วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก ช่วยป้องกัน และลดความสูญเสียแก่ลูกน้อย หากคุณกำลังลังเลว่าจะฉีดดีไหม มาฟังคุณหมอจากคณะแพทย์ศาสตร์ ม.เชียงใหม่แนะให้เข้าใจ หายห่วงชัวร์
วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก : ทำความเข้าใจ ปลอดภัย หายห่วง!!
ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีความต่อเนื่อง และยาวนานอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่พบการระบาดในกลุ่มเด็กเพิ่มมากขึ้นกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ผ่านมา และที่น่ากังวล คือ เป็นผู้ป่วยเด็กที่มีอายุน้อยลง โดยมีอายุประมาณช่วงวัยเรียน 6-12 ปี เยอะขึ้น
โอไมครอนกับเด็ก : ปัจจัยการแพร่เชื้อในเด็ก
เด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์เดลต้า เจอผู้ป่วยเด็กประมาณ 14% แต่พอเป็นสายพันธุ์โอไมครอน จากข้อมูลตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ของทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีผู้ป่วยเด็กติดโควิด-19 ประมาณ 21.5% ซึ่งนับว่าเยอะขึ้นอย่างชัดเจน
ปัจจัยการแพร่เชื้อในเด็ก
1.เชื้อโอไมครอนสามารถแพร่กระจายได้ง่าย
หลังจากเกิดการระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ ซึ่ง WHO หรือองค์การอนามัยโลก ประกาศยกระดับให้เป็นสายพันธุ์ระดับที่น่ากังวล (Variants of Concern: VOC) สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด โดยมีรหัสที่เรียกว่า โควิดสายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอไมครอน Omicron ถูกรายงานว่าพบครั้งแรก ในตอนใต้ของทวีปแอฟริกาใต้ ที่ประเทศบอตสวานา
การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ของยีนมากถึง 50 กว่าตำแหน่ง โดย 32 ตำแหน่งเกิดขึ้นบนโปรตีนหนามแหลม หรือที่เรียกว่า Spike Protein ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไวรัสใช้ในการเข้าสู่เซลล์ของร่างกายมนุษย์ ซึ่งพบมากกว่าทุกสายพันธุ์ และมากกว่าสายพันธุ์เดลตา ถึง 2 เท่า และพบการกลายพันธุ์ที่ส่วนตัวรับ ซึ่งไวรัสใช้จับยึดกับเซลล์ของคนเราถึง 10 ตำแหน่ง
เพราะฉะนั้นเมื่อมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งดังกล่าว สิ่งที่น่ากังวลก็คือ
- ทำให้เชื่อกันว่าไวรัสจะสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดลตา
- สามารถเข้าสู่ระบบร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น
- อาจจะหลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น
- มีแนวโน้มต้านประสิทธิภาพวัคซีน
- คนที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้จากโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
อาการของโควิดกลายพันธุ์โอไมครอน
-
อาจมีอาการไม่สบายแค่ 1-2 วัน
-
จมูกยังสามารถได้กลิ่น ลิ้นรับรสได้ดี
-
ไม่ค่อยมีไข้
-
รู้สึกล้า และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
-
มีอาการไอเล็กน้อย ระคายคอ
-
อาการยังไม่ชัดเท่าสายพันธุ์อื่น
-
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หากติดเชื้ออาจทำให้มีอาการรุนแรง
-
อาการโดยรวม เบื้องต้นพบว่าไม่รุนแรง สามารถรักษาที่บ้านได้
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก รพ.วิชัยเวช
2. การระบาดเกิดในโรงเรียน
ในช่วงของการระบาดของโอไมครอน สถานศึกษาได้มีการเปิดเรียนแบบ Onsite แล้ว ทำให้มีการติดจากคุณครู เพื่อน ในชั้นเรียน
3. ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
จากปัจจัยทั้งสามส่วนนี้ จึงทำให้มีการระบาดในเด็กที่มากขึ้นได้ ซึ่งในปัจจัยข้อสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่อง วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก นั้น เราทราบกันดีว่าคุณพ่อคุณแม่มีความห่วงกังวลต่ออาการข้างเคียง และผลกระทบต่อลูก หากต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน เกิดข้อคำถามขึ้นมากมาย เป็นต้นว่า ควรรับวัคซีนชนิดใด แบบไหน หรือควรให้ลูกฉีดวัคซีนดีหรือไม่ และอีกนานาสารพันคำถามในใจ วันนี้ทาง ทีมแม่ ABK ได้ขอทำการเผยแพร่คลิปความรู้ดี ๆ จากทางคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในหัวข้อ วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก : ทำความเข้าใจ ปลอดภัย หายห่วงโดย…รศ.ดร.พญ.ทวิติยา สุจริตรักษ์ อาจารย์ประจำสาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้ความรู้ดังกล่าวเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของคุณพ่อคุณแม่อีกแรง
ขอขอบคุณ คลิปดี ๆ จาก คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความจำเป็นของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็ก
ถึงแม้ว่า ผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 จะมีอาการไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ มีอัตราการเสี่ยงชีวิตต่ำกว่า หรือบางคนไม่มีอาการแสดงเลย แต่การติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กสามารถมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจนอาจเกิดการเสียชีวิตได้ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ภาวะหลัก คือ
ภาวะแรก : ภาวะกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบที่สัมพันธ์กับโรคโควิด-19 ในเด็ก (Multisystem Inflammatory Syndrome in Children) หรือที่ย่อกันว่า MIS-C
เป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามหลังจากที่มีอาการป่วยประมาณ 2-6 สัปดาห์ เกิดขึ้นจากที่ร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรคโควิด-19 ที่มากเกินไป จนทำให้เกิดการอักเสบ กับภาวะหลายระบบในร่างกาย
อาการของการเกิดภาวะ MIS-C
- ไข้
- ผื่นตามร่างกาย
- ตา ปาก มีอาการแดง
- อาการอักเสบของระบบหัวใจ หลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ ที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
ภาวะที่สอง : Long-Covid เป็นอาการแทรกซ้อนชนิดเรื้อรัง ระยะยาว ซึ่งนอกจากในเด็กแล้ว ก็จะพบได้ในวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุเช่นกัน
เป็นภาวะหลังจากที่หายจากโควิดไปแล้วประมาณ 3 เดือนขึ้นไป แล้วก็มีอาการต่อเนื่อง ติดต่อกัน เรื้อรัง นานเกิน 2 เดือนขึ้นไป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระบบทั่วร่างกาย
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในไทย
วัคซีนโควิด-19 ในเด็ก สำหรับเด็กวัย 5 – 11.9 ปี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน และรับรองให้ใช้โดยสำนักงานอาหารและยา มี 2 ชนิด ได้แก่
1. วัคซีนเชื้อเป็น mRNA ที่ใช้ในไทย คือ วัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม (Pfizer) มีปริมาณโดส 10 ไมโครกรัม ต่อโดส
2. วัคซีนเชื้อตาย ซึ่งอนุญาตให้ใช้ในเด็ก 6 ปีขึ้นไป ในไทยมีด้วยกัน 2 ตัว คือ ซิโนแวค (Sinavac) ปริมาณ 3 ไมโครกรัมต่อโดส กับ ซิโนฟาร์ม(Sinopharm) ปริมาณ 4 ไมโครกรัมต่อโดส ซึ่งเป็นปริมาณที่ให้เท่ากับในผู้ใหญ่เลย
ควรฉีดแบบไหนดี??
คุณหมอแนะนำสูตรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็ก
- วัคซีนสูตรหลัก หรือสูตรปฐมภูมิ แนะนำให้เป็น mRNA ไฟเซอร์ฝาสีส้ม 2 เข็ม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยฉีดห่างกัน 8 สัปดาห์
- วัคซีนสูตรทางเลือก สำหรับผู้ที่กังวลวัคซีน mRNA สองเข็ม ก็แนะนำให้ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ คือ Sv /Sp + Pfizer ห่างกัน 4 สัปดาห์ ฉีดเข้ากล้ามเนื้อทั้งคู่ เนื่องจากวัคซีนเชื้อตาย สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธ์ุดั้งเดิมได้ดี แต่ในสายพันธุ์โอไมครอนอาจจะได้ภูมิคุ้มกัน ที่ไม่ดีมากพอ
7 เด็กโรคกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีน เป็นกลุ่มแรก
- กลุ่มเด็กที่มีภาวะอ้วน
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจ และหลอดเลือด
- โรคปอด มีอาการหอบหืดที่มีอาการรุนแรง
- โรคไตเรื้อรัง
- โรคมะเร็ง
- เด็กที่มีพัฒนาการช้า โรคทางพันธุกรรม และระบบประสาทผิดปกติอย่างรุนแรง
ติดโควิดไปแล้วยังต้องรับวัคซีนอีกไหม??
กรณีที่ไม่เคยได้รับวัคซีนเลย แนะนำ ให้ฉีดmRNA ไฟเซอร์ฝาสีส้ม 2 เข็ม โดยเริ่มเข็มแรกให้ฉีดหลังจากเริ่มมีอาการป่วย หรือมีการติดเชื้อ ตรวจพบเชื้อไปแล้ว 12 สัปดาห์ (3 เดือน) แล้วฉีดเข็มที่สองห่างไป 8 สัปดาห์
กรณีที่ได้รับวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม แนะนำ ให้ฉีดเพิ่ม 1 เข็มหลังพบเชื้อ หรือมีอาการป่วย 12 สัปดาห์
กรณีที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แล้วติดเชื้อโควิด-19 ณ ปัจจุบันยังไม่แนะนำให้ฉีดเข็มที่ 3 เพิ่ม
หลังฉีดวัคซีนควรสังเกตอาการผิดปกติของลูก อย่างไรบ้าง?
ในช่วง 1-4 วันแรกหลังจากได้รับวัคซีน ถ้าลูกมีอาการดังต่อไปนี้ อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งมีรายงานจากต่างประเทศว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์ของการฉีดวัคซีนที่รุนแรง แต่พบได้น้อยมาก จึงควรให้สังเกตอาการหากพบให้รีบหาหมอ ดังนี้
- เจ็บอก
- เหนื่อยหอบง่าย
- เป็นลมหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนอาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ที่พบได้แต่ไม่มีอันตรายรุนแรง สามารถหายได้เอง ได้แก่ ปวดบวมแดงร้อนบริเวณที่ฉีด ไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
เมื่อฟังกันมาจนถึงจุดนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่เริ่มหายห่วงกันบ้างหรือยัง เพราะการป้องกันลูกจากไวรัสโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากการป้องกันระวังตัวเอง หมั่นล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง แล้ว การพาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ก็เป็นอีกทางที่ได้ผลดีที่สุดแล้ว การได้รับรู้ข้อมูลรอบด้านจากคุณหมอ คงทำให้หายกังวลกันไปได้บ้าง หากพ่อแม่เริ่มหายห่วงและต้องการให้ลูกได้รับวัคซีนก็สามารถติดต่อกับโรงเรียน หรือสถานศึกษาที่ลูกเรียนอยู่ เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้ทำการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการให้วัคซีนแก่เด็กผ่านทางโรงเรียน โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนด้วย
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
ตั้งชื่อลูกมงคล 333 ชื่อที่แปลว่าทรัพย์สมบัติ ตั้งแล้วลูกร่ำรวยเงินทอง เรียกโชคให้พ่อแม่
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่