ดูแลตัวเองหลังคลอด ไม่มากพอนอนน้อย อาจป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ผลเสียจากการนอนดึก นอนไม่พอ ส่งผลต่อสุขภาพอะไรบ้าง?

ภูมิคุ้มกับกพร่องก็มีสาเหตุมาจากการนอนน้อยเช่นเดียวกันค่ะ และจากเคสตัวอย่างที่คุณแม่ป่วยหลอดเลือดฝอยอักเสบทำให้ต้องรักษาด้วยการทานยา ทายาเพื่อบรรเทาควบคุมอาการอยู่ตลอด ดูแล้วไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยใช่ไหมคะ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ถ้าคุณแม่ไม่อยากป่วยก็ต้องปรับพฤติกรรมการนอนกันตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ

การนอนดึก นอนไม่พอ ยังจะมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอีกมากกมายเลยค่ะ ไปดูพร้อมกันค่ะว่ามีผลกระทบต่างร่างกายในเรื่องใดบ้าง…

1. ปวดศีรษะบ่อย

การนอนน้อยกว่า 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ผลกระทบที่ตามมาคือ เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการปวดศีรษะบ่อย หรือในคนที่มีอาการไมเกรนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็จะยิ่งส่งผลให้อาการปวดหัวไมเกรนกำเริบได้ง่ายมากขึ้น

2. เสี่ยงโรคหัวใจ

การนอนพักผ่อนช่วงกลางคืนเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องทำให้ได้ เพราะการนอนหลับนอกจากจะเป็นการพักร่างกายแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอไป รวมทั้งยังเป็นการให้หัวใจได้พักผ่อนด้วย (หัวใจพักผ่อนไม่ใช่การหยุดเต้น แต่เป็นการเต้นในจังหวะปกติที่สบายขึ้น) คนที่นอนน้อยวันนึงได้แค่ 3-4 ชั่วโมง หากสะสมมากๆ เข้า เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

3. เสี่ยงโรคอ้วน

คุณแม่ หรือแม้แต่ในสาวๆ ที่ชอบนอนดึกๆ เลยเที่ยงคืนทุกวัน ลองสังเกตตัวเองว่ารู้สึกหิว หรือยากอาหารเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า การนอนดึก ทานดึก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และก็กลายเป็นคนอ้วนด้วยค่ะ

4. ระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เพราะขณะหลับเซลล์ต่างๆ ที่สึกหรอไปจากการใช้งานจะได้รับการซ่อมแซมฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรง แต่ถ้านอนไม่พอสะสมมากๆ จะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันลดต่ำลง เป็นผลให้เจ็บป่วยง่าย ทั้งโรคหวัด ภูมิแพ้กำเริบ แผลหายช้า เป็นต้น

5. ไม่มีสมาธิ

นอนไม่พอตื่นเช้ามาก็จะมานั่งสัปหงก ไม่มีสมาธิต่อทุกกิจกรรม สมองคิดอะไรไม่ออก ถ้าเด็กวัยเรียนก็เรียนไม่รู้สึก สมองจดจำไม่ดี ผู้ใหญ่วัยทำงานก็คิดงาน คิดโปรเจคไม่ออก

6. สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง

อุ้ยตาย!!! การนอนน้อย นอนดึกสะสมมีผลต่อเรื่องความรู้สึกทางเพศด้วยนะคะ นั่นก็เพราะว่าการนอนดึก นอนน้อยมีผลต่อกระบวนการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนให้ต่ำลง  ซึ่งทำให้ความต้องการทางเพศลดต่ำลง อันนี้เป็นได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชายเลยนะคะ

7. อายุสั้นลง

ใครมีลูกยังเล็กๆ อยู่ ควรต้องปรับพฤติกรรมรูปแบบการนอนกันใหม่แล้วละค่ะ ถ้ายังนอนน้อย นอนดึกกันอยู่ล่ะก็ เสี่ยงอายุสั้นนะคะ มีผลการวิจัยเผยว่า การนอนในตอนกลางคืนโดยเฉลี่ย 7-8 ชั่วโมง จะสามารถยืดอายุขัยของให้นานขึ้น

บทความแนะนำ คลิก>> อันตรายกิน ยาขับน้ำคาวปลา หลังคลอด !!

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลกระทบต่อสุขภาพที่มาจากการนอนไม่พอเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วยังมีผลเสียต่อสุขภาพอีกมากมายเลยค่ะ อย่างในผู้หญิงนี่ถ้านอนน้อยมากๆ เกิดการเสื่อมโทรมของเซลล์ ทำห้ผิวเสีย หน้าแก่ลงเร็วด้วยค่ะ  เอาเป็นว่าถ้าไม่อยากสุขภาพแย่ คืนนี้รีบเข้านอนแต่หัวค่ำกันนะคะ

การดูแลสุขภาพหลังคลอดแบบศาสตร์แพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน

สุขภาพหลังคลอดเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หรือละเลยกันแม้แต่นิดเดียว และเพื่อให้สุขภาพหลังคลอดกลับมาฟื้นฟูแข็งแรงโดยเร็ว ลองดูวิธีปฏิบัติหลังคลอดจากแพทย์แผนไทย จีน กันค่ะ

ข้อปฏิบัติ 6 ประการจากแพทย์แผนไทย

• เริ่มอยู่ไฟได้เมื่อไรคุณแม่ที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติสามารถอยู่ไฟได้หลังคลอดแล้ว1สัปดาห์แต่ถ้าผ่าตัดคลอดจะต้องรอ1เดือน
• คุณแม่คนใดไม่ควรอยู่ไฟคุณแม่ที่มีภาวะไทรอยด์ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจคุณแม่ที่เคยมีภาวะครรภ์เป็นพิษก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเช่นกัน
• สังเกตตัวเองหากรู้สึกว่าร้อนเกินไปหัวใจเต้นแรงมากแน่นหน้าอกใจสั่นหรือหายใจไม่อิ่ม ต้องออกจากกระโจมหรือห้องที่อยู่ไฟทันที
• ห้ามกินยาดองเหล้า/ว่านชักยาดอง เพราะมักมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งอาจซึมผ่านน้ำนมไปสู่ลูกและส่งผลต่อสมองได้
• น้ำคาวปลาน้ำคาวปลา คือ เยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งจะหลุดออกมาหลังคลอดตามธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันหากผ่าตัดคลอดแพทย์จะเช็ดทําความสะอาดโพรงมดลูกให้เรียบร้อยแล้วน้ำคาวปลาของคุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดจึงออกมาไม่มากแต่คุณแม่บางคนเข้าใจผิดว่าน้ำคาวปลาออกน้อยเพราะยังคั่งอยู่ภายในจึงกินยาขับน้ำคาวปลาซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและลูกน้อยที่กินนมแม่อยู่ได้
• อาหารไทยบํารุงคุณแม่วัตถุดิบของอาหารไทยหลายชนิดช่วยบํารุงร่างกายของคุณแม่และกระตุ้นน้ำนมหลังคลอดได้

ข้อปฏิบัติ 6 ประการจากแพทย์แผนจีน

• คนจีนโบราณมีข้อห้ามว่า…คุณแม่หลังคลอดห้ามออกจากบ้านเป็นเวลา 1 เดือนเพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงดี มาถึงยุคปัจจุบันคุณหมอก็แนะนําให้คุณแม่พักผ่อนจนร่างกายเริ่มเข้าที่สัก 1 เดือนก่อนมารักษาโดยเฉพาะกรณีที่ผ่าตัดคลอดจะต้องรอให้แผลผ่าตัดทุเลาเสียก่อน
• ไม่ฝังเข็มเพื่อลดอาการปวดหลังในช่วงตั้งครรภ์เพราะอาจไปกระตุ้นจุดที่ทําให้มดลูกบีบตัวจนเกิดภาวะคลอดก่อนกําหนด
• อาหารบํารุงแบบจีนไก่ดําตุ๋นยาจีนเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์และแม่หลังคลอด โดยควรใช้ไก่ดำและสมุนไพรเช่นเก๋ากี้ ตังกุย ตุ๋นแต่น้ำ จะช่วยบํารุงเลือด ยิ่งหลังคลอดที่เสียเลือดมากจะต้องกินทุกวันจนครบ 1 เดือน
• ภาวะที่ห้ามฝังเข็มกรณีที่มีโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น โรคเลือดหยุดยากแพทย์จะไม่อนุญาตให้ฝังเข็ม ดังนั้น หากใครมีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจําตัวอยู่แล้วควรนําประวัติการรักษาติดมาเพื่อประกอบการวินิจฉัยด้วย
• ห้ามซื้อยาจีนกินเอง “เด็ดขาด” แพทย์แผนจีนจะจ่ายยาให้คนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกันแพทย์จะต้องตรวจร่างกายคนไข้ก่อนว่ากินยาชนิดนั้นๆ ได้หรือไม่ ตัวยาหลายชนิดยังมีข้อห้ามสําหรับคนท้องและคุณแม่ที่ให้นมลูกชัดเจน คุณแม่จึงไม่ควรซื้อยาจีนกินเองเด็ดขาด กรณีที่ผู้ใหญ่หวังดีนํายาจีนมาให้ก็ควรไปปรึกษาแพทย์แผนจีนเสียก่อน
• ต้องเลือกแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลป์ ถึงแม้จะเป็นแพทย์แผนจีนก็ต้องมีใบประกอบโรคศิลป์จากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยสำหรับคุณแม่และลูกน้อยที่กินนมแม่อยู่ค่ะ

สุขภาพดีหลังคลอดมีได้ไม่ยากค่ะ ขอแค่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล และเมื่อกลับมาบ้านก็ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ ผ่อนคลาย ไม่เครียด และต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วย สำหรับแม่ที่คลอดลูกมาใหม่ควรหาคนมาพลัดเปลี่ยนช่วยเลี้ยงลูก และถ้าลูกหลับแม่ก็หลับไปพร้อมกับลูกด้วย อย่าอดนอนเด็ดขาด …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

ฝังเข็ม อยู่ไฟ ดูแลตัวเองหลังคลอด แผนไทย แผนจีน
อ้วนหลังคลอด น่ากลัวอย่างไร อยากรู้ต้องอ่าน!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คุณแม่เพชรไพลิณ ลิ้มเพี้ย
www.lady108.com
ศูนย์ดูแลสุขภาพชีวจิตโฮมคลินิกเวชกรรมและแพทย์หญิงกันดาภา ฐานบัญชา สูติ-นรีแพทย์โรงพยาบาลบี.แคร์เมดิคอลเซ็นเตอร์