คลิปรายการแชร์ก่อนมั่ว เรื่อง ฝนตกให้ปิดจมูก ไม่ใช่ปิดหัว
ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและโรคภัยต่างๆที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์อาจไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเชื่อวิธีป้องกันตามคลิปจะช่วย ลูกป่วยเพราะเปียกฝน ได้จริงหรือไม่ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะผลที่เกิดขึ้นตามมาอาจกระทบสุขภาพของลูกน้อยอย่างคาดไม่ถึงได้
เจาะลึก 10 เรื่องจริงที่พ่อแม่ต้องรู้ ป้องกัน ลูกเป็นหวัดเพราะเปียกฝน
“อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน” แต่ถึงจะไม่กลัวฝนก็ควรจะกลัวหวัด และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันเมื่อฝนตกเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้ ลูกน้อยเป็นหวัดเพราะเปียกฝน ฉะนั้นการป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่นเป็นวิธีดีที่สุดจะช่วยให้ลูกปลอดภัยจากโรค เรามาเจาะลึกเรื่องจริงเกี่ยวกับโรคหวัดในช่วงหน้าฝนกันเลยค่ะ
- เชื้อหวัดกระจายอยู่ในอากาศ ไม่ได้ขึ้นมาจากพื้นดิน
โรคหวัดส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งแพร่กระจายอยู่ในอากาศนับร้อยชนิด บางส่วนตกลงบนพื้นและเกาะตามฝุ่นละออง ร่างกายของคนเราสัมผัสกับเชื้อไวรัสเหล่านี้ตลอดเวลา เมื่อฝนใกล้ตกและมีลมพัดแรง ก็จะหอบเอาเชื้อไวรัสที่ปริมาณมากมาสัมผัสร่างกาย จึงเพิ่มโอกาสติดเชื้อมากขึ้น
- พยายามอย่าให้ศีรษะโดนฝนดีที่สุด
เมื่อฝนตก อุณหภูมิของอากาศรอบตัวจะลดลงอย่างรวดเร็ว และหากเราตากฝน อุณหภูมิของร่างกายก็จะลดลงทันทีเช่นกัน หัวที่เปียกฝนไม่ได้เป็นช่องทางของเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย แต่ทำให้อุณหภูมิพื้นผิวของเยื่อบุจมูกลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เชื้อไวรัสเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะไวรัสที่ตกค้างอยู่บริเวณโพรงจมูก และบวกกับไวรัสปริมาณในอากาศที่เราสูดหายใจเข้าไป
เมื่อภูมิต้านทานไม่สามารถสู้กับเชื้อไวรัสปริมาณมากได้อีกต่อไป จึงเกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก ต้นเหตุของอาการจาม และน้ำมูกไหล จึงหนีไม่พ้นที่ ลูกเป็นหวัดเพราะเปียกฝน วิธีดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงโรคหวัดช่วงหน้าฝน คือ อย่าให้ลูกเปียกฝน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ควรจะหาอะไรคลุมศีรษะไว้ก่อนดีกว่า
- ปิดจมูกไม่ได้ช่วยป้องกันหวัดเมื่อตากฝน
การปิดจมูกขณะฝนตกไม่ใช่วิธีช่วยให้ลูกพ้นจากการรับเชื้อหวัด เพราะร่างกายที่เปียกชื้น และอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เชื้อไวรัสที่มีอยู่บนร่างกายเจริญเติบโตต่อได้ ทั้งนี้ การปิดจมูกด้วยหน้ากากอนามัย เหมาะสำหรับกับ ลูกป่วยเพราะเปียกฝน อยู่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่กระจายเชื้อไปยังคนอื่นมากกว่า โดยเฉพาะเวลาไปยังสถานที่สาธารณะ หรือบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกคุ้นเคยกับการใส่หน้ากากอนามัยตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อสุขอนามัยที่ดีเหมือนกับการล้างมือเป็นประจำ
- ตากฝนกับอาบน้ำสระผมไม่เหมือนกัน
คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่า ทำไมตอนลูกน้อยอาบน้ำสระผมเปียกโชกไปทั้งตัวไม่เห็นแสดงอาการป่วย แต่พอตากฝนกลับเป็นหวัดซะแล้ว ความจริงก็คือ แม้ร่างกายจะเปียกเหมือนกัน แต่อุณหภูมิของร่างกายไม่ได้เปลี่ยนแปลงเฉียบพลัน เวลาอาบน้ำลูกอยู่ในพื้นที่จำกัด ไม่ได้อยู่ในพื้นสาธารณะที่เชื้อโรคกระจายตัวอยู่มาก
ที่สำคัญ ลูกใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงนาน ก็ได้เช็ดตัว เช็ดหัวให้แห้งแล้ว แต่ถ้าลูกต้องอยู่กลางฝน กว่าจะได้เข้าบ้านอาจใช้เวลานานกว่า ยิ่งตัวเปียกนานเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่ ลูกเป็นหวัดเพราะเปียกฝน ได้มากขึ้นเท่านั้น
- น้ำฝนชะล้างเชื้อไวรัสไม่ได้
อย่างที่บอกไปว่าเชื้อไวรัสสามารถเกาะตามพื้นดิน ละอองฝุ่นได้ ย่อมเกาะอยู่บนเม็ดฝนและลอยอยู่อากาศได้เช่นกัน หากเด็กมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงจะต่อสู้กับเชื้อโรคได้ แต่ลูกน้อยวัยศูนย์ขวบควรหลีกเลี่ยงการอยู่นอกบ้าน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ ลูกป่วยเพราะเปียกฝน หรือแม้แต่ตอนที่ฝนตกหนักจะหยุดสนิทแล้ว เพราะยังมีเชื้อโรคอยู่ในอากาศ แถมอุณหภูมิต่ำยังกระตุ้นให้เด็กๆ ป่วยได้ง่าย
อ่านต่อ “เจาะลึกสิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้ (ต่อ)” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่