5 อันดับ โรคที่มาพร้อมกับการเล่นน้ำสงกรานต์
1. โรคลมแดด (Heat Stroke)
ขอบอกว่าเป็นได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่เลยนะคะ ลมแดดเกิดขึ้นได้อย่างไร ชื่อโรคบอกอยู่แล้วแน่ๆ ว่าต้องมีสาเหตุมาจากแสงแดด การที่เด็กๆ หรือผู้ใหญ่อยู่กลางแจ้งท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวเป็นเวลานานหลายชั่วโมง สามารถที่จะทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น บวกกับร่างกายสูญเสียเหงื่อมากจนร่างกายปรับสภาพไม่ทัน ส่งผลให้ระดับความเข้มข้นของเลือดและเกลือแร่ในร่างกายเข้มข้นมากไป โดยอาการที่สังเกตได้ว่าน่าจะเป็นลมแดด ก็คือ รู้สึกกระหายน้ำมาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะมาก หน้ามืด ความดันโลหิตต่ำ จนทำให้มีอาการช็อก และหมดสติได้
Must Read >> โรคลมแดด วายร้ายหน้าร้อนของเด็กเล็ก
แนะนำว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่พ่อแม่พาลูกออกไปเล่นสาดน้ำกันสนุกสนาน ขอให้ดื่มน้ำบ่อยๆ อยู่ตลอดเวลา และควรกลับเข้าที่ร่มบ้าง เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่ร้อนมากเกินไปค่ะ
2. โรคตาแดง (Conjunctivitis, pink eye)
อย่างที่รู้กันว่าช่วงเวลาสนุกของเด็กๆ ที่หนึ่งปีจะได้เล่นน้ำสาดกัน แบบที่ไม่มีใครว่าได้ จนทำให้สนุกกันจนลืมนึกถึงความสะอาดของน้ำที่เอามาสาดใส่กัน หรือบางทีน้ำที่เอามาเล่นก็ไปผสมสี ผสมแป้งบวกกับเหงื่อไคลที่ไหลลงไปรวมอยู่ในน้ำที่ สาดเล่นใส่กัน น้ำที่กระเด็นเข้าตา หรือมือที่ไม่สะอาดไปป้าย ไปขยี้โดนที่ตา เชื้อโรคที่แฝงมากับน้ำ สามารถส่งผลให้เด็กๆ เกิดอาการระคายเคืองตา น้ำตาไหล แสบตา มีขี้ตา ปวดตา ตามีลักษณะแดงๆ ขึ้นตรงบริเวณเยื่อตาขาว ทำให้เป็นโรคตาแดงได้ค่ะ
3. โรคอาหารเป็นพิษ (Food poisoning)
อากาศร้อนเชื้อโรคเติบโตได้ดี อย่างแบคทีเรียที่ทำให้อาหารเสีย บูดได้ง่ายมักมากับอาหาร ขนมที่มีส่วนผสมของกะทิ หรือ ไม่ใช่กะทิอาหารที่ทำในช่วงหน้าร้อนก็บูดได้ง่ายมาก หากไม่เก็บไว้ในตู้เย็น ซื้อมาตอนเช้า ยังไม่ทันจะเที่ยงเลย อาหารที่ซื้อมานั้นก็บูดเสียซะแล้ว อาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่สะอาด หรืออาหารบูด ที่เด็กๆ หรือพ่อแม่เอง อาจเผลอทานเข้าไป ก็สามารถทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษขึ้นได้ค่ะ อาหารเป็นพิษจะมีอาการถ่ายเหลว อาเจียน และมีไข้ร่วมด้วย
4. โรคไข้หวัด (Common cold)
เด็กๆ เล่นน้ำกันกลางแดดเปรี้ยง เนื้อตัวเปียกน้ำแต่อยู่กลางแดด ร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน เพราะเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น หากเด็กที่ภูมิต้านทานโรคอ่อนแอ ก็สามารถทำให้ป่วยไข้ด้วยโรคหวัดได้ง่ายมาก และเผลอๆ น้ำที่ไม่สะอาดและมีเชื้อโรค แบคทีเรียไหลเข้าปากลงคอ ไปสู่กระเพาะอาหาร อาจทำให้ป่วยจากไวรัสตับอักเสบได้อีกด้วย
5. โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ (pneumonia)
ใครจะไปคิดว่าแค่เล่นน้ำสาดกันเปียกชุ่มฉ่ำช่วงสงกรานต์เพียงแค่ไม่กี่วัน จะทำให้ป่วยถึงขั้นเป็นปอดบวม ปอดอักเสบกันได้ ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นกันค่ะ เนื่องจากร่างกายที่ถูกสาดน้ำให้เปียกอยู่ตลอดทั้งวัน ในคนที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายไม่แข็งแรง เมื่อต้องตัวเปียกสะสมอยู่ตลอด และไม่ใช่แค่ 1-2 วัน เพราะบางคนเล่นน้ำสงกรานต์ยาวนานมากถึง 4-5 วัน ร่างกายที่ไม่แข็งแรงก็ง่ายต่อการเจ็บป่วย
เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราทุกคนได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น การสูดหายใจเข้าไป การสำลัก การกระจายของเชื้อตามกระแสเลือดไปสู่ปอด แล้วลองคิดดูซิค่ะ น้ำที่เล่นสาดกันถ้าไม่สะอาดจริง โรคถามหาได้นะจ๊ะ
รู้แบบนี้แล้วอย่าเพิ่งขวัญเสีย ว่าจะอดเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะกลัวป่วยไม่สบายกันไปค่ะ เพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงผู้ใหญ่ทุกคน หันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับการเล่นน้ำสงกรานต์ที่สะอาด โดยไม่ผสมสี ผสมแป้ง หรือไปเอาน้ำจากแหล่งน้ำไม่สะอาดมาเล่นสาดใส่กัน เด็กๆ ก็จะปลอดภัยจากการเจ็บป่วยด้วยโรคดังที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ
อ่านต่อ >> เล่นน้ำอย่างไรให้ไม่ป่วยไข้จากโรค หน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่