ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่ ต่างกันอย่างไร? - amarinbabyandkids
ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่

รู้ไหมว่า ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่ ต่างกันอย่างไร?

Alternative Textaccount_circle
event
ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่
ไข้เลือดออก กับ ไข้หวัดใหญ่

โรคไข้เลือดออก วิธีสังเกตอาการ

ช่วงฤดูฝนยุงลายออกมาเยอะกว่าปกติ บ้านไหนไม่ติดมุ้งลวด หรือไม่ทายากันยุงให้ลูก อาจโดนยุงกัดเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยไข้เลือดออกได้ง่ายมากค่ะ  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลบ้านให้ปราศจากยุง และที่สำคัญควรต้องรู้อาการเบื้องต้นของไข้เลือดออกด้วย เพื่อที่หากลูกป่วยขึ้นมาจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงทีค่ะ

ลักษณะเด่นของ ไข้เลือดออก

  • มีระยะฟักตัวของเชื้อก่อนที่จะแสดงอาการ 5-8 วัน
  • มีไข้สูงลอย 2-7 วัน (38.5-41 องศาเซลเซียส)
  • ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ร่วมกับปวดตามกล้ามเนื้อมาก
  • บางรายมีเลือดออกผิดปกติ เช่น ถ่ายเป็นสีดำ อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง
  • อาจพบตับโต คือ กดเจ็บบริเวณใต้ชายโครงขวา

** ในรายที่รุนแรงจะมีภาวะช็อก หากรักษาไม่ทัน ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น **

บทความแนะนำ คลิก >> วิธีกำจัดยุง ป้องกันไข้เลือดออก และไวรัสซิกา

สำหรับไข้เลือดปัจจุบันยังไม่มียาหรือวัคซีนสำหรับป้องกันและต้านเชื้อไวรัสโดยเฉพาะ จึงทำได้เพียงรักษาตามอาการ และประคับประคองอาการเท่านั้น ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันเด็กๆ และคนในครอบครัวป่วยจากไข้เลือดออก คือ..

  • หลีกเลี่ยงการถูกยุงกัด โดยนอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด หรือจุดยากันยุง ใช้ยาทากันยุง
  • ไม่อยู่ในบริเวณอับลมหรือเป็นมุมมืด มีแสงสว่างน้อย เนื่องจากเป็นบริเวณที่ยุงชอบ
  • หมั่นอาบน้ำให้สะอาด ปราศจากกลิ่นเหงื่อไคล เพราะกลิ่นเหงื่อไคลจะดึงดูดให้ยุงเข้ามากัดเรามากขึ้น
  • สวมเสื้อผ้ามิดชิดหากจำเป็นต้องออกข้างนอกตอนกลางคืน

ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยเฉพาะแหล่งน้ำขังภายในบ้านและรอบๆ บ้าน เช่น จานรองขาตู้กับข้าวกันมด แจกันดอกไม้ ภาชนะเลี้ยงพลูด่าง จานรองกระถางต้นไม้ หรือกระทั่งเศษวัสดุไม่ใช้แล้วแต่มีน้ำไปขังอยู่ได้

อ่านต่อ โรคไข้หวัดใหญ่ กับอาการเด่นๆ ที่สังเกตได้ หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up