ไม้ประดับมีพิษ ไม่ปลอดภัยกับลูกน้อย พ่อแม่ควรระวัง - amarinbabyandkids

พ่อแม่ควรระวัง! 7 ไม้ประดับมีพิษ ในบ้าน ไม่ปลอดภัยกับลูกน้อย

event

7 ไม้ประดับมีพิษ “ไม่ปลอดภัย” กับลูกน้อย

ไม้ประดับมีพิษ

1. เต่าร้าง
ต้นไม้ตระกูลปาล์มที่นิยมใช้จัดสวนกันอยู่ตลอด แม้ลำต้นจะไม่มีหนามแหลมคมเหมือนต้นระกำหรือสละแต่ถ้าสังเกตดีๆตามลำต้น ผลและผิวใบจะมียางและขนที่เมื่อถูกผิวหนังจะมีอาการคันหรือหากยางเข้าตาโดยตรงอาจทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นจึงควรปลูกไว้ให้ไกลทางเดิน มุมพักผ่อนและมุมที่เด็กเล่น


ไม้ประดับมีพิษ

2. ลั่นทม
อีกหนึ่งพรรณไม้ที่นิยมจัดสวนด้วยทรงพุ่มและดอกที่สวยงามมีกลิ่นหอมจึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของใครหลายๆคน แต่ควรระวังเพราะยางในทุกส่วนของต้นมีพิษเป็นกรดหากสัมผัสตามเนื้อตัวจะมีอาการคันไปจะถึงบวมแดงอักเสบโดยเฉพาะกับเด็ก อีกทั้งกิ่งยังเปราะง่ายจึงเป็นอันตรายกับเด็กเล็กที่เล่นใกล้ๆ


ไม้ประดับมีพิษ

3. หางนกยูงไทย
ถึงจะเป็นต้นไม้พุ่มที่นิยมใช้ในการจัดสวนเพราะเป็นต้นไม้ที่โตง่าย ทนทานและออกดอกสวยงามทั้งปี แต่ต้นหางนกยูงฝรั่งนั้นก็มีข้อเสียคือหนามที่แหลมคมซึ่งขึ้นอยู่ทั้งบริเวณลำต้นและกิ่งก้านสาขา ด้วยทรงพุ่มที่แน่นมีใบเยอะและมีดอกสวยงามล่อตาล่อใจ ทำให้เด็กอาจเผลอไปสัมผัสหรือวิ่งเล่นจนไปถูกกับลำต้นแล้วโดนหนามขวนเกิดแผลถลอกได้


ไม้ประดับมีพิษ

4. ยี่โถ
ต้นไม้ดอกที่มีสีสันสวยงามและดอกหอมมาก เลี้ยงง่ายและออกดอกตลอดทั้งปีแต่ก็เป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่ยางและน้ำหวานจากดอกมีพิษร้ายแรงถึงชีวิตหากรับประทานหรือสัมผัสกับอาหารที่รับประทานเข้าไป ด้วยเหตุนี้จึงนิยมใช้ทำยาเบื่อหนูและยาฆ่าแมลง จึงไม่เหมาะกับปลูกในบริเวณที่มีเด็กเล็กรวมถึงสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่


ไม้ประดับมีพิษ

5. รำเพย
หลายคนคงแพ้สีสันและรูปทรงยามดอกรำเพยบานสะพรั่งจนนิยมใช้จัดสวนกันบ่อยครั้ง ทรงพุ่มแน่นไม่ต้องดูแลมากและทนแล้งได้ดี แต่ส่วนผลและยางบริเวณส่วนต่างๆของต้นมีพิษร้ายแรงถึงชีวิตเช่นกัน โดยเฉพาะยางที่เมื่อถูกผิวหนังจะมีอาการเป็นผื่นแดงแสบและคันอีกด้วย หากเด็กรับประทานผลไปเพียง 1-2 ลูกก็เสียชีวิตได้


ไม้ประดับมีพิษ

6. สาวน้อยประแป้ง
ต้นไม้ประดับใบสีขาวสลับกับเขียวเป็นลายสวยงามสามารถปลูกประดับเป็นต้นไม้กระถางภายในอาคารหรือพื้นที่ร่มได้ แต่ใบฉีกขาดได้ง่ายอีกทั้งหากสัมผัสยางจะมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนไปจนถึงอักเสบ หากรับประทานไปจะมีอันตรายต่อผิวสัมผัสทั้งในปากและทางเดินอาหาร จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกไว้ในบริเวณที่เด็กเล็กอยู่

⇒ Must read : ระวังต้นไม้มีพิษ ลูกเสี่ยงเสียชีวิตภายใน 1 นาที

ไม้ประดับมีพิษ

7. อากาเว่
นิยมใช้ในสวนหินและปลูกประดับเป็นไม้กระถาง เลี้ยงง่ายตายยากไม่ต้องการน้ำมาก แม้จะมีมีพิษร้ายแรงโดยมีเพียงบางสายพันธุ์ที่น้ำยางเมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะเกิดอาการคัน แต่อันตรายส่วนใหญ่จะมากจากหนามแหลมคมที่มาจากขอบใบรอบต้น ที่เพียงสะกิดนิดเดียวก็อาจเกิดแผลได้ จึงไม่เหมาะให้อยู่ใกล้เด็กโดยเฉพาะบริเวณที่วิ่งเล่น

อย่างไรก็ดีอันตรายจากหนามที่แหลมคมและพิษที่อาจได้รับจากการสัมผัส ไม้ประดับมีพิษ เหล่านี้ที่หลายบ้านนิยมปลูกก็ยังมีภัยแอบแฝงอยู่อีกมากมาย ซึ่งก็อาจทำให้ลูกน้อยได้รับผลจากอันตรายเหล่านั้นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น

อาการภูมิแพ้ทรุดลงกว่าเดิม

สำหรับลูกน้อยที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่ คุณพ่อคุณแม่ยิ่งต้องระวังเรื่องการเอาไม้ประดับเข้ามาแต่งบ้านขึ้นไปอีก เพราะละอองจากเกสรดอกไม้พวกนี้จะไปเป็นตัวการทำให้โรคภูมิแพ้ยิ่งทรุดลง จนยิ่งทรมานเสียเปล่า ๆ แถมพืชบางชนิดยังทำให้คนผิวแพ้ง่ายเกิดอาการระคายเคืองอย่างหนักได้อีกด้วย ทางที่ดีเอาไม้ประดับสวย ๆ พวกนี้ไว้นอกบ้านจะดีกว่านะคะ

แมลงน่าขนลุก

ก่อนจะนำต้นไม้เข้ามาในบ้าน ต้องแน่ใจด้วยนะว่ามันมาพร้อมแค่ชีวิตเดียวที่คุณต้องการจริง ๆ ไม่ใช่มีแขกไม่ได้รับเชิญติดมาด้วย อย่างพวกแมลงน่าขนลุกจำพวกแมงมุมอะไรพวกนี้ ซึ่งไม้ประดับที่คุณเอาเข้ามาอาจมีแมลงเหล่านี้ติดอยู่ด้วย หรือเป็นตัวดึงดูดแมลงเข้ามาในบ้านภายหลังก็ได้ และคุณคงไม่อยากอยู่ร่วมกับพวกมันให้เกิดอันตรายหรอกจริงไหม?

อันตรายต่อสัตว์เลี้ยง

สุดท้ายนอกจากอันตรายทั้งหมดที่กล่าวมาจะไม่ปลอดภัยกับลูกน้อย เด็กเล็กแล้ว ยังไม่ปลอดภัยกับน้องหมาน้องแมวในบ้านอีกด้วย เพราะไม้ประดับบางชนิดก็ไม่ถูกกับสัตว์เอาซะเลย เช่น ปาล์มสาคู ซึ่งมีพิษในทุก ๆ ส่วน มากพอจะทำอันตรายกับสุนัขและแมวได้ถึงชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นพืชมีพิษบางชนิดอาจมาพร้อมรูปร่างเรียวยาวที่ดึงดูดให้แมวแสนซนของคุณเข้าไปเล่นกับมันจนเป็นอันตรายได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี พืชต้นไม้ หรือ ไม้ประดับมีพิษเหล่านี้ อาจดูมีสีสันที่สวยสดใส และเป็นที่นิยมปลูกกันมากก็จริง แต่สิ่งสำคัญที่ทุกบ้านโดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ ก็ควรรู้ถึงอันตรายของไม้ประดับต่างๆ เหล่านี้ที่มักแฝงมาในคราบความสวยงามให้หลงใหล เพื่อป้องกันอันตรายจากความงามเหล่านั้นจากคนที่คุณรักนะคะ

อ่านต่อ “บทความอื่นน่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณบทความดีๆ จาก : www.baanlaesuan.com
และข้อมูลอ้างอิงจาก : med.mahidol.ac.th , home.kapook.com , child.haijai.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up