การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมีประโยชน์ต่อสมองและร่างกายด้วยนะ
การเคี้ยวอาหารจะช่วยให้ต่อมน้ำลายและต่อมใต้หูหลั่งฮอร์โมนออกมา ระหว่างเคี้ยวอาหารอยู่นั้นร่างกายจะเพิ่มปริมาณออกซิเจนในสมองให้สูงขึ้นด้วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เซลล์สมองทำงานได้ดีขึ้น เลือดในสมองก็จะไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การเคี้ยวอาหารยังสามารถช่วยกระตุ้นพลังในการคิดและสร้างสมาธิได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การมีเวลาเคี้ยวอาหารนานๆ ย่อมเป็นการเปิดโอกาสให้สมองได้ถูกกระตุ้นทางความคิด และมีผลให้สมองเข้มแข็งมากขึ้นได้
ประโยชน์ของการเคี้ยว ในแต่ละช่วงครั้ง
1. เคี้ยว 30 ครั้ง ช่วยให้เหงือกแข็งแรง ทำให้ใจเย็น และลดอาการหงุดหงิดได้
2. เคี้ยว 50 ครั้ง นอกจากช่วยลดอาการเจ้าอารมณ์ของเราได้แล้ว ยังช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย
3. เคี้ยว 100 ครั้ง ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ และจัดการปัญหาต่างๆ ได้อย่างใจเย็น แถมยังช่วยลดการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ไม่ให้กินเกินความจำเป็นได้อีกด้วย
4. เคี้ยว 200 ครั้ง ทำให้ไม่เป็นโรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง และโรคแผลในกระเพาะอาหาร
กินเร็วไปแล้ว กินช้าลงหน่อยไหม
การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดต้องทำอย่างไรบ้าง?
- ให้เวลาในการกินอาหารให้นานหน่อย ให้ความสำคัญกับเวลาในการกินอาหาร โดยควรใช้เวลาอย่างต่ำ 20 นาทีต่อหนึ่งมื้ออาหาร เพราะเป็นเวลาที่นานพอที่กระเพาะอาหารจะส่งสัญญาณไปยังสมองว่ากระเพาะเริ่มเต็มแล้วนะ ควรจะอิ่มได้แล้ว
- ดื่มด่ำกับรูปรสกลิ่นของอาหารก่อนทาน เพราะจะช่วยให้คนกินตั้งใจและสนใจกินอาหารมื้อนั้นๆ ได้มากกว่า
- เคี้ยวให้นานขึ้น ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ดังนั้นจึงควรทานคำเล็กๆ และเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน โดยการกินอาหาร 1 คำควรเคี้ยวให้ได้ประมาณ 30-50 ครั้ง นอกจากจะมีประโยชน์ในด้านการย่อยอาหารแล้ว การเคี้ยวให้ละเอียดยังทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นอีกด้วย
- วางช้อนส้อมไว้ข้างจานขณะเคี้ยว เพราะเมื่อไรก็ตามที่เรายังคงถือช้อนส้อมไปด้วยเคี้ยวไปด้วย ร่างกายก็จะสั่งให้ตักอาหารคำต่อไปโดยอัตโนมัติ เมื่อมีอาหารคำต่อไปมาจ่ออยู่ที่ปาก เราก็จะรีบเคี้ยวรีบกลืน
- พูดคุยกับเพื่อนระหว่างกินบ้าง ก็จะช่วยให้ทานอาหารได้ช้าลง และควรหลีกเลี่ยงการดูมือถือ หรือทีวีไปด้วยขณะทาน เพราะจะทำให้เผลอเร่งกินอาหารโดยไม่รู้ตัว
การทานอาหารอย่างรีบเร่ง และการเคี้ยวข้าวไม่ละเอียด มีผลเสียหลายอย่างเลยใช่ไหมล่ะคะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทีมงาน Amarin Baby & Kids จึงอยากชวนคุณแม่ทุกคนให้หันมาเปลี่ยนวิธีการกินกันค่ะ สำหรับแม่ลูกอ่อนที่แทบจะไม่มีเวลาทำธุระส่วนตัวอยู่แล้ว การกินข้าวช้ายิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ อยากให้ลองหาทางออกดูค่ะ เช่น ให้คุณพ่อหรือผู้ช่วยดูลูกขณะที่แม่กินข้าว หรืออาจจะอุ้มลูกไปด้วยแล้วค่อยๆ ทานไปด้วยก็ได้นะคะ อย่าลืมค่ะว่า แค่เคี้ยวละเอียด ชีวิตก็เปลี่ยน
อ่านบทความดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ไม่มีเวลา “อยู่ไฟหลังคลอด” กินสมุนไพรแทนการอยู่ไฟ ได้ไหม?
ภาวะผมร่วงหลังคลอด แม่ๆมีวิธีรับมืออย่างไร?
ดูแลตัวเองหลังคลอด ไม่มากพอนอนน้อย อาจป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจลืมป่วย, Clean Eating, MGR online
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่