปล่อยสาร “ฮิสตามีน” ออกมา ซึ่งสารนี้จะทำให้เกิดอาการจาม คัดจมูกหายใจไม่ออก โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ มักได้แก่ ฝุ่น ละอองเกสรต้นไม้ ดอกไม้ ขนสัตว์ รังแคสัตว์ ความเย็น เช่น อากาศเย็น น้ำเย็น นุ่นในที่นอน หมอน และสารเคมี เป็นต้น
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่