เริมที่ปาก ใครเคยเป็นจะรู้ว่าทรมานมาก แถมเวลาออกนอกบ้านไปพบปะผู้คนก็กลายเป็นจุดสังเกตบนใบหน้า ทำเอาแทบไม่อยากพูดคุยกับใครเลย ว่าแต่เริมที่ขึ้นมาบนบริเวณริมฝีปากนี้ มีสาเหตุหรืออาการของโรคยังไงบ้างนะ? ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเรื่องเตือนจากการลองลิปสติกตามเคาน์เตอร์มาบอกคุณแม่ และสาวๆ กันด้วยค่ะ
เริมที่ปาก จากการลองเทสเตอร์ลิปสติก!!
วันก่อนเพื่อนส่งข้อความมาหาบอกให้ระวังเป็น เริมที่ปาก เราก็งงว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น คุยกันจนได้ความว่าการลองทาตัวอย่างลิปสติกตามเคาน์เตอร์ หรือจากการไปใช้ลิปสติกของเพื่อนๆ หรือของญาติพี่น้อง นั้นเสี่ยงต่อการเกิดโรคเริมได้เลยละค่ะ
ดร.Janellen Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังจาก UC Irvine School of Medicine กล่าวว่า ไวรัสเริมมีอยู่ 2 ประเภท คือ (Herpes simplex virus) HSV1 และ HSV2
ซึ่ง HSV1 คือไวรัสที่มักติดต่อจากช่องปากผ่านน้ำลาย ดร.Smith กล่าวว่า 90% ของผู้คนล้วนติดเชื้อไวรัส HSV1 ซึ่งคนที่เคยรับเชื้อไปแล้วจะไม่ติดเชื้อซ้ำอีก แต่สำหรับบางคนที่ติดเชื้อ อาจจะไม่แสดงอาการออกมา
ส่วนของคนที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน แล้วมาสัมผัสกับลิปสติกก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้ ซึ่งแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ในการสัมผัสกับลิปสติกของคนที่มาใช้ก่อนหน้านี้ แต่ก็มากเพียงพอให้เกิดการติดเชื้อ[1]
พอจะมองภาพออกแล้วใช่ไหมคะว่า การลองทาเทสเตอร์ลิปสติกเนี่ยสามารถทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเริมได้ง่ายมาก เพราะเวลาที่เรา หรือคนอื่นๆ ทาลิปสติก เนื้อของลิปสติกจะต้องไปสัมผัสโดนเข้ากับริมฝีปากที่มีน้ำลายติดอยู่ หรือถ้าทาลิปสติกเข้าไปในเนื้อปากลึกๆ เนื้อลิปสติกก็จะไปแตะโดนกับน้ำลายได้ ทีนี้ถ้าคนก่อนหน้าเราเขาเกิดมีเชื้อไวรัสเริม หรือเป็นเริมที่ปากอยู่ก่อน คราวเคราะห์คือถ้าเราไปทาลิปสติกต่อจากเขาทันทีอันนี้มีโอกาสที่จะติดไวรัสเริมจากคนก่อนหน้าได้ค่ะ
บทความแนะนำ คลิก>> ตกขาวแบบไหนอันตราย
และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสเริม แนะนำว่าควรทาลิปสติกแท่งที่เป็นเทสเตอร์กับท้องแขน หรือหลังฝ่ามือก็ได้ เพราะสามารถเปรียบเทียบเฉดสีที่เหมาะกับริมฝีปากได้ชัดเจนเหมือนกันเลยค่ะ
อ่านต่อ มาทำความรู้จักกับ “โรคเริม” หน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่