กรมควบคุมโรคเตือน! "โรคคางทูม ระบาด" ป่วย 1,466 คนแล้ว - Page 2 of 2 - Amarin Baby & Kids
โรคคางทูม

กรมควบคุมโรคเตือน! “โรคคางทูม ระบาด” ป่วย 1,466 คนแล้ว

Alternative Textaccount_circle
event
โรคคางทูม
โรคคางทูม

ทำความรู้จักกับ “โรคคางทูม” สาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกัน

โรคคางทูม คืออะไร?

คางทูม (Mumps) เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ที่ติดเชื้อไวรัสจากคนสู่คน โดยสัมผัสละอองน้ำลายของผู้ที่ติดเชื้อได้จากการไอหรือจาม ไวรัสจะเคลื่อนจากระบบทางเดินหายใจไปยังต่อมน้ำลายบริเวณข้างหู เมื่อต่อมนี้เกิดการอักเสบจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและบวมแดง นอกจากนี้ ถ้าไวรัสแพร่กระจายเข้าสู่น้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังแล้ว ก็อาจจะแพร่ไปที่อื่นในร่างกายส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ภาวะแทรกซ้อนในระบบสืบพันธุ์ เป็นต้น

การติดต่อของ โรคคางทูม

โรคนี้ติดต่อกันได้โดยตรงทางการหายใจและสัมผัสกับน้ำลายของผู้ป่วย เช่น การกินน้ำและอาหารโดยใช้ภาชนะร่วมกัน (อ่านต่อ 9 โรคติดต่อทางน้ำลาย ติดต่อได้ง่าย ๆ แค่กินน้ำแก้วเดียวกัน) พบในเด็กได้ทุกอายุ ถ้าเป็นในผู้ใหญ่จะมีอาการรุนแรงและมีโรคแทรกซ้อนได้บ่อยกว่าในเด็ก ระยะที่ติดต่อกันได้ง่ายคือ จาก 1-2 วัน (หรือถึง 7 วัน) ก่อนมีอาการบวมของต่อมน้ำลาย ไปจนถึง 5-9 วัน หลังจากมีอาการบวมของต่อมน้ำลาย ระยะฟักตัวของโรคคือ 16-18 วัน แต่อาจสั้นเพียง 12 วัน และนานถึง 25 วัน หลังสัมผัสโรค

อาการของ โรคคางทูม

ส่วนมากจะเป็นในเด็กวัยเรียน ระยะเริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ และอ่อนเพลียภายใน 12-24 ชั่วโมงต่อมา จะมีอาการปวดบริเวณข้างแก้มและใบหู อาการปวดเป็นมากขึ้นเวลาขยับขากรรไกร หรือเวลาที่รับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว ต่อมน้ำลายบริเวณขากรรไกรบวมและลามไปยังหลังใบหู ต่อมน้ำลายจะบวมมากขึ้นในเวลา 1-3 วัน ส่วนใหญ่มักเริ่มข้างเดียวก่อน แล้วเป็นที่ต่อมน้ำลายอีกข้างตามมา หลังจากนั้นอาการบวมจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3-7 วัน อาการต่าง ๆ จะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน

นอกจากนี้อาจพบอาการอักเสบของต่อมชนิดอื่น ๆ ได้ เช่น ตับอ่อน เต้านม ต่อมธัยรอยด์ ท่อน้ำตา เส้นประสาทตา เป็นต้น มารดาที่ติดเชื้อในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะมีโอกาสแท้งมากขึ้น

วัคซีนโรคคางทูม
วัคซีนโรคคางทูม

วิธีการป้องกันโรคคางทูม

การฉีดวัคซีนป้องกันโรคคางทูม เป็นการป้องกันโรคได้ดีที่สุด โดยวัคซีนจะถูกจัดมาในรูปของวัคซีนรวมป้องกันโรคหัต คางทูม หัดเยอรมัน (วัคซีน MMR) อย่างน้อย 2 ครั้ง วัคซีนผลิตมาจากเชื้อมีชีวิตฤทธิ์อ่อน (Live attenuated vaccine) กำหนดให้ฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 9-12 เดือน ส่วนเข็มที่สองให้ฉีดที่อายุ 2 ปีครึ่ง

อาการข้างเคียงหลังฉีด MMR อาจมีตั้งแต่เป็นน้อยจนถึงมาก ซึ่งอาการที่เป็นมากจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่า อาจมีไข้และผื่น หลังฉีดไป 6-12 วัน นอกจากนี้อาจพบเกล็ดเลือดต่ำ อาการปวดข้อ ข้ออักเสบในวัยหญิงเจริญพันธุ์ ต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมน้ำลายพาราติดอักเสบ และอัณฑะอักเสบในผู้ชาย

หลังได้รับวัคซีนดังกล่าว เด็กจะมีภูมิคุ้มคันต่อเชื้อไวรัสคางทูม หรือฉีดให้แก่เด็กวัยเรียนหรือวัยรุ่นที่ยังไม่เคยเป็นโรคคางทูม โรคนี้เป็นแล้วมักจะไม่เป็นอีก

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

โรคเด็ก ที่พบบ่อย โรคในเด็ก ยอดฮิต พ่อแม่ต้องระวัง

ไข้เลือดออก 2562 สายพันธุ์ร้ายที่สุดระบาด! ตายแล้ว 62 คน

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 2562 เช็กวันเวลา-สถานที่ ที่นี่!!

อนุมัติแล้ว! เด็กไทยฉีด “วัคซีน HIB” ฟรี!! ป้องกันได้ 5 โรค

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : สสส., พบแพทย์, HonestDocs

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up