ปอดอักเสบ รักษาอย่างไร??
การรักษาโรคปอดอักเสบแพทย์จะทำการพิจารณารักษาตามอาการและสาเหตุเป็นหลัก หากเป็นปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ แพทย์จะให้รับประทานยาฆ่าเชื้อตามชนิดของเชื้อที่พบ และนัดติดตามอาการเป็นระยะ หากอาการไม่ดีขึ้นจำเป็นจะต้องตรวจหาสาเหตุอื่นเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการ
นอกจากนี้หากเป็นผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ อายุมากกว่า 65 ปี มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เหนื่อยหอบรุนแรง เจ็บหน้าอก และรับประทานอาหารลำบากอาจต้องอยู่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ
การดูแล หากลูกเป็น hMPV
- หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่กระตุ้นให้ไไอ เช่น ควันบุหรี่ พัดลม หรือลมจากเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
- กรณีไอ หอบเหนื่อย มีเสียงหวีด ต้องพ่นยาขยายหลอดลม (ในความดูแลของแพทย์)
- หากมีเสมหะมากต้องพ่นยาละลายเสมหะขยายหลอดลม และดูดเสมหะ ซึ่งจำนวนครั้งที่พ่น จะขึ้นกับปริมาณเสมหะ และอาการหอบเหนื่อย
- ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับอายุ และความรุนแรง กรณีเด็กเล็กมีโอกาสเป็นรุนแรงมากกว่า
- หากลูกเป็น hMPV ควรหยุดเรียนอย่างน้อย 7 วัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด และภูมิต้านทานต่ำ
- หากมีอาการหอบเหนื่อยมาก ๆ ไข้สูง กินได้น้อย หรือมีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาล
เราจะป้องกันโรคปอดอักเสบ ได้อย่างไร??
การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอช่วยให้ห่างไกลจากโรคปอดอักเสบ นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบคืออีกหนึ่งทางเลือกของการป้องกัน แต่จำเป็นจะต้องพบแพทย์เพื่อตรวจพิจารณาก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ
วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ
ปัจจุบันเป็นวัคซีนทีใช้ป้องกันโรคปอดอักเสบที่เกิดจากสาเหตุของการติดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่เรียกว่า เชื้อ Streptococcus pneumoniae ซึ่งมีกว่า 90 สายพันธุ์ ไม่เพียงเท่านี้เชื้อนี้ยังสามารถก่อให้เกิดโรคอื่นตามมาได้อีก ได้แก่ การติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง และการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งโรคปอดอักเสบนี้ปัจจุบันสามารถเสริมภูมิคุ้มกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal vaccine)
กลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีดวัคซีน
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
- ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือเป็นโรคหอบหืดเรื้อรัง
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.bangkokhospital.com/www.siphhospital.com/คลิกนิกหมอสุภารัตน์ /www.paolohospital.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่