โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคติดต่อจากแม่สู่ลูก - Amarin Baby & Kids
โรคไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคติดต่อจากแม่สู่ลูก

Alternative Textaccount_circle
event
โรคไวรัสตับอักเสบบี
โรคไวรัสตับอักเสบบี

2.ได้รับเชื้อทางเพศสัมพันธ์

เป็นช่องทางสำคัญของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในวัยผู้ใหญ่ โอกาสในการติดเชื้อสูงกว่าการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีมากถึง 100-200 เท่า เพราะปริมาณไวรัสตับอักเสบบีในเลือดหรือสารคัดหลั่ง เช่น อสุจิ น้ำหล่อลื่น สูงกว่าไวรัสเอชไอวีมาก

วิธีป้องกัน หากคู่ของคุณติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี อีกฝ่ายควรรีบฉีดวัคซีนป้องกัน เพราะโอกาสติดเชื้อมีค่อนข้างสูง

3.ได้รับเชื้อจากการใช้เข็มร่วมกัน

ยกตัวอย่างเช่น การเจาะ การฝังเข็ม การสัก หรือการใช้สารเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น หากทำไม่ถูกวิธี ก็ย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสนี้ทั้งสิ้น เพราะเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่สามารถทำลายได้โดยการนำเข็มจุ่มแอลกอฮอล์เพียงระยะเวลาสั้นๆ

4.ได้รับเชื้อจากการคลุกคลีกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ

หากมีบาดแผลอยู่ หากต้องสัมผัสโอบกอด หอมแก้ม หรือจูบผู้ติดเชื้อ อาจทำให้บาดแผลนั้นสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อโดยตรง จึงมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ

ไวรัสตับอักเสบบี
การรับประทานอาหารร่วมกัน หรือดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ไม่ได้ทำให้ติดเชื้อได้

รับประทานอาหารร่วมกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ติดเชื้อหรือไม่?

การรับประทานอาหารร่วมกัน หรือดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ไม่ได้ทำให้ติดเชื้อได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสมีปริมาณน้อย แต่เพื่อความไม่ประมาท ควรพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น มีดโกนหนวด กรรไกรตัดเล็บ และแปรงสีฟัน เป็นต้น

อาการ โรคไวรัสตับอักเสบบี

1.ชนิดเฉียบพลัน

มักเป็นผู้ที่ติดเชื้อในตอนโตหรือวัยผู้ใหญ่ ผู้ป่วยมักปวดเมื่อยเนื้อตัว เบื่ออาหาร อ่อนเพลียมาก เหนื่อยง่าย มีไข้ต่ำๆ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจมีอาการจุกแน่นบริเวณซี่โครงด้านขวา และจะเริ่มสังเกตเห็นว่าสีปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มกว่าปกติ ตัวเหลือง และตาเหลือง ควรรีบพบแพทย์

การรักษา แนวทางการรักษาจะเป็นการประคับประคองตามอาการโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา หากคลื่นไส้ อาเจียนมาก อาจจะต้องให้น้ำเกลือ แนะนำให้รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่น มัน หรือรสจัด เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมาได้ และไม่ควรดื่มน้ำหวานปริมาณมากๆ เพราะจะเกิดไขมันพอกตับแทน รับประทานอาหารบ่อยครั้งจะได้มีสารอาหารนำไปต่อสู้กับไวรัสได้ และควรพักผ่อนให้เพียงพอ แนะนำให้นอนช่วงพักกลางวันประมาณ 15-30 นาทีเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว มิฉะนั้นช่วงเย็นจะอ่อนเพลียมากกว่าปกติ

อ่านต่อ “อาการโรคไวรัสตับอักเสบบี” คลิกหน้า 3

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up