ตามปกติกระดูกของเด็กจะมีความยืดหยุ่นสูง รองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าผู้ใหญ่ แต่ขณะเดียวกันมวลกระดูกยังเจริญไม่เต็มที่จึงเปราะบางและแตกหักได้ง่าย ลักษณะของกระดูกหักวัยเด็ก มีหลายรูปแบบต่างๆ เช่น กระดูกหักมีแผล กระดูกหักไม่มีแผล กระดูกหักแต่ไม่ขยับ กระดูกหักและขยับ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
- กระดูกเดาะ เป็นกระดูกที่หักเฉพาะส่วนที่ถูกกระแทกด้านเดียว ทำให้อีกด้านโก่งขึ้น
- กระดูกหักแบบโดนแรงอัด เกิดจากการกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้กระดูกย่นเข้าหากันแต่ไม่ขยับออกจากกัน
- กระดูกโก่งงอ จะไม่มีรอยหักหรือแตก มักไม่พบในเด็กเล็ก
- หัวกระดูกหัก ซึ่งเป็นกระดูกอ่อนที่แผ่นการเจริญเติบโต (Growth Plate) ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ หากกระดูกส่วนนี้ของเด็กหักและได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง กระดูกส่วนนี้ก็จะโตช้ากว่าส่วนอื่นของร่างกาย
วิธีปฐมพยายามเมื่อลูกกระดูกหัก
หลังเกิดอุบัติเหตุและสังเกตอาการแล้วมีเกณฑ์ว่าลูกกระดูกหัก ให้รีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที เพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า ห้ามรักษาด้วยตัวเอง หรือปล่อยทิ้งไว้ให้หายเองเป็นอันขาด เพราะจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างกระดูกของลูกเมื่อโตขึ้น โดยสามารถปฐมพยาบาลตามลำดับดังต่อไปนี้
พยายามให้ลูกอยู่นิ่งๆ มากที่สุด2.ประคบเย็นบริเวณที่คาดว่ากระดูกหัก พร้อมกับยกส่วนนั้นให้สูงขึ้น อาจรองด้วยหมอนสูง เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดและอาการบวม
ถ้าเป็นลูกเบบี๋ไม่ควร “ประคบด้วยน้ำแข็ง” เป็นอันขาดเพราะความเย็นจัดสามารถทำลายผิวบอบบางของลูกได้
ถ้าจำเป็นห้องถอดเสื้อผ้าเพื่อดูแผล ควรใช้กรรไกรตัดให้ขาดแทนการถอดปกติ เพื่อป้องกันการขยับตัว
ถ้ากระดูกหักที่ขาหรือแขน ควรดามด้วยวัสดุแข็งแรง เช่น ไม้ หรือกระดาษม้วนเป็นแท่งโดยกะความยาวเกินส่วนที่กระดูกหักออกไปเล็กน้อย แล้วใช้ผ้าพันจนแน่นไม่ให้ขยับตัว
ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ศีรษะ คอ และหลัง หากเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาด หากมีแผลใช้ผ้าสะอาดห้ามเลือดก่อน
อย่าจัดกระดูกเข้าที่ด้วยตัวเองโดยเด็ดขาด
อย่าให้ลูกกินยาลดปวด งดดื่มน้ำไว้ล่วงหน้าเผื่อจำเป็นต้องผ่าตัด
เสื้อผ้าแบบนี้ต้องระวัง อาจทำลูกเจ็บตัว
ในช่วงวัยเบบี๋ที่คุณแม่ใกล้ชิดกับลูกตลอดเวลา การเลือกใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญเพราะส่วนประกอบบนเสื้อผ้า เนื้อผ้า หรือความยาวอาจทำให้เเกิดอุบัติเหตุจนลูกเจ็บตัวได้ ลักษณะเสื้อผ้าที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่
ชุดกระโปรงที่ยาวเกินไป ซึ่งยาวจนถึงตาตุ่ม อาจทำให้สะดุดล้มขณะอุ้มลูก หรือกรณีใส่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ชายกระโปรงอาจเข้าไปติดในซี่ล้อจนเกิดอุบัติเหตุได้
เสื้อผ้าที่มีการปักเลื่อม ปักหมุน อาจครูดใบหน้าของลูกขณะอุ้มได้ หรือมีชิ้นส่วนเล็กๆที่หลุดออกได้ง่าย คุณแม่ต้องระวังให้ดี เพราะหากมีส่วนใดหลุดเข้าปากลูกแบบไม่รู้ตัว
เสื้อที่เป็นผ้าตาข่าย ลูกไม้ หรือกางเกงยีนมีรูขาด อาจเกี่ยวกับนิ้วมือเล็กๆของลูกจนบาดเจ็บได้
ทางที่ดีคุณแม่ควรเลือกใส่เสื้อผ้าเรียบๆ ไม่มีส่วนประดับตกแต่งมากเกินไป โดยเฉพาะบริเวณหน้าอกซึ่งเสี่ยงสัมผัสกับลูกมากที่สุด ถ้าเป็นชุดมีกระดุมควรเลือกขนาดเม็ดให้ใหญ่สักหน่อยก็จะปลอดภัยขึ้น
บทความน่าสนใจอืิ่นๆ
อุทาหรณ์! หมอเตือนดัดขาลูกจนขาหัก
เมื่อแม่ ละสายตาจากลูก ทำให้ของเล่นทับจนเสียชีวิต!
แทรมโพลีนมรณะ ยิ่งโดด ยิ่งสนุก ยิ่งสูง ยิ่งตาย
แหล่งข้อมูล www.pobpad.com medthai.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่