มีประสบการณ์จริงจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่ถูกแชร์ผ่านโลกโซเชียล ที่อาจเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับคุณพ่อ คุณแม่หลายคนได้ เมื่อลูกน้อยเป็น โรคลมชัก แบบที่ไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยมีประวัติการชักมาก่อนเลยก่อนหน้า และไม่มีอะไรผิดปกติ หรือผิดสังเกต ซึ่งอาจทำให้หลายคนชะล่าใจ
ลูกเป็น โรคลมชัก ไม่ทันตั้งตัว
จุดสังเกต
ลูกเราเป็นเด็กคลอดตามกำหนด นอกจากที่แพ้อาหารก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆ พัฒนาการค่อนข้างดีมาตลอด เดินไว กินข้าวเอง เริ่มพูดได้สี่ห้าคำ จนปัจจุบัน 1.9 ปี เราเริ่มรู้สึกว่าลูกเราพูดช้า เด็กวัยเดียวกันเริ่มพูดได้สองคำติดได้ เป็นประโยคมั่ง แต่ลูกเรายังพูดได้ไม่กี่คำเหมือนเดิม แต่เราก็ยังไม่ได้เครียดเท่าไหร่ เพราะคิดว่าเด็กคงช้าเร็วต่างกัน
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เราเริ่มสังเกตว่า ลูกเราชอบผงกหัว ลักษณะเหมือนคนง่วงนอนและสัปหงก คือ หัวตกวูบลงมาแล้วก็เด้งขึ้นเหมือนเดิม แรกๆ คิดว่าง่วง เพราะบางครั้งก็พาไปนอนหลับก็ยอมนอน แต่หลังๆ เริ่มไม่ใช่ คือ เดิน วิ่งเล่นก็ผงกหัววูบ บางครั้งเสียการทรงตัวล้มก้นจ้ำเบ้าไปเลย ยิ่งเฉพาะบนโต๊ะอาหารหลายครั้งที่ผงกหัววูบไปกระแทกโต๊ะมั่ง แก้วมั่ง หน้าผากเขียวไปหมด ลูกเป็นทุกวัน อย่างน้อยๆ ก็ครั้งสองครั้ง ครั้งสุดท้ายที่คิดว่าไม่ไหวแล้ว คือพาไปกินนอกบ้าน กินไปหัวผงกไปเรื่อยๆ คือมันเยอะมาก แล้วชัดเจนว่าไม่ได้ง่วง เพราะนอนมาแล้ว ลูกกินแบบปกติเหมือนไม่รู้ตัว เรารีบถ่ายคลิปไว้ เริ่มคิดจะพาไปหาหมอพัฒนาการ เราคิดว่าลูกอาจจะแกล้งทำเหมือนที่เด็กหลายคนชอบส่ายหัว หรือเอาหัวโขกพื้น แถมก่อนหน้านี้ลูกสับสนการพยักหน้ากับส่ายหัว เราก็สอนเค้าบนโต๊ะอาหารแบบกึ่งๆ บังคับ เลยยิ่งคิดว่าลูกแกล้งทำรึเปล่า เลยรีบนัดหมอพัฒนาการ
ความโชคดีในความโชคร้าย
ก่อนที่จะถึงวันนัดหมอพัฒนาการ ลูกเราดันป่วยซะก่อน เป็นหลอดลมอักเสบ ก็ได้พาไปหาหมอที่ ศิริราชปิยฯ ลูกต้องโดนพ่นยา ดูดน้ำมูกและเสมหะ ต้องไปหาหมอวันเว้นวัน ก็เลยลองเอาคลิปให้คุณหมอดู หมอทักขึ้นมาว่าควรลองไปปรึกษาหมอระบบประสาท เพราะอาการคล้ายชัก เราก็งงเพราะลูกเราแค่ผงกหัวเองนะ หมอก็ได้นัดหมอระบบประสาทให้เราไว้ จนครั้งที่สามอาการหลอดลมอักเสบไม่ดีขึ้น เริ่มลงขั้วปอดแล้ว จำเป็นต้องแอดมิทแต่ที่นี่เตียงเต็ม เราเลยย้ายไปแอดมิทที่พญาไท 3 ก่อนแอดมิทก็พบคุณหมอก่อน ก็ได้ลองเอาคลิปให้คุณหมอดู คุณหมอก็ทักแบบเดียวกันเลย